- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 07 April 2020 11:23
- Hits: 2685
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
KGI มอง COVID-19 อาจจะทำให้ต้องเลื่อนประมูลโครงการภาครัฐในปี 2563
อัพเดตแนวโน้มกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
การประมูลโครงการภาครัฐน่าจะต้องเลื่อน
เนื่องจากรัฐบาลเน้นให้ความสำคัญกับสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 เราจึงคาดว่าการเปิดประมูลโครงการภาครัฐ การอนุมัติ และการประชุมต่าง ๆ จะต้องถูกเลื่อน ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงกับ i) โครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีแดง (3 สัญญา มูลค่า 2.07 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะประมูลโดยวิธี e-bidding) ii) โครงการรถไฟทางคู่เฟสที่ 2 บางส่วน (ขอนแก่น – หนองคาย และจิระ – อุบลราชธานี มูลค่า 6.42 หมื่นล้านบาท) โดยที่ประชุมครม.วันนี้ จะอนุมัติให้โยกงบประมาณปี 2563 (จากการลดงบประมาณของทุกหน่วยงานลง 20% เพื่อจัดการกับสถานการณ์ COVID-19) ซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมยืนยันว่าการลดงบลง 20% จะไม่กระทบกับการลงทุนในโครงการภาครัฐ แต่อย่างไรก็ตาม การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ออกร่าง TOR โครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีส้มตะวันตกมาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเพื่อรับฟังความคิดเห็น ซึ่งหากไม่มีการแสดงความคิดเห็นเราก็คาดว่าจะออก TORได้ในเดือนมิถุนายน 2563
ประมาณการกำไรของกลุ่มรับเหมางานเสาเข็มอาจจะมี downside 19.5%-29.0%
สภาวะในตลาดอสังหาริมทรัพย์กำลังแย่ลงเนื่องจาก i) เศรษฐกิจมีแนวโน้มอ่อนแอลง ii) มีการปิดเมือง(ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์หยุดชะงัก) และ iii) รายได้ต่อครัวเรือนลดลงส่งผลให้มีการเปิดโครงการใหม่น้อยลง หรือมีการเลื่อนเปิดโครงการใหม่ ในขณะที่ทุกโครงการที่อยู่ในขั้นตอนของการเปิดประมูลถูกแขวนในช่วงที่เกิดโรคระบาด เราคิดว่าประมาณการกำไรของ SEAFCO (SEAFCO.BK/SEAFCO TB) มี downside 19.5% และของ PYLON (PYLON.BK/PYLON TB) มี downside 29.0% ถ้าหากว่าไม่มี backlog ใหม่เข้ามาเลยในปี 2563 เพราะ backlog ในปัจจุบันคิดเป็นแค่ 86% และ 69% ของประมาณการรายได้ปี 2563 ของเราเท่านั้น ในขณะเดียวกัน ประมาณการกำไรของผู้รับเหมารายใหญ่ของเราไม่มี downside เพราะเราใช้สมมติฐานว่าโดยไม่รวม backlog ใหม่ในปีนี้อยู่แล้ว
โครงการรถไฟฟ้า MRTไม่ถูกกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากการประกาศ curfew (22.00 น. – 4.00 น.) เนื่องจากมีการประกาศ curfew (22.00 น. - 04.00 น.) ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2563 เป็นต้นไป ยกเว้นการทำงานกะกลางคืน เราจึงได้ตรวจสอบกับ Ch.Karnchang (CK.BK/CK TB)* และ Sino Thai Engineering & Construction (STEC.BK/STEC TB)* และได้รับการยืนยันว่าโครงการรถไฟฟ้า MRT (สายสีส้ม ชมพู และเหลือง) จะเดินหน้าก่อสร้างในกะกลางคืนได้ แต่อย่างไรก็ตาม การขนส่งในช่วงกลางคืนจะได้รับผลกระทบอยู่บ้าง
ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างยังคงแข่งขันสูง
เนื่องจากเริ่มมีผู้รับเหมาก่อสร้างสัญชาติจีนเข้ามาในตลาดในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา โดยผู้รับเหมาจีนได้จับมือกับผู้รับเหมาขนาดเล็ก-กลางในการเข้าประมูลงาน อย่างเช่นโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงไทย-จีน ทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง และโครงการ EEC อื่น ๆ โดยยื่นประมูลต่ำกว่าราคากลางมากกว่า 10% เราเชื่อว่าผู้รับเหมาจีนจะเดินหน้าจับมือกับผู้รับเหมาไทยเพื่อเข้าทำโครงการภาคใต้แนวทางการเปิดประมูลแบบนานาชาติ (รถไฟฟ้า MRT สายสีส้มตะวันตก)
Valuation & Action
เราปรับลดคำแนะนำหุ้นกลุ่มรับเหมาจากเดิมที่ Overweight เหลือ Neutral เนื่องจาก i) คาดว่าจะมีกระแสข่าวบวกน้อยลงจากการเปิดประมูลโครงการภาครัฐ ซึ่งจะทำให้การเพิ่ม backlog ต้องเลื่อนออกไปจากปี 2563 เป็นปี 2564 แทน และ ii) แนวโน้มดูท้าทายมากขึ้นจากการแข่งขันที่เข้มข้น ซึ่งจะกดดันอัตรากำไรขั้นต้น เราชอบ STEC ในฐานะที่เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม เนื่องจาก i) มียอด backlog แข็งแกร่งถึง 7.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งบริษัทจะรับรู้เป็นรายได้ภายในเวลาประมาณ 2.5 ปี ii) มีโอกาสจะได้ backlog จากโครงการเมืองสนามบินอู่ตะเภาเฟสที่ 1 (2 หมื่นล้านบาท) โครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพูส่วนต่อขยาย (2.5 พันล้านบาท) และงาน O&M โครงการมอเตอร์เวย์ (5-6 พันล้านบาท)
Risks
กำหนดการก่อสร้างล่าช้า ขาดแคลนแรงงาน และต้นทุนค่าวัสดุแพงขึ้น