- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 14 October 2014 16:27
- Hits: 2059
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET ยังลุ้นทรงตัวหรือดีดขึ้นได้ แต่กรอบแคบ จึงเน้นขายมากกว่าซื้อ...
กลยุทธ์ : คาดว่าช่วงนี้ SET ยังมีสิทธิแกว่งทรงตัวและลุ้นจังหวะดีดกลับขึ้นให้เห็นได้บ้าง แต่โอกาสที่ดัชนีจะยืนทรงตัวได้นานหรือดีดขึ้นได้ไกลมีน้อย จากนั้นยังต้องระวังการปรับตัวลงใหม่ โดยเป้าหมายการไหลลงเรายังมองไว้แถว 1500 จุดหรือหลุดต่ำกว่าได้ ดังนั้นเราจึงยังแนะนำให้เน้นหาจังหวะขายทำกำไรลดพอร์ตต่อไป และควรเข้าเทรดดิ้งให้น้อยลงด้วย เพื่อรอหาจังหวะซื้อกันใหม่เมื่อดัชนีไหลลงไปใกล้ระดับดัชนีเป้าหมายก่อน
หุ้นเด่นทางเทคนิค : RCL, NCH, SPCG(buy back)
แนวโน้ม : เมื่อวานนี้แม้ว่า SET จะยังปรับตัวลงต่อเนื่อง แต่ก็มีแรงรับพอควร ทำให้ดัชนียังสามารถแกว่งทรงตัวอยู่ได้ เนื่องจากตัวเลขยอดส่งออกของจีนในเดือน ก.ย.ออกมาค่อนข้างดี ซึ่งช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นยุโรปในช่วงค่ำปิดเป็นบวกด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้กลับปิดปรับตัวลงแรงอีกครั้ง หลังจากครึ่งแรกของการซื้อขายดัชนีดาวโจนส์ยังแกว่งทรงตัวได้บ้าง แต่ความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจและภาวะการปรับฐานของอุตสาหกรรมเทคโนโลยียังคงกดดันอยู่ โดยคาดว่านักลงทุนยังรอดูรายงานผลประกอบการของภาคเอกชนอีกครั้ง ทำให้ FSS คาดว่า SET ยังมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวผันผวนและเคลื่อนไหวเป็นลบให้เห็นอีกได้ แต่กรอบการปรับตัวลงเช้านี้อาจจะยังไม่ลึกมากนัก เนื่องจากตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เริ่มที่จะแกว่งทรงตัวได้ดีขึ้นกันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งน่าจะทำให้ SET มีจังหวะแกว่งบวกสลับให้เห็นได้ด้วย แต่เราคาดว่ากรอบขึ้นยังแคบและสุดท้ายต้องระวังไหลลงต่อเนื่องไปหาระดับดัชนีเป้าหมายแถว 1500 จุดหรือต่ำกว่าตามคาดเดิมอยู่
แนวรับ 1540-1538 , 1534-1528 จุด แนวต้าน 1544-1548 , 1552-1558 จุด
Fund Flow วานนี้ยังไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคทุกตลาดในปริมาณที่หนาแน่นขึ้น โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ US$327.1 ล้าน ไต้หวัน US$281.1 ล้าน ไทย US$57.8 ล้าน อินโดนีเซีย US$48.8 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$24.7 ล้าน และเวียดนาม US$12.5 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะยังไหลออกต่อ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) โพลล์นักวิเคราะห์ปรับเป้าดัชนีขึ้นเป็น 1,574 จุดสิ้นปีนี้และ 1,706 จุดสิ้นปีหน้า เพิ่มขึ้นจากที่สำรวจเมื่อ พ.ค. ที่ 1,484 จุดสิ้นปีนี้ และ 1,698 จุดสิ้นปีหน้า และคาด EPS ปีนี้ +8.5% (ปรับลงจากเดิมที่ 10.3%) ปีหน้า +14.2% (เพิ่มจาก 12.9%) และคาดราคาทองคำสิ้นปีนี้ 18,681 บาทต่อบาททองคำ (ลดลงจากเดิมที่ 20,494 บาท) และเพิ่มเล็กน้อยเป็น 19,540 บาทต่อบาททองคำสิ้นปี 2015 (ลดจากเดิมที่ 20,875 บาท)
(+) FSMART เริ่มซื้อขายวันนี้ บริษัทเป็นผู้ให้บริการเติมเงินมือถือประเภทเติมเงินล่วงหน้าและบริการออนไลน์อื่นๆ ผ่านเครื่องรับชำระเงินอัตโนมัติระบบออนไลน์ ภายใต้ชื่อตู้ “บุญเติม” กำไรในอดีตโตก้าวกระโดดจากที่เคยขาดทุน 25 ล้านบาทในปี 2011 เป็น 87 ล้านบาทในปี 2013 เราคาดกำไรปี 2014-15 จะโตก้าวกระโดดต่อเนื่อง 65% Y-Y และ 34% Y-Y ตามลำดับ จากการเพิ่มจำนวนตู้เติมเงินบริการ และยังมีศักยภาพในการเติบโตจากการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เช่น ตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือร่วมกับการขายสินค้า เราประเมินมูลค่าหุ้นตามปัจจัยพื้นฐานปี 2015 ที่ 4.30 บาท (DCF) (FSS เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ SMART)
(+) TUF เราคาดกำไรปกติ 3Q14 ทำจุดสูงสุดใหม่ +26% Q-Q, +94% Y-Y ปรับเพิ่มกำไรปกติปี 2014-15 ขึ้น 12% และ 8% เป็นเติบโต 115% Y-Y ในปีนี้และ 22% Y-Y ปีหน้า เพิ่มราคาเป้าหมายปี 2015 เป็น 84 บาท จากเดิม 81 บาท (PE 15 เท่า) ยังแนะนำซื้อ อย่างไรก็ตาม Standard Charter Private Equity จะใช้สิทธิแปลงสภาพจากหุ้นกู้เป็นหุ้นสามัญแล้วเสร็จใน 4Q14 ซึ่งสามารถขายหุ้นได้ทันที อาจกดดันราคาหุ้นในระยะสั้น
(+) BJC ที่ประชุมผู้ถือหุ้นวานนี้อนุมัติให้เข้าซื้อ Metro เวียดนาม และเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิม 9:2 @45 บาท เรายังคงเป้าหมายปี 2015 ที่ 50 บาท ราคาหุ้นปรับลงแล้ว 12% หลังเราแนะนำขายเมื่อ 20 ส.ค. และเริ่มมี upside กว้างขึ้น จึงปรับคำแนะนำขึ้นเป็นซื้อ
(-) HEMRAJ ขายที่ดินได้ 225 ไร่ใน 3Q14 ดีขึ้น 28% Q-Q แต่ยังต่ำกว่า 3Q13 ถึง 71% ทำให้ยอดขายงวด 9M14 เป็น 522 ไร่ เราเชื่อว่าไม่น่าทำได้ตามเป้าทั้งปีที่ตั้งไว้ 1.2 พันไร่ แนวโน้มกำไรใน 2H14 จะลดลงจากครึ่งปีแรกเพราะมี Backlog รอโอนเหลือเพียง 1 พันล้านบาทเท่านั้น เรายังคงเป้าหมายปี 2015 ที่ 4 บาท และยังคงแนะนำขาย
(0) TISCO หากไม่รวมกำไรจากเงินลงทุนตราสารหนี้ 82 ล้านบาท กำไรปกติเป็นไปตามที่เราคาด +1.5% Q-Q, -11% Y-Y โดยรวมแล้วเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวของผลประกอบการ โดยส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น, Credit cost และ Cost to income ลด แต่สินเชื่อหดตัวต่อ -2% Q-Q, -6.5% YTD และ NPL เพิ่ม 1.6% Q-Q แต่เพิ่มในอัตราที่ชะลอ เราปรับลดกำไรสุทธิปี 2014-15 ลง 2.7% และ 6.7% โดยปรับลดสินเชื่อปีนี้เป็น -5% ปีหน้า +8% ทำให้กำไรปีนี้ลด 8.7% Y-Y ปีหน้าโต 8.5% Y-Y ปรับลดเป้าหมายปี 2015 ลงเป็น 52 บาทจาก 57 บาท ยังแนะนำซื้อ เพราะ PE ที่ถูก 8.1 เท่าในปีหน้า
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมายังร่วงแรงต่อเนื่องอีกกว่า 200 จุด โดยนักลงทุนยังเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงจากความกังวลต่อแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ยังจับตาดูผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดบวกได้เล็กน้อยโดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ออกมาเป็นบวก แต่อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นยังคงจำกัดจากความกังวลต่อทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในกรอบแคบๆค่อนไปในแดนลบหลังตลาดหุ้นสหรัฐฯยังดิ่งลงแรง โดยยังขาดปัจจัยบวกใหม่ที่ชัดเจนเข้ามากระตุ้นตลาด
ค่าเงินบาทยังคงแกว่งตัวผันผวน ล่าสุดปรับตัวในกรอบ 32.34-32.50 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ย. ขยับลง 0.08 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 85.74 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากประเด็นเรื่องอุปทานน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางที่ยังคงมาก
ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ขยับขึ้น 8.30 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,230 ดอลลาร์/ออนซ์ จากดอลลาร์ที่พลิกมาอ่อนค่าจากความเสี่ยงเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่อาจส่งผลให้ FED จะยังคงดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไป
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
13-23 ต.ค. - ไทย: กลุ่มธนาคารประกาศงบการเงิน 3Q14
14 ต.ค. - ไทย: FSMART เทรดวันแรก (ราคา IPO 2.50 บาท)
- ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (ต.ค.)
15 ต.ค. - จีน: เงินเฟ้อ (ก.ย.)
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลางประชุม
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีกและเงินเฟ้อ (ก.ย.), Beige Book
16 ต.ค. - ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ก.ย.), ดุลการค้า (ส.ค.)
17 ต.ค. - ไทย: ยอดขายรถ (ก.ย.)
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits (ก.ย.)
- ยูโรโซน: 2Q14 GDP (ตัวเลขสุดท้าย)
21 ต.ค. - จีน: 3Q14 GDP, ยอดค้าปลีก (ก.ย.)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (ก.ย.)
23 ต.ค. - จีน: HSBC China Manufacturing PMI (ต.ค.)
- สหรัฐ: ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ต.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
