- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 29 November 2019 16:08
- Hits: 4677
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
• วันนี้เรามอง SET Index แกว่งในกรอบ 1,585-1,605 จุด โดยเปิด Downside ที่มากขึ้นหลัง Tradewar มีความคืบหน้าช้ากว่าที่เรามอง อีกทั้งขาดปัจจัยหนุนจากในประเทศ และนักลงทุนมองถึงเหตุการณ์สำคัญในสัปดาห์หน้าทั้งการประชุม OPEC และการจัดตั้งกองทุนทดแทน LTF
• Market Factor
• (0) วานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving day)
• (-) ตลาดได้รับ Sentiment เชิงลบหลังจีนประกาศจะออกมาตอบโต้สหรัฐฯ หลังจากที่จีนมองว่าสหรัฐฯ เข้ามาแทรกแซงจีนหลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามบังคับใช้กฏหมายสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกง
• (watch) สัปดาห์หน้าติดตามการประชุม OPEC วันที่ 5-6 ธ.ค.62 โดย OPEC และรัสเซียมีแนวโน้มขยายระยะเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบออกไปเป็นช่วงกลางปี 63
• (-) กรมการค้าต่างประเทศเผยการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยช่วง 10M62 มีมูลค่ารวม 1,125,543 ลบ. ลดลง 1.94%YoY โดยยอดส่งออกอยู่ 627,454 ลบ. ลดลง 2.05% และการนำเข้า 498,089 ลบ. ลดลง 1.81% (อินโฟเควสท์)
• (-) สภาผู้ส่งออก (สรท.) เผยเตรียมประชุมเพื่อปรับประมาณการเป้าหมายการส่งออกปี62 ใหม่วันนี้ หลังตัวเลขส่งออกเดือนต.ค.ลดลงมากถึง 4.5%YoY ทั้งนี้ประเมินหากส่งออกอีก 2 เดือนท้ายพ.ย.-ธ.ค.สามารถส่งออกเฉลี่ยต่อเดือนมูลค่า 20,700 ล้านเหรียญเท่ากับเดือน ต.ค.จะทำให้ภาพรวมช่วง 4Q62 เฉลี่ยลดลงกว่า 4.5%YoY และกระทบการส่งออกทั้งปีนี้ลดลงมากกว่า 3%YoY (ประชาชาติธุรกิจ)
• (-) หอการค้าไทย เผยผลสำรวจสถานภาพหนี้ครัวเรือนไทยในปี 62 หนี้ครัวเรือนเฉลี่ยที่ 340,053 บาท/ครัวเรือน เพิ่มขึ้น 7.4%YoY สาเหตุหลักมาจากเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัว(กรุงเทพธุรกิจ)
• ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPSปี 62 ที่ 115.13 บ. ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 92.12 บ. หรือลดลง 19.04%YTD
• Update Flow เมื่อวานนี้ต่างชาติขายสุทธิต่อในตลาดหุ้นไทย 1,072.78 ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD. ต่างชาติขายสุทธิเพิ่มเป็น 2,853.75 บ. ขณะที่นลท.สถาบันซื้อสุทธิ MTD.เพิ่มขึ้นเป็น 3,809.13 ลบ.
Investment Strategy
• วันนี้ถึงสัปดาห์เราประเมินตลาดจะค่อยๆปรับตัวลงไปทดสอบแนวรับ 1,580 จุด ด้วยแรงกดดันจาก Trade war สหรัฐฯ-จีน ที่ยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร ขณะที่ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ การจัดตั้งกองทุนทดแทน LTF ช่วงนี้เราแนะนำรอตลาดย่อลงมาทดสอบ 1,680-1,690 จุด และทยอยเก็บหุ้นคาดมีผลประกอบการดี รวมถึงเรายังคงแนะนำหุ้น 3 กลุ่มที่สามารถทยอยซื้อลงทุนได้ในระยะ 3-6 เดือน ดังนี้
• หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้น ศก.ของรัฐฯทั้งมาตรการท่องเที่ยว, ชิมช้อปใช้และงานประมูลภาครัฐฯ: แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ SEAFCO (แม้ช่วง 2H62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พัน ลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่น ลบ.), ERW (ช่วง 3Q62 กำไรโตเล็กน้อย 3%YoY หลังรายได้จากโรงแรมเพิ่มขึ้น 5%YoY เรามองช่วงปลายปียังมีโอกาสฟื้นตัวจากการกลับมาเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม. และมีสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง), CPALL (ช่วง 3Q62 กำไรโต 8.3%YoY จากยอดขายที่เพิ่มจาก 7-11 กว่า 11,640 สาขา (ก.ย.62) และMAKRO โดยบริษัทยังคงเป้าขยายสาขาต่อเนื่องให้ถึง 13,000 สาขาในปี 64 , MINT (ช่วง 3Q62 กำไรโต 347%YoYด้วยกำไรพิเศษจากการขายโรงแรมที่โปรตุเกส บวกกับช่วง 4Q62 เรามองฟื้นตัวต่อด้วยธุรกิจโรงแรมและอาหารหลังตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องจากฐานปีก่อนที่ลดลง)
• กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoY และช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำ SAWAD (คาดกำไรปี 62 โต 30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20-30% และอีก 300 สาขา, Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลัง Tender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (ช่วง 3Q62 ทำ All time high ทั้งรายได้และกำไร คาดปี 62 เห็นการ Turnaround ของกำไรหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นจากการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่), SABINA ช่วง 3Q62 กำไรสุทธิโต 11%QoQ และ 6%YoY หลังอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็น 54% หลังได้อานิสงส์บาทแข็งค่าเมื่อเทียบหยวนจากการเพิ่มสัดส่วนจ้างโรงงานจีนผลิตสินค้า ขณะที่ 4Q62 คาดยอดขายจะเร่งตัวขึ้นผ่านการจัดโปรโมชั่น และการทำการตลาดส่งท้ายปี รวมถึงการรุกขยายช่องทางขายผ่าน Online มากขึ้น คาดเห็นการเติบโตต่อเนื่องใน 4Q62 ทั้ง QoQ,YoY
• หุ้นกลุ่ม ร.พ.ขนาดกลางที่คาดกำไรช่วง 2H62โต เข้าสู่ High Season: PR9 (มองทั้งปี 62 โตต่อ หลังกำไร 9M62 โต 10.9%YoY) บ.ยังมีศักยภาพในการเติบโตหลังแนวโน้มการทำกำไรเร่งตัวขึ้นสะท้อนผ่านEBITDA Margin ช่วง 9M62 ปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ 17.7% (จาก 17.2% ช่วง 9M61) บ.มีแผนการเติบโตที่สดใส เนื่องจาก บ.ถือเป็น Cash Company มีเงินสดต่อหุ้นมากกว่า 2 บ.เตรียมเปิดตึกใหม่ต้นปี 63 เพื่อรองรับลูกค้าได้เพิ่มกว่าเท่าตัวหลังเกิด Over demand ในกลุ่มลูกค้า ICU-CCU (คิดเป็นกว่า 30% ของรายได้)และศูนย์บริการที่ถือเป็นไฮไลท์ใหม่อย่าง Pain Management and Wellness Center ขยายฐานลูกค้าต่างชาติครอบคลุมทั้งจีนและกลุ่มอาเซียน รวมถึงกลุ่มลูกค้าประกันองค์กรและผู้ประกันตนด้วย คาดหนุน บ.มีโอกาส คุ้มทุนได้เร็วกว่าที่ตลาดคาด นอกจากนี้ Consensus ให้ Valuation ที่ถูกสุดเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม ทั้งในแง่ Forward PE เพียง 23.17X ,P/BV 1.78X และEV/EBITDA 10.23X (อุตสาหกรรมอยู่ที่ PE 31.40X,P/BV 4.49X และEV/EBITDA 20.32X)
• Trading Idea
• หุ้นฟื้นตัว 4Q62 ต่อเนื่องปี 63: BGC ลุ้นกำไรฟื้นตัวช่วง 4Q62 หลังแนวโน้ม Gross margin จะเร่งตัวขึ้นจาก Efficiency rateเตาหลอมแก้วที่ราชบุรีเริ่มดีขึ้น บวกกับเริ่มรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าเวียดนามกำลังผลิตรวมกว่า 100 MW ตั้งแต่ช่วงต้นปี 63 เป็นต้นไป นอกจากนี้Consensus คาดปันผลปี 63 ให้Yield กว่า 5.4%
• หุ้นที่มีกำไรช่วง 3Q62 โตดี และคาดโตต่อเนื่องช่วง 4Q62 บวกกับทั้งปี 62-63 โต YoY: MINT, CHG, BCH, RJH, TFG
• CPF : ช่วง 4Q62 คาดกำไรโต8%YoY จากราคาไก่และหมูทั้งไทยและต่างประเทศที่เริ่มฟื้นตัวโดยหลักมาจากทั้งเวียดนามและจีนที่เผชิญกับโรค ASF และคาดราคาหมูยังคงทรงตัวต่อเนื่องในปีหน้าจากความเสี่ยงโรคระบาดคาดหนุนกำไรปี 63 โต15%YoY
28-Nov-19 Change (pts.) 27-Nov-19
SET Index 1,597.68 -9.59 1,607.27
SET50 Index 1,077.30 -6.83 1,084.13
SET100 Index 2,363.08 -15.86 2,378.94
High 1,608.67 Gainers 491
Low 1,595.11 Unchanged 471
Value (Bt m) 43,111.77 Losers 1,188
Volume (*000) 18,688,838
Market Valuation
SET Data 2019F 2020F Long Term
Fwd PER (x) 17.2 15.4 15.4
EPS Growth (%) 13.9 9.3 -7.2
EV/EBITDA (x) 0.0 0.0 0.0
FWD PBV (x) 1.8 1.7 1.6
Dividend Yield (%) 3.0 3.3 3.5
ROE 9.9 10.3 10.3
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 28-Nov-19 WTD MTD YTD
Institution 17.79 4,130.47 3,826.93 28,491.46
Proprietary 400.66 2,212.18 5,506.09 15,961.95
Foreign (1,703.50) (3,281.75) (4,557.24) (17,631.39)
Individual 1,285.06 (3,060.91) (4,775.78) (26,822.02)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary