- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 25 November 2019 16:11
- Hits: 1341
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“เจรจาการค้าพลิกเป็นบวก เข้าสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : BDMS (จากถือเป็นซื้อ) / HANA (จาก Fully Valued เป็นถือ)
ภาวะตลาดและปัจจัย : SET วันศุกร์ +5.86 จุด ปิดที่ 1597.72 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบางเป็น 42 พันล้านบาท ดัชนีปรับขึ้นเล็กน้อยสอดคล้องกับเพื่อนบ้าน ดัชนีอยู่ในแดนบวกแทบตลอดวัน แม้มีปัจจัยลบ เจรจาการค้ายังไม่แน่นอน ส่งออกไทย ต.ค.ยังด้อย แต่ดัชนีลงมาเร็วไป จึงมีรีบาวด์ มีแรงซื้อกลับหุ้นกลุ่มแบงค์ พลังงานและปิโตรฯ ขณะที่ซื้อสุทธิมากคือ สถาบัน ขายสุทธิมากเป็นต่างชาติ ต้นเดือนถึงปัจจุบันต่างชาติขายสุทธิ 1.3 พันล้านบาท ด้านแนวโน้มตลาดและกลยุทธ์คือ
# ปัจจัยสำคัญ: เจรจาการค้าพลิกบวก พันธบัตร ทองคำปรับลง เข้าสินทรัพย์เสี่ยง ด้านบวกคือ ทรัมป์คาดเข้าใกล้ลงนามเฟส 1 ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐดี คือPMI ภาคการผลิต-บริการ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคสูงขึ้น ดาวโจนส์ น้ำมัน ทั้งสปอตและล่วงหน้าปรับตัวขึ้น นักลงทุนเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น คือราคาทองคำและพันธบัตรปรับลง ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านเช้านี้ปรับขึ้น และดัชนีกังวลปรับลง ด้านลบคือ ราคาน้ำมันปรับลง และการเมืองไทยร้อนแรงขึ้น หลังหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่พ้นจากตำแหน่ง สส. ติดตามพัฒนาการต่อไป
# ระยะสั้นคาด SET- มีโอกาสปรับขึ้น รับข่าวเจรจาการค้าบวกมากขึ้น เก็งกำไรโภคภัณฑ์ ติดตามข่าวการใช้สิทธิ์ TMB-TSR มีข่าวเบื้องต้นใช้สิทธิ์ 80% หุ้นPORT ได้ย้ายมา SET 26 พ.ย.นี้ และหุ้นจอง BAM ทราบราคาสุดท้าย 2 ธ.ค.นี้ จากช่วง 15.50-17.50 บาท เราคาดว่า SET ซื้อขายในกรอบ 1580-1620 จุด แนวต้านเป็น 1610-1620 จุด แนวรับอยู่ที่ 1580-1550 จุด Stop Loss ต่ำกว่า 1590 จุด การเข้าเก็งกำไรไม่ควรหวังผลตอบแทนสูง หาจังหวะขายทำกำไร กลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว คือ เลือกลงทุนทยอยสะสม เป็นรายกลุ่มและรายตัว (Selective) ตาม Theme เนื่องจากราคาหุ้นปรับลงมามาก จนประเมินมูลค่าหุ้นถูกลง P/E ปี 63 ตลาดเป็น 15.8 เท่า เทียบเป็น Median+0.5 SD แล้ว แนะนำ หุ้น Domestic Play หุ้นไม่ผันแปรตามเศรษฐกิจ หรือปันผลสูงแทน หุ้นกลุ่ม REITsและ IFFS น่าสนใจ จากดอกเบี้ยต่ำ ด้านหุ้นเข้า-ออก MSCI มีผล 26 พ.ย.62 หุ้นขนาดใหญ่ เข้า- BGRIM,GPSC,OSP,SAWAD หุ้นออก- ไม่มี หุ้น SmallCap: เข้า- CENTEL,DOHOME,JMT,SPRC,STPI,TPIPP,TQM หุ้นออก- CBG,SAWAD,TISCO
# Stock Pick Today : UV คาดว่าสัปดาห์นี้จะประกาศงบปี คือ สิ้นสุด ก.ย.62 และปันผลพิเศษจำนวนมาก หลังจากขายเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ หุ้น GOLD ให้กับ FPTและจะบันทึกกำไรก้อนโตในงวด 4Q61-62 เงินปันผลพิเศษที่คาดไว้คือ 0.59-0.97 บาท และมีอัตราผลตอบแทนปันผลสูง (Dividend Yield) คือ 10.0%-16.7% ส่วนการจ่ายปันผลคาดว่าจะเป็นกลาง ก.พ.63 หลังประชุมบอร์ดม.ค.63 คาดว่าราคาหุ้น UV จะตอบรับในทางบวก เมื่อผลประกอบการออกมา คำแนะนำ: ซื้อเก็งกำไรทั้งนี้เรายังไม่ได้จัดทำประมาณการ และราคาพื้นฐานของ UV
การวิเคราะห์ทางเทคนิค: ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เหมือนจะเป็นบวกเล็กๆ {“ปิดบวกเล็กน้อย”ใต้“SMA10วัน” (โดยยังถูกกดดันจาก“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯสัปดาห์นี้“แกว่ง”แบบให้น้ำหนักกับการลง แต่“ค่าบวก”{มี“แนวรับย่อย 1580+/-”(ที่ลงไปทดสอบแล้ว)“หนุน”} จะช่วยให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1610 (หรือ 1620) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1590” / แนวรับย่อย “1580 – 1570 (หรือ1550)” จุด} คาดหุ้น New High เข้ามาใหม่คือKTB,SCC,KCE,IVL,SISB,GLOBAL ที่ยังอยู่ใน List คือ TASCO,MEGA,MTC,JMT,GPSC,MINT หุ้นหลุด ListRATCH,TKN หุ้นอยู่ในพื้นที่ Take Profit คือ BDMS,CHG,HANA
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Company Guide : BDMS (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 28.00)
HANA (ถือ -ราคาพื้นฐาน 32.00)
NOBLE (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 23.93)
Flash Note : WHA (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 5.46)
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ: ทรัมป์กล่าวสหรัฐใกล้จะบรรลุข้อตกลงเฟสแรกกับจีน
# ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีนในไม่ช้านี้ ขณะที่ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนระบุว่า จีนจะร่วมมือกับสหรัฐในการทำข้อตกลงการค้าเฟสแรกบนพื้นฐานของการเคารพซึ่งกันและกัน และความเท่าเทียมกัน
+ สหรัฐ: ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต และภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ พ.ย.เพิ่มขึ้น
# ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงินเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 51.9 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน หลังจากแตะระดับ 50.9 ในเดือนต.ค.
+ สหรัฐ: ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 96.8 ในเดือนพ.ย.
# ส่วนผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 96.8 ในเดือนพ.ย.สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่า ดัชนีจะลดลงสู่ระดับ 94.9 หลังจากแตะระดับ 95.5 ในเดือนต.ค.
+ ดัชนีหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ปรับขึ้น ตอบรับข่าวเจรจาการค้าเป็นโทนบวก
# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,875.62 จุด เพิ่มขึ้น 109.33 จุด หรือ +0.39%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,110.29จุด เพิ่มขึ้น 6.75 จุด หรือ +0.22% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,519.88 จุด เพิ่มขึ้น 13.67 จุด หรือ +0.16%
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (22 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับความเห็นเชิงบวกเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
- น้ำมัน: ปรับลง มีแรงขายทำกำไร แต่รอดูเจรจาการค้า
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 81 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 57.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 58 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 63.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (22 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบออกมาเพื่อทำกำไร หลังจากราคาปรับตัวขึ้นในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าเกี่ยวกับการค้าโลก และแนวโน้มการผลิตน้ำมัน
+ ทองคำ: ทรงตัว แต่ตลอดสัปดาห์ปรับลง
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดทรงตัวที่ 1,463.60 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ สัญญาทองคำปรับตัวลงราว 0.33%
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทรงตัวเมื่อวันศุกร์ (22 พ.ย.) แต่ปรับตัวลงในรอบสัปดาห์นี้ โดยถูกกดดันจากการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้น และดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งทำให้ทองลดความน่าสนใจในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
+ ครม.เศรษฐกิจเห็นชอบแนวทางบริหารจัดการเศรษฐกิจปี 63
# ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) วันนี้ให้ความเห็นชอบแนวทางบริหารจัดการเศรษฐกิจปี 63 ได้แก่ 1.การดูแลเกษตรกร กำลังแรงงาน ผู้มีรายได้น้อย SME และ เศรษฐกิจฐานราก 2.การรักษาแรงขับเคลื่อนการขยายตัวจากการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ 3.การขับเคลื่อนการส่งออกให้ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 3% ในปี 63 4.การขยายตัวของการลงทุนภาคเอกชน 5.การสนับสนุนการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว
+ ไทยยังอยู่ในกลุ่มประเทศที่การเติบโตยังขยายตัวเร่งขึ้น แม้เศรษฐกิจ 3Q62 ซบเซา
# รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการรัฐมนตรี (ครม.เศรษฐกิจ) เปิดเผยว่า วันนี้ที่ประชุมฯรับทราบภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 3/62 ที่ขยายตัว 2.4% และคาดว่าในไตรมาส 4/62 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นราว2.8% และทั้งปี 62 คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 2.6% ซึ่งหากเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ แล้วพบว่าไทยยังอยู่ในกลุ่มประเทศที่การเติบโตยังขยายตัวเร่งขึ้น ซึ่งรัฐบาลต้องขับเคลื่อนให้มีการเติบโตต่อเนื่องไป เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น การลงทุน การจับจ่ายใช้สอย
+ BAM คาดเคาะราคาไอพีโอสุดท้าย วันที่ 2 ธ.ค. นี้ จากช่วงราคา 15.50-17.50 บาท/หุ้น
# บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์จะเสนอขายหุ้น IPO ด้วยจำนวนรวมกันไม่เกิน 1,535 ล้านหุ้น ประกอบด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 280 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมจำนวนไม่เกิน 1,255 ล้านหุ้น และนอกจากนี้ อาจมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (Greenshoe) จำนวนไม่เกิน 230 ล้านหุ้น รวมทั้งสิ้นจำนวนไม่เกิน 1,765 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ 5 บาท เพื่อนำเงินจากการระดมทุนไปขยายธุรกิจโดยซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและทรัพย์สินรอการขายในอนาคตชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน และ/หรือชำระหุ้นกู้ที่ถึงกำหนดที่ออกโดยบริษัทฯ และ/หรือตั๋วเงินจ่าย และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
# ทั้งนี้จะเปิดให้บุคคลทั่วไปจองซื้อระหว่างวันที่ 25-29 พฤศจิกายน 2562 และสำหรับผู้ลงทุนสถาบัน(รวมถึงสถาบันที่เป็น เฉพาะเจาะจงหรือ Cornerstone Investors ในประเทศไทย) จะเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 3-4 และ 6 ธันวาคม 2562โดยคาดว่าหุ้น BAM จะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 16 ธันวาคม 2562
# สำหรับผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินของ BAM ระหว่างปี 2559-2561 นั้น มีรายได้เติบโตเฉลี่ย 5.5% ต่อปีมีกำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ย 3.0% ต่อปี สำหรับงวด 9 เดือน ปี 2562 BAM มีรายได้รวม 9,206 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 4,882 ล้านบาท ราคาประเมินของหลักทรัพย์คํ้าประกันมีมูลค่าสูงกว่ามูลค่าทางบัญชีของ NPLs และ NPA ราว 2.4/2.3 เท่า ณ3Q62
+ ทีเอ็มบี-ทีเอสอาร์ฉลุย รายย่อยแห่ใช้สิทธิ 80% คลังโล่ง!ยันเงินเพียงพอ
# นักลงทุนรายย่อยใช้สิทธิ TSR ของแบงก์ทีเอ็มบีกว่า 80% ด้านกองทุนวายุภักษ์พร้อมใช้สิทธิเกินโควตา หรือในส่วนที่รายย่อยไม่มาใช้ มีวงเงินพร้อม 6.5 พันล้านบาท ด้านทีเอ็มบีนัดประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 28 พ.ย.นี้ ก่อนเปิดเพิ่มทุนรอบสองให้ TCAP และโนวาสโกเทีย ราคาหุ้นละ 2.18 บาทต่อหุ้น ต้นเดือน ธ.ค.นี้ เผยวายุภักษ์ซื้อปุ๊บฟาดกำไรทันที จากเงินปันผล 0.03 บาทต่อหุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 29 พ.ย. (ข่าวหุ้น)
# ผลกระทบ: ต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการจาก TMB ก่อน คำแนะนำล่าสุดคือ ถือ ราคาพื้นฐาน 1.83 บาท
+ ตลท.ให้หุ้น PORT ย้ายเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (SET) เริ่ม 26พ.ย.
# ตามที่บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) (PORT) เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอไอ (mai) ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2560 และต่อมา PORT ได้ยื่นคำขอให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาอนุมัติให้หลักทรัพย์ของ PORT ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) นั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาแล้วเห็นว่าPORT มีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่องการรับหุ้นสามัญหรือหุ้นบุริมสิทธิเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน พ.ศ. 2558 (SET)
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]