- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 09 October 2014 18:48
- Hits: 1894
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : แนวรับระหว่างวัน 1537-1,535
Technical : แนวรับ : 1,535/1,521 แนวต้าน : 1,550 / 1,560
หุ้นแนะนำพิเศษ : KTB แนวรับ 22.80-23 แนวต้าน 23.50/24
หุ้นเด่นรายวัน : AJD SMIT
วันพุธตลาดหุ้นไทยปิดบวกได้ ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,543.39 จุด เพิ่มขึ้น 4.00 จุด(+0.26%) มูลค่าการซื้อขาย 40,657.20 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเพิ่มอีก 2,556.62 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,521-1,569 และมีแรงซื้อเก็งกำไรเล่นรอบกลับเข้ามาเป็นสัญญาณบวกสอดคล้องกับทางเทคนิค แต่การทดสอบแนวต้าน 1,551 อาจมีแรงขายจากปัจจัยลบหากนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่อง ในขณะที่ SET50 การปรับตัวลงเป็นการปิดGAPแนวรับ 1,019 และกลับตัวขึ้นเป็นสัญญาณบวก ระหว่างวันยืน 1,030 ขึ้นมาได้มั่นคงแนวโน้มรูปแบบV-Shape GFV14 เก็งกำไรในกรอบ 18,800-18,170 GFZ14 เก็งกำไรในกรอบ 18,860-19,230
กลยุทธ์ ปริมาณการซื้อขายลดน้อยลงเป็นสัญญาณลบ แต่ด้านSET(ราคา)เริ่มกลับตัวขึ้น หากเพิ่มขึ้นจะเป็นสัญญาณชี้นำการกลับตัวขึ้น กลุ่มธนาคาร KTB KBANK SCB TMB กลุ่มขนส่ง ปริมาณการซื้อขายเพิ่มเข้ามาก ซื้อเก็งกำไร THAI RCL สำหรับ AOTและBTSปรับตัวลงแรงซื้อเพิ่ม กลุ่มสื่อสาร TRUE ADVANC กลุ่มรับเหมา ITD TPOLY EMC หุ้นรายหลักทรัพย์ CPF PS TAKUNI BGH ระยะกลาง ปรับลงแรงซื้อเพิ่มเล็กน้อย
หุ้นแนะนำพิเศษ
KTB (ราคาปิด 23.20 ซื้อ เป้าหมาย 26.60) เป็นแบงก์รัฐทำให้ได้รับประโยชน์จากมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจและการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 58 หนุนการเติบโตของสินเชื่อในช่วงปลายปี สินเชื่อสุทธิปลายเดือนส.ค. 57 เติบโต 4.9% เมื่อเทียบกับปลายปี 56 จากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อทุกกลุ่ม คาดกำไร 3Q57 ของ KTB ราว 9,640 ล้านบาทเติบโต 8%yoy และ 28%qoq และคาดกำไรงวด 9M57 ราว 25,490 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 7% ซึ่งคิดเป็น 74% ของประมาณการทั้งปีที่ 3.5 หมื่นล้านบาทเติบโต 2%YoY สำหรับปี 58 คาดกำไรสุทธิราว 3.7 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 7%
หุ้นเด่นรายวัน
AJD (ปิด 15 บาท ซื้อเก็งกำไร) SAMART(ปิด 30.25 ซื้อเก็งกำไร) เก็งกำไรกลุ่มผู้ผลิตและจำหน่าย Set top box เนื่องจากพรุ่งนี้ กสทช.จะเริ่มแจกคูปอง Set top box มูลค่า 690 บาทให้กับประชาชนในพื้นที่ 22 จังหวัดนำร่องเป็นครั้งแรก โดยกลุ่มนี้เรามอง AJD และ SAMART เด่นสุดเนื่องจากมีความได้เปรียบในเรื่องช่องทางการจัดจำหน่าย
SMIT (ราคาปิด 4.56 ซื้อเก็งกำไร) มีข่าวคุยพันธมิตรสำหรับโครงการโซลาร์รูฟ บนหลังคาโรงงาน 6 แห่ง พื้นที่กว่า 1.5 หมื่นตารางเมตร เพื่อช่วยลดต้นทุนการใช้ไฟฟ้า การดำเนินงานปี 2558 มีแผนซื้อกิจการแต่ยังไม่ระบุรายละเอียด รายได้ 9 เดือนแรกปี 57 มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,500-1,600 ล้านบาท (ที่มา : ทันหุ้น)
รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* ACD / DIMET / EMC / EVER / GENCO / SST / TAKUNI มีผลบังคับใช้ 1 ก.ย. - 10 ต.ค. 57
* BKD / CSS / SUPER-W1 / TFI มีผลบังคับใช้ 8 ก.ย. - 17 ต.ค. 57
* ABC / BMCL / E / EE / KC / MAX / NUSA / RASA / RPC / SEAOIL / SPVI มีผลบังคับใช้ 15 ก.ย. - 24 ต.ค. 57
* CHUO / CKP / EIC / GUNKUL / MILL-W2 / MLINK / PAE / PF / TCC / XO มีผลบังคับใช้ 22 ก.ย. - 31 ต.ค. 57
* AQ / CYBER / IFEC / KTP / PRINC/ SLC / TGPRO / WIIK มีผลบังคับใช้ 29 ก.ย. - 7 พ.ย. 57
*AJD / BGT / CEI / CGD / DNA / MILL / PE / PRECHA / TH / THANA / TPOLY มีผลบังคับใช้ 6 ต.ค. - 14 พ.ย. 57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : เพิ่มขึ้น 274.83 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 274.83 จุด เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ที่ส่งสัญญาณว่า FED จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาอันใกล้ นอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบการของภาคเอกชนที่ออกมาอย่างแข็งแกร่งโดยเฉพาะ บริษัทอัลโค อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่ของสหรัฐ ที่รายงานผลกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 อยู่ที่ 31 เซนต์ มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 23 เซนต์ ขณะที่รายได้ในไตรมาส 3 อยู่ที่ 6.24 พันล้านดอลลาร์ มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 5.85 พันล้านดอลลาร์ ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 274.83 จุด หรือ +1.64% ปิดที่ 16,994.22 จุด ดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 83.39 จุด หรือ +1.90% ปิดที่ 4,468.59 จุด ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 33.79 จุด หรือ +1.75%ปิดที่ 1,968.89 จุด
ตลาดน้ำมัน NYMEX : ลดลง 1.54ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 1.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตลาดกลับมาวิตกกังวลต่อภาวะอุปสงค์พลังงานในสหรัฐหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเมื่อวานนี้ EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 ต.ค.เพิ่มขึ้น 5 ล้านบาร์เรล แตะ 361.65 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.9 ล้านบาร์เรล ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 1.54 ดอลลาร์ ปิดที่ 87.31 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 73 เซนต์ ปิดที่ 91.38 ดอลลาร์/บาร์เรล
Analyst :
ธวัชชัย 02-6725993 [email protected]
วิลาสินี 02-6725937 [email protected]
อาทิตย์ [email protected]
Assistant : ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์