- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 15 April 2020 15:21
- Hits: 1812
บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 15-4-2020
Market Wrap-Up
- • SET ปิดวันที่ 14 เม.ย.63 ที่ระดับ 1,256.35 จุด ปิด +19.57 จุด มูลค่าการซื้อขาย 76,434 ลบ.ต่างชาติขาย 1,188 ลบ. สถาบันซื้อ 2,598 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 911 ลบ.ยอด NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 101 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น BAM,ADVANC,AOT,GULF,CRC และมียอดขายหุ้น CPALL,TOP,MINT,BEM,SAWAD มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 804 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ MINT,AOT,GULF โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 3,638 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 116,742 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 476 ลบ.
- • ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones +2.39% ,S&P500 +3.06% ,Nasdaq +3.95% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เช่น Apple, Amazon,Google หลังการระบาดไวรัส Covid-19 คาดได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ประธานาธิบดีทรัมป์เผยบางรัฐอาจกลับมาเปิดเศรษฐกิจได้ในวันที่ 1 พ.ค. ส่วนรายงานผลประกอบการ Q1/63 ของ เจ.พี.มอร์แกน ต่ำกว่าคาดการณ์ ตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี Stoxx600 ปิด +0.64% ได้แรงหนุนจากรายงานยอดส่งออกและนำเข้าของจีน มี.ค. ลดลงน้อยกว่าคาด ขณะที่สเปนได้กลับมาธุรกิจบางประเภทในวันจันทร์ที่ผ่านมา
Market View
- • ภาวะการลงทุนตลาดเอเชียวานนี้ได้แรงหนุน หลังจีนรายงานยอดส่งออก มี.ค. -6.6 % YoY ชะลอตัวน้อยกว่าคาดจะลด -13.9 % YoY ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปได้ปัจจัยหนุนจากคาดการณ์การระบาดของไวรัส Covid-19 ได้ผ่านช่วงสูงสุดไปแล้ว โดยประธานาธิบดีทรัมป์เผยในบางรัฐอาจจะเริ่มเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง ขณะที่สเปนได้เริ่มเปิดบางธุรกิจในวันจันทร์ที่ผ่านมาแล้ว สำหรับ IMF ก็ได้เผยคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจโลกปีนี้จะหดตัว -3.3 % และคาดจะฟื้นตัวในปีหน้า +5.8 % โดยเศรษฐกิจสหรัฐปีนี้คาด -5.9 % , ยูโรโซนคาด -7.5 % และจีนคาด +1.2 % ส่วนตลาดน้ำมัน WTI วานนี้ปิด -10.3 % จากความกังวลอุปสงค์ชะลอตัว ภาพรวมนักลงทุนยังรอการรายงานกำไร บจ. Q1/63 โดย S&P500 คาด -10.2 % YoY และ Stoxx600 คาด -22 % YoY สำหรับดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิด +1.58 % สถาบันซื้อสุทธิ 2.5 พัน ลบ. ได้ปัจจัยหนุนจากรายงานผู้ติดเชื้อใหม่เริ่มทรงตัว และคาดอาจมีการผ่อนคลายกฏเคอร์ฟิวส์ เพื่อเปิดบริการบางธุรกิจได้ในเดือนหน้า ขณะที่ พรก.เงินกู้ 1 ล.ลบ. จะเข้าการพิจารณา ครม.วันนี้ และจะทูลเกล้า ฯ ต่อไป เม็ดเงินจะเข้าสู่ระบบได้ในช่วงปลาย พ.ค. นี้ ขณะที่ S&P ได้ปรับมุมมองเครดิตสู่ระดับปานกลาง ที่ระดับ BBB+ ไม่ได้ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นมากนัก เป็นการปรับลดตามเศรษฐกิจชะลอตัวจากไวรัสระบาด
Daily Strategy•
กลยุทธ์การลงทุน วาง Filter แนวรับดัชนีที่ 1,235 – 1,240 จุด และ Sell on Strength หากดัชนีปรับขึ้นสู่ระดับ 1,280 จุด เนื่องจากราคาหุ้นฟื้นตัวขึ้นมาแรง แต่ยังถูกกดดันจากผลประกอบการ Q1 – Q2 ที่ชะลอตัว ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไร MBK, CENTEL, MINT
- • กลุ่มที่ได้รับประโยชน์หากรัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการ Lockdown จากสถานการณ์ผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ในประเทศไทยที่ลดลงต่อเนื่อง ทำให้คาดหวังได้ว่ารัฐจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการ Lockdown แบบเป็นขั้นบันได โดยธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภค การจับจ่ายใช้สอยน่าจะถูกปลดล็อกก่อน เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร พื้นที่เช่า อย่างไรก็ตามหุ้นบางตัวปรับขึ้นมาแล้ว ดังนั้นเราจึงเลือกตัวยังปรับขึ้นน้อยกลุ่ม เช่น MBK, LH, SF กลุ่มร้านอาหารในห้าง CENTEL, MINT, ZEN ส่วนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเราคิดว่ารัฐจะยังไม่รีบปลดล็อกเพราะมีความเสี่ยงด้านการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานและการแพร่ระบาดของผู้เดินทางเข้าประเทศไทย ดังนั้น ERW, AAV, AOT จะถูกปัจจัยลบกดดันอยู่ แต่ก็น่าจะมีการทยอยฟื้นตัวในระยะถัดไป
- • WHA (ทยอยซื้อสะสม / ราคาเป้าหมาย 3.50 บาท) เริ่มทยอยซื้อสะสมหุ้นในกลุ่มนิคมหลังจากที่ราคามีการปรับฐานลงมารับความเสี่ยงต่างๆในระดับหนึ่งและเริ่มเห็นการฟื้นตัว สำหรับ WHA หลังการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นเราประเมินว่าไม่กระทบต่อภาพรวมการบริหารงาน สำหรับธุรกิจหลักในปีนี้เริ่มจากธุรกิจพัฒนานิคมเราคาดว่ายอดโอนที่ดินอาจจะทำได้น้อยกว่าปีก่อนตาม Presale ที่ต่ำเป้าในปี 2563 แต่สำหรับธุรกิจฝั่ง Recurring ไม่ว่าจะเป็นการให้เช่าโรงงานและคลังสินค้ายังมีทิศทางเติบโตได้ต่อตามการขยายตัวของ Logistic สำหรับกำไรสุทธิปี 2563-2564 เราประเมินไว้ที่ระดับ 3.4 พัน ลบ. และ 3.7 พัน ลบ. +7.4%YoY, 8.6%YoY ตามลำดับ ในเชิงกลยุทธ์วันนี้เราแนะนำให้รอดูทิศทางราคาหลังการเปิดตลาดว่ายังรักษาระดับเหนือแนวรับรับที่ 2.80 บาทได้หรือไม่ถ้ายืนได้ค่อยทยอยซื้อแต่ถ้าหลุดลงมาก็ให้รอก่อน
Daily Key Factors
Oil Update (-) WTI Futures พ.ค. ปิด -2.30 ดอลลาร์ อยู่ที่ 20.11 ดอลลาร์/บาร์เรล Brent Futures มิ.ย. ปิด -2.14 ดอลลาร์ อยู่ที่ 29.60 ดอลลาร์/บาร์เรล ยังกังวลต่ออุปสงค์ความต้องการใช้น้ำมันที่ชะลอตัว และคาดการลดกำลังผลิตของกลุ่มโอเปกพลัสที่ระดับ 9.7 mb/d ยังไม่เพียงพอรับกับอุปสงค์ที่หายไปจากตลาดน้ำมันราว 20 – 30 mb/d
Gold Update (+) Gold Futures มิ.ย. ปิด +7.50 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,768.90 ดอลลาร์/ออนซ์ เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในภาวะเศรษฐกิจมีความเสี่ยงชะลอตัว และกองทุน SPDR Gold Trust รายงานการถือครองทองคำสูงสุดที่ระดับ 1,009.70 ตัน ขณะที่ดัชนี Dollar Index อ่อนค่า -0.46 % อยู่ที่ 98.8946
Fund Flow (-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ขายสุทธิ -88.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -36.3 ล้านดอลลาร์ ขายหุ้นอินโด -27.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -25.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าเล็กน้อย อยู่ที่ 32.62 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(+) ดัชนี BDI ปิด +44 จุด อยู่ที่ 679 จุด
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี อยู่ที่ 0.744 % , 2 ปี อยู่ที่ 0.217 %
(+) ค่าเงินหยวน off-shore แข็งค่า อยู่ที่ 7.0431/USD
(-) สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัส 605,193 ราย เสียชีวิต 25,757 ราย
(-) สเปนมีผู้ติดเชื้อไวรัส 172,541 ราย เสียชีวิต 18,056 ราย
(-) อิตาลีมีผู้ติดเชื้อไวรัส 162,488 ราย เสียชีวิต 21,067 ราย
Economic Calendar
ในประเทศ
สัปดาห์ที่ 3 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม, ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
สัปดาห์ที่ 3 กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
สัปดาห์ที่ 4 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.)แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
สัปดาห์ที่ 4 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
30 เม.ย. ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
ต่างประเทศ
15 เม.ย. US ดัชนียอดขายปลีก (มี.ค.)
US การรายงานสต๊อกน้ำมันดิบ
16 เม.ย. US รายงานจำนวนใบอนุญาตก่อสร้าง (มี.ค.)
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US ดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย (เม.ย.)
17 เม.ย. CN ดัชนีจีดีพี (GDP) ของจีน (ไตรมาส 1)
CN ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน (มี.ค.)
EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (มี.ค.)
Theme Strategy
(1) กลุ่ม Defensive Stock BCPG*, BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*, ADVANC, INTUCH*, BDMS*, BCH*
(2) กลุ่มที่อิงการบริโภคในปรเทศ ADVANC, INTUCH*
(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL เพิ่ม BAM*, CHAYO*, JMT*
(4) กลุ่มส่งออกอาหารเงินบาทอ่อนค่า CPF*, GFPT*, TFG*, TU*
(5) กลุ่มการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจอีอีซี AMATA, WHA
(6) กลุ่มรับประโยชน์จากราคาน้ำมันขาลง IRPC, TOP, PRM*
(7) กลุ่มรับประโยชน์จากปลดล็อก พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 CK, STEC, SEAFCO*, TASCO*
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio Apr 2020: ADVANC, BJC*, BPP*, CPALL*, CPF*, TU*
Analysts
Apichai Raomanachai No. 002939
Nopporn Chaykaew No. 043964
Piyatat Pasommanatsakul No. 081741
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web