WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

logo aceบล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
•    วันนี้คาด SET Index ปรับตัวลง โดยแม้รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ GDP ช่วง 3Q62 ของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด แต่ต้องระมัดระวังประเด็นการเมืองหลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทรัมป์ลงนามบังคับใช้กฎหมายสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกง คาดเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อ Trade war ที่ใกล้บรรลุข้อตกลงเฟสแรก ขณะที่ปัจจัยในประเทศรายงานตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรมหดตัว สะท้อนภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ยังชะลอตัว ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,595-1,610 จุด
•    Market Factor
•    (+) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวกับสื่อว่าการเจรจาการค้าเฟส 1 ใกล้บรรลุข้อตกลงแล้ว   บวกกับกำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการทำข้อตกลง และการเจรจาผ่านทางโทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในช่วงที่ผ่านมายังส่งผลเชิงบวกต่อการเจรจาการค้า
•    (+) สหรัฐฯ รายงานตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดี หลังประมาณการ GDP 3Q62 ออกมาที่ระดับ 2.1% มากกว่าที่ตลาดคาดที่ระดับ 1.9% และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนออกมาที่ระดับ 0.6% มากกว่าที่ตลาดคาดที่ระดับ 0.2%
•    (0) ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) รายงาน Beige Book โดยรายงานกล่าวถึงเศรษฐกิจขยายตัวปานกลางในช่วงเดือน ต.ค. และกลางเดือน พ.ย. บวกกับภาคแรงงานยังคงตึงตัวโดยคาดการประชุม Fed ครั้งถัดไปในวันที่     10-11 ธ.ค. 62 จะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ  1.50-1.75%
•    (watch) ติดตามประเด็นความเสี่ยงทางการเมือง หลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามบังคับใช้กฏหมายสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกง อาจส่งผลต่อ sentiment เชิงลบในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนเฟส 1
•    (-) สศอ. เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ต.ค.62 อยู่ที่ระดับ 95.70 หดตัว 8.45%YoY ลดลงต่ำกว่าคาด โดยเป็นผลจากการหยุดซ่อมบำรุงงโรงกลั่นน้ำมัน และผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง คาดทั้งปี 62 หดตัว 3.8%YoY (ไทยโพสต์)
•    ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPSปี 62 ที่ 115.13 บ. ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 92.21 บ. หรือลดลง 19.04%YTD
•    Update Flow เมื่อวานนี้ต่างชาติขายสุทธิต่อในตลาดหุ้นไทย 1,072.78 ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD.ต่างชาติขายสุทธิเพิ่มเป็น 2,853.75 บ.ขณะที่นลท.สถาบันซื้อสุทธิ MTD.เพิ่มขึ้นเป็น 3,809.13 ลบ.
Investment Strategy
•    วันพฤหัสบดีถึงวันศุกร์นี้ เรามอง SET Index มีความเสี่ยงจากแรงเทขายทำกำไรจากหุ้นที่รีบาวด์กลับขึ้นมา โดยแม้จะมีประเด็นหนุนจาก Trade war ที่มีความคืบหน้ามากขึ้น และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยที่ออกมา แต่ประเด็น Trade war ดังกล่าว อาจพลิกกลับเป็นลบได้ หลังมี Sentiment เชิงลบจากการที่ทรัมป์เซ็นสัญญากฎหมายสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกง ช่วงนี้เราแนะนำทยอยขายทำกำไรหุ้นที่ปรับขึ้นมา ส่วนท่านที่ยังไม่มีหุ้นให้รอตลาดย่ออีกครั้งและทยอยเก็บหุ้นคาดมีผลประกอบการดี รวมถึงเรายังคงแนะนำหุ้น 3 กลุ่มที่สามารถทยอยซื้อลงทุนได้ในระยะ 3-6 เดือน ดังนี้
•    หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้น ศก.ของรัฐฯ ทั้งมาตรการท่องเที่ยว, ชิมช้อปใช้และงานประมูลภาครัฐฯ: แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ SEAFCO (แม้ช่วง 2H62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พัน ลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่น ลบ.), ERW (ช่วง 3Q62 กำไรโตเล็กน้อย 3%YoY หลังรายได้จากโรงแรมเพิ่มขึ้น 5%YoY เรามองช่วงปลายปียังมีโอกาสฟื้นตัวจากการกลับมาเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม.และมีสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง), CPALL (ช่วง 3Q62 กำไรโต 8.3%YoY จากยอดขายที่เพิ่มจาก 7-11 กว่า 11,640 สาขา    (ก.ย.62) และ MAKRO โดยบริษัทยังคงเป้าขยายสาขาต่อเนื่องให้ถึง 13,000 สาขาในปี 64 , MINT (ช่วง 3Q62 กำไรโต 347%YoY ด้วยกำไรพิเศษจากการขายโรงแรมที่โปรตุเกส บวกกับช่วง 4Q62 เรามองฟื้นตัวต่อด้วยธุรกิจโรงแรมและอาหารหลังตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องจากฐานปีก่อนที่ลดลง)
•    กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoY และช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำ SAWAD (คาดกำไรปี 62 โต 30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20-30% และอีก 300 สาขา,  Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลัง Tender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (ช่วง 3Q62 ทำAll time high ทั้งรายได้และกำไร คาดปี 62 เห็นการ Turnaroundของกำไรหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นจากการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่), SABINAช่วง 3Q62 กำไรสุทธิโต 11%QoQและ 6%YoY หลังอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็น 54% หลังได้อานิสงส์บาทแข็งค่าเมื่อเทียบหยวนจากการเพิ่มสัดส่วนจ้างโรงงานจีนผลิตสินค้า ขณะที่ 4Q62 คาดยอดขายจะเร่งตัวขึ้นผ่านการจัดโปรโมชั่น และการทำการตลาดส่งท้ายปี รวมถึงการรุกขยายช่องทางขายผ่าน Online มากขึ้น คาดเห็นการเติบโตต่อเนื่องใน 4Q62 ทั้ง QoQ,YoY
•    หุ้นกลุ่มร.พ.ขนาดกลางที่คาดกำไรช่วง 2H62โต เข้าสู่ High Season:PR9(มองทั้งปี 62 โตต่อ หลังกำไร 9M62 โต 10.9%YoY) บ.ยังมีศักยภาพในการเติบโตหลังแนวโน้มการทำกำไรเร่งตัวขึ้นสะท้อนผ่าน EBITDA Margin ช่วง 9M62 ปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ 17.7% (จาก 17.2% ช่วง9M61) บ.มีแผนการเติบโตที่สดใส เนื่องจาก บ.ถือเป็น Cash Company มีเงินสดต่อหุ้นมากกว่า 2 บ.เตรียมเปิดตึกใหม่ต้นปี 63 เพื่อรองรับลูกค้าได้เพิ่มกว่าเท่าตัวหลังเกิด Over demand ในกลุ่มลูกค้า ICU-CCU (คิดเป็นกว่า 30% ของรายได้)และศูนย์บริการที่ถือเป็นไฮไลท์ใหม่อย่าง Pain Management and Wellness Center ขยายฐานลูกค้าต่างชาติครอบคลุมทั้งจีนและกลุ่มอาเซียน รวมถึงกลุ่มลูกค้าประกันองค์กรและผู้ประกันตนด้วย คาดหนุน บ.มีโอกาส คุ้มทุนได้เร็วกว่าที่ตลาดคาด นอกจากนี้ Consensus ให้ Valuation ที่ถูกสุดเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม  ทั้งในแง่ Forward PE เพียง 23.17X ,P/BV 1.78X และEV/EBITDA 10.23X (อุตสาหกรรมอยู่ที่ PE 31.40X,P/BV 4.49X และEV/EBITDA 20.32X)
•    Trading Idea
•    หุ้นฟื้นตัว 4Q62 ต่อเนื่องปี 63: BGC ลุ้นกำไรฟื้นตัวช่วง 4Q62 หลังแนวโน้ม Gross margin จะเร่งตัวขึ้นจาก Efficiency rate เตาหลอมแก้วที่ราชบุรีเริ่มดีขึ้น บวกกับเริ่มรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าเวียดนามกำลังผลิตรวมกว่า 100 MW ตั้งแต่ช่วงต้นปี 63 เป็นต้นไป นอกจากนี้ Consensus คาดปันผลปี 63 ให้ Yield กว่า 5.4%
•    หุ้นที่มีกำไรช่วง 3Q62 โตดี และคาดโตต่อเนื่องช่วง 4Q62 บวกกับทั้งปี 62-63 โต YoY: MINT, CHG, BCH, RJH, TFG
•    CPF ช่วง 4Q62 คาดกำไรโต 8%YoY จากราคาไก่และหมูทั้งไทยและต่างประเทศที่เริ่มฟื้นตัว โดยหลักมาจากทั้งเวียดนามและจีนที่เผชิญกับโรค ASF และคาดราคาหมูยังคงทรงตัวต่อเนื่องในปีหน้าจากความเสี่ยงโรคระบาด คาดหนุนกำไรปี 63 โต 15%YoY
    27-Nov-19    Change (pts.)    26-Nov-19
SET Index    1,607.27    -2.11    1,609.38
SET50 Index    1,084.13    0.43    1,083.70
SET100 Index    2,378.94    -0.67    2,379.61
High    1,613.81    Gainers    593
Low    1,604.34    Unchanged    578
Value (Bt m)    51,261.85    Losers    977
Volume (*000)    17,956,457         
Market Valuation
SET Data    2019F    2020F    Long Term
Fwd PER (x)    17.2    15.5    15.5
EPS Growth (%)    13.9    9.3    -7.1
EV/EBITDA (x)    0.0    0.0    0.0
FWD PBV (x)    1.8    1.7    1.6
Dividend Yield (%)    3.0    3.3    3.5
ROE    9.9    10.2    10.4
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt    27-Nov-19    WTD    MTD    YTD
Institution    144.22    4,112.68    3,809.14    28,473.67
Proprietary    916.09    1,811.53    5,105.43    15,561.30
Foreign     (1,072.78)    (1,578.25)    (2,853.74)    (15,927.89)
Individual    12.48    (4,345.96)    (6,060.84)    (28,107.08)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
จิรภัทร  โบสุวรรณ (ID. 040051)    [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932)    [email protected]
ธีรยุทธ  ฤทธิเผ่าพันธุ์    ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์    Data Support / Secretary

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!