- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 29 November 2019 16:10
- Hits: 5377
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“ยังติดตามการเจรจาการค้าสหรัฐกับจีน”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
ภาวะตลาดเมื่อวานนี้ : วานนี้ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงต่ำกว่าแนวฟิวเตอร์ที่ 1600 จุดแล้ว ปิดตลาด SET อยุ่ที่ 1597.68 จุด (-9.59 จุด) ทั้งนี้นักลงทุนลดความเสี่ยงในช่วงรอข่าวใหม่ ทั้งเรื่องการลงนามในข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน และติดตามสถานการณ์ในฮ่องกง ส่วนในประเทศแม้ว่ามีมาตรการกระตุ้นออกมาต่อเนื่อง แต่ตลาดก็เชื่อว่าเป็นแค่การประคองแต่ยังไม่ได้ทำให้เกิดการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อ 1.7 พันล้านบาท สถาบันในประเทศซื้อขายใกล้เคียงกัน
วิเคราะห์ภาพตลาดและกลยุทธ์ : ในระยะสั้นมากตลาดกลับมากังวลว่าการลงนามข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนอาจจะเลื่อนออกไป หลังทรัมป์ลงนามร่างกฎหมายสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงในฮ่องกง ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมยังไม่กระเตื้องนัก แม้รัฐบาลออกหลายมาตรการเข้ามากระตุ้น คาดตัวเลขเศรษฐกิจที่ธปท.จะประกาศวันนี้ยังชะลอตัวต่อ
อย่างไรก็ตาม เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นในกลุ่มท่องเที่ยวและค้าปลีกเพราะเป็นช่วง High season ของธุรกิจ ในกลุ่มเหล่านี้เราแนะนำเลือกซื้อ AOT, CPALLโดยเฉพาะจังหวะราคาหุ้นอ่อนตัว กลุ่มโรงพยาบาล โรงพยาบาลขนาดกลาง-เล็กมีโอกาสได้รับเงินชดเชยจากประกันสังคมเพิ่มขึ้น หุ้นเด่น BCH, CHG, RJHซึ่งมีคนไข้ประกันสังคมสัดส่วนสูง ส่วนโรงพยาบาลใหญ่ก็จะมีกำไรดีขึ้นในปี 63 หุ้นเด่นคือ BDMS สำหรับกลุ่มสื่อสาร เรามองว่า ADVANC น่าสนใจเพราะความต้องการใช้สมาร์ทโฟนและอินเตอร์เน็ตยังคงสูงมาก และเทอมการจ่ายค่าใบอนุญาต 5G ไม่กระทบกระแสเงินสดมาก และให้ปันผลดี Yield 3% กว่าต่อปี ราคาหุ้นอ่อนลงเป็นจังหวะซื้อสะสม
Stock Pick Today : RJH - Core profit 3Q62 อยู่ที่ 89 ล้านบาท (+19%YoY, +58%QoQ) โดยรายได้ +8%YoY (จากคนไข้ประกันสังคม +11%YoY และจากคนไข้เงินสด +6%YoY) EBITDA margin เพิ่มเป็น 27.7% ใน 3Q62 จาก 26.1% ใน 3Q61 แนวโน้มไปได้ดี โดยคาดว่า 4Q62F จะยังแข็งแกร่ง เพราะฤดูฝนยาวนานมาถึงต้น 4Q และจะเพิ่มเตียงอีก 18 เตียงใน 4Q62 รวมถึงเปิดบริการฟอกเลือดอีก 16 ยูนิต ประมาณการ Core profit ปี 62F +25% เป็น 318ล้านบาท ปี 63F +14% แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 32 บาท
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เป็นลบเล็กๆ แนวรับย่อยอยู่ที่ 1590-1580, 1550 ส่วนการเด้งขึ้นจะมีแนวต้านระยะสั้น 1600-1610, 1620 หุ้นเทคนิคเด่นที่เข้ามาใหม่เป็น BCH ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List ได้แก่ GLOBAL, IRPC, PTTGC, BCP, SCB ส่วนหุ้นที่หลุด Listคือ TASCO, MEGA, JMT, STPI, PSL, SPALI, CHG, SPA หุ้นที่แนะนำหาจังหวะ Take profit เป็น BH
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Industry Focus : กลุ่มที่พักอาศัย - น้ำหนักการลงทุน Neutral
In The News : AMATA : ยอดขายที่ดินปี 62 พลาดเป้า...แนวโน้มปี 63 ยังท้าทาย
CRYSTAL : ขึ้นเครื่องหมาย SP ตั้งแต่ 29 พ.ย.62
New Listing : STC
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
- สหรัฐ : เฟดนิวยอร์กชี้ว่าชาวอเมริกันเป็นผู้แบกรับภาระจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน
# บริษัทจีนแทบไม่ได้ปรับลดราคาเพื่อชดเชยกับการถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)สาขานิวยอร์กเปิดเผยผลการศึกษาครั้งใหม่ระบุว่า บริษัทของจีนแทบไม่ได้ปรับลดราคาสินค้าลงเพื่อชดเชยกับการที่สหรัฐปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนแต่อย่างใด ขณะที่บรรดาบริษัทและผู้บริโภคของสหรัฐกลับเป็นฝ่ายที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งใครจะรับมากกว่าใคร ก็ขึ้นกับอำนาจต่อรองในแต่ละสินค้า ว่าผู้ประกอบการหรือผู้บริโภคมีอำนาจมากกว่ากัน
# ราคาสินค้าที่ลดลงเล็กน้อยเป็นเพราะภาวะตลาดเป็นหลัก ทั้งนี้ราคาสินค้าที่สหรัฐนำเข้าจากจีนลดลงเพียง 2%ในรูปสกุลดอลลาร์เมื่อเทียบราคาเดือนก.ย.62 กับเดือนมิ.ย.61 และราคาสินค้าที่สหรัฐซื้อจากเม็กซิโก เกาหลีใต้สิงคโปร์ ฯลฯ ก็ลดลงในระดับใกล้เคียงกัน จึงมองว่าราคาที่ลดน่าจะเป็นเพราะภาวะตลาดโดยรวมมากกว่าการเรียกเก็บภาษีนำเข้า
# รัฐมีรายได้จากภาษีนำเข้ามากขึ้นก็จริง แต่อาจไม่เท่ากับการเสียประโยชน์ของผู้ประกอบการ & ผู้บริโภค ผลการศึกษาระบุว่าสหรัฐมีรายได้จากการเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นราว 4 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3/62 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/61 ซึ่งเป็นช่วงก่อนการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน แต่ผลกระทบต่อบริษัทและผู้บริโภคสหรัฐอาจจะมากกว่ารายได้ภาษีนำเข้าที่รัฐบาลสหรัฐได้รับ
# เศรษฐกิจสหรัฐไตรมาส 4/62 อาจจะอ่อนแอลง นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดสาขาดัลลัสเปิดเผยในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า เขาคาดว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐจะอ่อนแอในไตรมาส 4/62 เนื่องจากภาคธุรกิจปรับลดสต็อกสินค้า เพราะความไม่แน่นอนด้านการค้า
- กังวลการลงนามข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนอาจล่าช้าออกไป
# ตลาดวิตกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามอนุมัติกฎหมายสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกง ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลจีน
• ตลาดหุ้น & น้ำมันนิวยอร์ก และทองคำ COME ปิดทำการในวันที่ 28 พ.ย.
# ตลาดหุ้น น้ำมัน และทองคำ COMEX ปิดทำการในวันที่ 28 พ.ย.62 เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
• กระทรวงการคลังคาด GDP ไทย Q4/62 โต 3.2% ลุ้นทั้งปีเข้าเป้า 2.8%
# นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คาดว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4/62 มีโอกาสจะขยายตัวได้ราว 3.2%YoY ซึ่งจะทำให้ทั้งปีนี้เศรษฐกิจไทยสามารถเติบโตได้ 2.8%YoY ตามเป้าหมายของกระทรวงการคลัง
# แต่…ถ้าไตรมาส 4 เติบโตเพียง 2.5%YoY เศรษฐกิจไทยปี 62 ก็จะขยายตัวได้เพียง 2.6%YoY (สำหรับ 9M62เศรษฐกิจไทยเติบโต 2.5%YoY)
# ความเห็นเชิงกลยุทธ์ DBSVTH : เรามองว่าการเติบโตของเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 มีความท้าทายจากภาคส่งออกและการลงทุนที่ชะลอตัว ระดับสินค้าคงคลังที่ต่ำ แต่ก็มีปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นการบริโภคและท่องเที่ยวของรัฐบาลมาชดเชย ถ้าหากชดเชยไม่ได้ทั้งหมด เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 ก็จะขยายตัวต่ำกว่า 3%YoY และทำให้ทั้งปีอาจจะเติบโตประมาณ 2.5-2.6%
• กลุ่มที่พักอาศัย : ระดมปล่อยกู้ 'บ้านดีมีดาวน์' แบงก์รัฐลดดอกเบี้ยหนุน-ผู้ประกอบการออกค่าโอนจำนอง
# กระทรวงการคลังถกสถาบันการเงิน 19 แห่ง พร้อม 3 สมาคมอสังหาฯ ขอแรงหนุนโครงการ "บ้านดีมีดาวน์" เผยแบงก์รัฐทั้งหมดออกสินเชื่อรองรับ ส่วนผู้ประกอบการ บางโครงการช่วยออกค่าโอน-จดจำนองให้ ล่าสุด "กรุงไทย" ออกสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเฉลี่ย 3 ปี 2.5% หากได้รับสิทธิตามโครงการช่วยออกเงินดาวน์อีก 5 พันบาท
• กระทรวงพาณิชย์ย้ำห้ามนำเข้ารถมือ 2 นับตั้งแต่ 10 ธ.ค.นี้
# กรมการค้าต่างประเทศย้ำ ตั้งแต่ 10 ธ.ค.62 ห้ามนำเข้ารถมือสอง หากพบถูกยึด ทำลาย จ่ายค่าปรับ 5 เท่าของราคารถด้าน "สุริยะ" เชิญค่ายรถยนต์ถกแก้ปม หวั่นไทยถูกกีดกันทางการค้าจากเวียดนาม-ฟิลิปปินส์ รับลูกนายกฯ เสนอครม.หาทางออกแย้มต้องเจรจาร่วมประเทศคู่ค้าเยียวยาผู้ประกอบการไทย
# ความเห็นเชิงกลยุทธ์ DBSVTH : นับเป็นบวกกับกลุ่มเช่าซื้อรถยนต์ เพราะที่ผ่านมาอุปทานรถมือสองในไทยสูงมาก ทำให้ราคารถมือสองตกต่ำรุนแรง ส่งผลกระทบให้ผู้ประกอบการเช่าซื้อมีผลขาดทุนในการขายรถยึดจำนวนมาก
• คิงเพาเวอร์ถือหุ้น RS เพิ่มเป็น 9.87%...อัดเงิน 1.3 พันล้านครองอันดับ 2
# กลุ่มศรีวัฒนประภา หรือกลุ่มคิง เพาเวอร์ ได้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ อันดับที่ 2 ใน RS โดยซื้อจากนายสุรชัยเชษฐโชติศักดิ์ ประธานกรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RS ขายหุ้นบิ๊กลอต 4 รายการ รวมทั้งสิ้น 96ล้านหุ้น คิดเป็น 9.87% ของทุนเรียกชำระแล้ว ที่ราคาเฉลี่ย 13.70 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 1,315 ล้านบาท
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : [email protected]