- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 15 April 2020 11:28
- Hits: 2088
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 15-4-2020
“IMFเตือนเศรษฐกิจโลกวิกฤต แต่ดาวโจนส์ยังทะยาน”
- • หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : COM7 (จากซื้อเป็นถือ)
ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า : SET วานนี้รับข่าวดี ไทยทยอยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มลดลง ปิด +19.57 จุด ที่ 1256.35 จุด มูลค่าซื้อขายดีขึ้น 76 พันลบ. SET บวกเหมือนภูมิภาค ไปทำไฮถึง 1267.55 จุด แต่กลับมีแรงขายทำกำไรเมื่อ ศบค.เปิดเผยผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 34 ราย จากก่อนหน้าที่ 28 ราย แต่ก็มีแรงซื้อกลับช่วงท้ายตลาดฯ ขายสุทธิมาก-รายย่อย ซื้อสุทธิมาก-สถาบัน ต้นปีถึงปัจจุบันต่างชาติขายสุทธิเป็น 137 พันลบ.แล้ว
# ปัจจัยและกลยุทธ์:
SET อาจถูกทำกำไรบ้างจาก IMF เตือนเศรษฐกิจ แต่เก็งกำไรโควิดคลายหนุน ปัจจัยลบจากต่างประเทศมีมาก คือ IMF เตือนวิกฤตเศรษฐกิจโลก พร้อมปรับ GDP โลกปีนี้ -3% ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลก 2 ล้านราย สหรัฐมีดัชนีราคานำเข้า มี.ค.ลดลง ต่ำสุดตั้งแต่ ม.ค.58 น้ำมันสป็อตวานนี้ร่วงแรง 10%กังวลอุปสงค์ต่ำ แม้ลดกำลังการผลิต ทองคำขึ้นดี นักลงทุนยังเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย ดาวโจน์ล่วงหน้าเช้านี้กลับมาปรับลง และไทย S&P ปรับลดเครดิตพันธบัตรไทย ส่วนปัจจัยบวกคือ ผู้ป่วยรับการรักษาที่นิวยอร์คลดลงเป็นครั้งแรก ทรัมป์อาจเปิดเศรษฐกิจเร็วขึ้น ดาวโจนส์วานนี้เพิ่มถึง 559 จุด เช้านี้ตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน Mixและน้ำมันล่วงหน้าฟื้นตัวได้ ดัชนีกังวล VIX ลดลงอีกเป็น 37.8 จุด ด้านไทยจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มยังเป็นตัวเลขสองหลัก ต้องติดตามระยะกลาง-ยาว กลยุทธ์ระยะสั้นเข้าไว-ออกไว เล่นรอบรีบาวด์
โดยเฉพาะเมื่อดัชนีอ่อนลง ด้านกลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว คือ เน้นรายตัว หลักทรัพย์พื้นฐานดีที่แนะนำซื้อ Defensive-ADVANC,CHG ปันผลสูง-KKP,TISCO,AP,LH เติบโต-ฟื้นตัว- MTC,STEC,VGI กลุ่มพาณิชย์เด่นจากนโยบายรัฐแจก 5 พันบาท- CPALL,BJC,HMPROบาทอ่อน-ส่งออกดี- CPF ขนส่ง- หุ้นปรับลงมากไป BEM,BTS หุ้น Dark Horse- คือปีนี้กำไรแย่ แต่ปีหน้าฟื้นตัวหากโควิด-19 คลี่คลาย AOT, ERW,MINT, CPN,AAV,LH,AP เป็นต้น แนวรับคือ 1200 หรือ 1190 แนวต้าน 1260-1270 และ Stop Loss ที่ต่ำกว่า 1245 จุด
# Stock Pick Today :
BTS โดดเด่นจาก 3 โครงการศักยภาพ 1) งานบริหารสนามบินอู่ตะเภา 2) โครงการมอร์เตอเวย์ 2 สาย และ 3) โครงการร่วมทุนรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนขยายที่จะทำให้ได้ต่ออายุสัมปทานปัจจุบันไปอีก 30 ปี จากที่จะหมดลงใน 10 ปีข้างหน้า คาดว่าโครงการดังกล่าวจะทยอยมีความคืบหน้า ภาครัฐให้การสนับสนุน และช่วยเพิ่มมูลค่ายังราคาหุ้น คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐานปรับขึ้นเป็น 12.80 บาท ด้วย SOP เมื่อรวมมูลค่า 3 โครงการข้างต้น ยังมี upside 12%
การวิเคราะห์ทางเทคนิค: สั้น...ภาพเป็นบวกเล็กๆต่อ แต่พร้อมจะอ่อนตัวลงมา ระยะกลางยังเป็นโครงสร้างขาลงกดดัน ระยะสั้น สัญญาณCandlestick & Indicators ให้ภาพบวกเล็กๆต่อ แต่เป็นแบบพร้อมที่จะอ่อนตัวลงตามมา {“ปิดบวก”เหนือ“SMA10วัน”ต่อ (แต่“ติดแนวต้านสำคัญ” และมี“โครงสร้างขาลง–ระยะกลาง”กดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบยังให้น้ำหนักกับการลง แต่“ค่าบวก”(มีSMA10วัน“หนุน”) จะทำให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1260 – 1270 (หรือ 1280) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1245” (แนวรับย่อย “1200 / 1190 – 1180”)}
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Company Guide : CHG (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 2.80)
COM7 (ถือ -ราคาพื้นฐาน 20.00)
BTS (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 12.80)
Flash Note : MTC (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 58.00)
PTTEP (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 85.00)
In The News : ข่าวเด่นวันนี้
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
-IMF: คาดเศรษฐกิจโลกปีนี้จะเผชิญวิกฤตการเงินที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1930
# IMF ระบุว่า เศรษฐกิจโลกในปีนี้จะประสบกับวิกฤตการเงินที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในช่วงทศวรรษ 1930 โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะหดตัวลง 3% ในปีนี้ ซึ่งสวนทางการคาดการณ์ในเดือนม.ค.ที่ระบุว่า เศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 3.3% ในปีนี้
-โควิด-19: ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกสูงเป็น 1.98 ล้านราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นแตะ 125,007 ราย สหรัฐสูงสุด
# worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 1,980,704 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 125,007 ราย
# ทั้งนี้ สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (602,977) รองลงมาคือสเปน (172,541), อิตาลี (162,488),ฝรั่งเศส (143,303) และเยอรมนี (131,170)
+ สหรัฐ: ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทั่วรัฐนิวยอร์กลดลงเป็นครั้งแรก ตั้งแต่มีการระบาด
# สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยนายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กเปิดเผยว่าจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทั่วรัฐนิวยอร์กลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด โดยเขาตั้งข้อสังเกตว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ชะลอตัวลงหลังจากรัฐบาลใช้มาตรการล็อกดาวน์
+/- สหรัฐ: ทรัมป์อาจจะประกาศให้มีการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งในช่วง 1-2 วันนี้
# นายแลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ปธน.ทรัมป์อาจจะประกาศให้มีการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งในช่วง 1-2วันข้างหน้านี้ หลังจากวิกฤตการณ์ด้านสาธารณสุขเริ่มผ่อนคลายลง แต่อาจจะเป็นข่าวลบในแง่ว่าการติดเชื้ออาจจะเพิ่มขึ้นอีก
- สหรัฐ: ดัชนีราคานำเข้าดิ่งลง 2.3% ในเดือนมี.ค. ปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.58
# กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าดิ่งลง 2.3% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2558 หลังจากร่วงลง 0.7% ในเดือนก.พ. ขณะที่ดัชนีราคาส่งออกดิ่งลง 1.6% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือนซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2558 หลังจากลดลง 1.1% ในเดือนก.พ.
+ ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 558.99 จุด รับความหวังสหรัฐเปิดเศรษฐกิจ,สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (14 เม.ย.) ขานรับมุมมองบวกที่ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐนิวยอร์กซึ่งมีรายงานว่าจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากความหวังที่ว่าคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์และกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง
- ตลาดน้ามัน: WTI ปิดร่วง $2.30 หรือ -10.3% วิตกโควิด-19 ฉุดดีมานด์น้ำมันทรุด,จับตาสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (14 เม.ย.) โดยนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่ทรุดตัวลงเนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แม้ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันแล้วก็ตาม นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับแรงกดดันหลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้ เนื่องจากผลกระทบของโควิด-19
- • ทองคำ: ปิดบวก $7.5 นักลงทุนรุกซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยเหตุกังวลโควิด-19 ฉุดเศรษฐกิจ
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ (14 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุตลาดทองคำ
- • ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจทยอยประกาศสัปดาห์นี้
# ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค., ดัชนีภาคการผลิต(Empire State Manufacturing Index) เดือนเม.ย.จากเฟดนิวยอร์ก, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนเม.ย.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.พ., รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนมี.ค., ดัชนีการผลิตเดือนเม.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนมี.ค.จาก Conference Board
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
-/• วานนี้จำนวนผู้ติดเชื้อไทยเพิ่ม 34 ราย มากกว่าก่อนหน้าที่ 28 ราย
# นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อเพิ่มขึ้น 34 คน ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยสะสมรวมทั้งสิ้น 2,613 คน จำนวนผู้ป่วยที่กลับบ้านได้แล้วรวมทั้งสิ้น 1,405 คน รักษาอยู่ 1,167 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1 คน รวมเป็นผู้เสียชีวิตสะสม 41คน
# ผลกระทบ: แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อไทยจะกลับมาเพิ่มขึ้น แต่ยังเป็นตัวเลข 2 หลัก และควรพิจารณาที่เป็นระยะยาวมากกว่า
-S&P ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลไทย
# สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ (S&P) ปรับแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือ (Creditrating outlook) ของพันธบัตรรัฐบาลไทยลงมาเป็น "คงที่" จาก "บวก" หลังจากที่ปรับขึ้นมาเป็นบวกในวันที่ 13 ธันวาคมโดยในเวลานั้น S&P ประเมินว่าการเมืองไทยมีเสถียรภาพมากขึ้นภายหลังการเลือกตั้ง โดยคงอันดับความน่าเชื่อถือที่BBB+
# สำหรับสาเหตุที่ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือ ได้แก่ ผลกระทบของการระบาดของไวรัสโคโรนาที่อาจส่งผลให้เศรษฐกิจไทยเข้าสู่ภาวะถดถอย และการเมืองไทยมีความไม่แน่นอนจากการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
-สมาคมธนาคารไทย มองผลกระทบจากวิกฤตการระบาดของไวรัสฯเป็น 7.7% ของจีดีพี
# ประธานสมาคมธนาคารไทย มองผลกระทบจากวิกฤตการระบาดของไวรัสฯ ในรอบนี้ สามารถประเมินเบื้องต้นเป็นเม็ดเงินสุทธิราว 1.3 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 7.7% ของจีดีพี โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยวรายได้หายไปถึง 1.1 ล้านล้านบาทอันทำให้เศรษฐกิจไทยมีโอกาสหดตัวลึกใกล้เคียงกับปี 2540 และอาจจะลึกกว่านั้น หากการระบาดไม่สามารถควบคุมได้ภายในไตรมาส 2 ของปีนี้ อันจะทำให้ผลกระทบในเชิงตัวเงินใหญ่ขึ้นอีกจนอาจจะแย่กว่าวิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2540
- •/+ จะเปิดให้เริ่มยื่นอุทธรณ์ไม่ได้เงิน 5 พันบาท ไม่เกิน 21 เม.ย.63
# ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ระบุว่า ประชาชนที่ลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาจากรัฐบาล 5,000 บ. แล้วได้รับ SMS ว่าไม่เข้าเกณฑ์การได้รับเงินเยียวยานั้น ขอให้รอสัปดาห์หน้า อย่างช้าไม่เกินวันที่ 21 เม.ย.63 จะเปิดให้เริ่มยื่นอุทธรณ์ผ่านทางเว็บไซต์ เราไม่ทิ้งกัน.com
# ผลกระทบ: มีส่วนในเรื่องกำลังซื้อและจับจ่ายใช้สอยของประชาชน หากเปิดให้ได้รับเพิ่ม อีกทั้งมีข่าวจะช่วยเหลือแบบเฉพาะเจาะจง เช่น กลุ่มเกษตรกร เป็นต้น
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web