- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 20 November 2019 17:22
- Hits: 3327
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“ข้อพิพาทการค้าจีน-สหรัฐ น้ำมันร่วงกดดัชนีฯ”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
ภาวะตลาดและปัจจัย : SET วานนี้ -0.75 จุด ปิดที่ 1607.25 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบางเป็น 48 พันล้านบาท ดัชนีแย่กว่าเพื่อนบ้านที่ส่วนใหญ่ปรับขึ้น ดัชนีอยู่ในแดนลบตลอดวัน หลังจีนไม่มั่นใจในการเจรจาการค้ากับสหรัฐ และสถานการณ์ฮ่องกงไม่ดีขึ้น มีแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน และธนาคาร ขณะที่ซื้อสุทธิมากคือ โบรกเกอร์ ขายสุทธิมากเป็น สถาบัน ต้นเดือนถึงปัจจุบันต่างชาติขายสุทธิ 701 ล้านบาท ด้านแนวโน้มตลาดและกลยุทธ์คือ
# ปัจจัยสำคัญ: การเจรจาการค้ากลับมาไม่แน่นอน ราคาน้ำมันดิ่ง ปัจจัยลบคือ ทรัมป์อาจเก็บภาษีจีนเพิ่ม หากเจรจาการค้าไม่คืบ ราคาน้ำมันลงแรง ดาวโจนส์วานนี้ปรับลง หลังหุ้นค้าปลีกประกาศกำไร 3Q ไม่สดใส กลับเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น ดูจากราคาทองคำและพันธบัตรสหรัฐปรับขึ้น ฮ่องกงยังไม่ดี ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านเช้านี้ปรับลงถ้วนหน้า ส่วนการเมืองไทยวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินคดีหุ้นสื่อ ของคุณธนาธร พรรคอนาคตใหม่ ด้านปัจจัยบวกคือ ตัวเลขเริ่มต้นสร้างบ้านต.ค.เพิ่ม น้ำมันล่วงหน้ารีบาวด์ และกระตุ้นศก.จากรัฐ
# ระยะสั้นคาด SET- Sideways ทางลบ หลังเจรจาการค้ากลับมาไม่แน่นอนอีกครั้ง น้ำมันลงแรง หุ้นส่งออก โภคภัณฑ์ปิโตรเคมี ได้รับผลลบจากการเจรจาการค้าไม่คืบหน้า หุ้นพลังงานถูกกดดันจากราคาน้ำมันร่วงแรง และกลุ่มโรงกลั่น ได้รับผลลบจากค่าการกลั่นช่วงนี้ติดลบหรือไม่ถึง 1 USD/บาร์เรลล์ เราคาดว่า SET ซื้อขายในกรอบ 1590-1630 จุด แนวต้านเป็น 1610-1630 จุด แนวรับอยู่ที่ 1590-1580 จุด Stop Loss ต่ำกว่า 1600 จุด การเข้าเก็งกำไรไม่ควรหวังผลตอบแทนสูง หาจังหวะขายทำกำไร กลยุทธ์ คือ เลือกลงทุนทยอยสะสม เป็นรายกลุ่มและรายตัว (Selective) ตาม Theme เป้าหมายดัชนีปีหน้า 1725 จุด แนะนำ หุ้น Domestic Playหุ้นไม่ผันแปรตามเศรษฐกิจ หรือปันผลสูงแทน หุ้นกลุ่ม REITs และ IFFS น่าสนใจ จากดอกเบี้ยต่ำ ด้านหุ้นเข้า-ออก MSCI มีผล 26 พ.ย.62 หุ้นขนาดใหญ่ เข้า-BGRIM,GPSC,OSP,SAWAD หุ้นออก- ไม่มี หุ้น Small Cap: เข้า- CENTEL,DOHOME,JMT,SPRC,STPI,TPIPP,TQM หุ้นออก- CBG,SAWAD,TISCO
# Stock Pick Today : TASCO ปริมาณขายเพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง เนื่องจากอุปสงค์ในตลาดต่างประเทศสูง โดยเฉพาะในอินโดนีเซีย ซึ่ง 2H เป็นช่วง High season, มีวัตถุดิบจากเวเนซูเอลาเพียงพอ (บริษัทคาดว่าจะได้รับวัตถุดิบ 15 Shipments ในปีนี้ เทียบกับได้รับ 8 Shipments ในปีก่อน), ได้รับคำสั่งซื้อจะลูกค้าถึงสิ้นปี 19 แล้ว แนวโน้มไปได้ดี คาดปริมาณขายและมาร์จิ้นในปี 19F จะดีขึ้น และทรงตัวได้ในระดับสูงได้ในปี 20F กำไรสุทธิปี 19F เติบโต 203%YoY เป็น 2.4 พันล้านบาท และคาดว่าจะ +4% ต่อในปี20F แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 25 บาท
การวิเคราะห์ทางเทคนิค: ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เหมือนจะยังเป็นบวกเล็กๆ {“ปิดลบเล็กน้อย”(แต่“ไม่ปิดต่ำ”)ใต้“SMA10วัน” (โดยถูกกดดันจาก“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบให้น้ำหนักกับการลง แต่“ค่าบวก”(มี“Oversold ในกราฟรายนาที”หนุน) จะทำให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1610 – 1620 (หรือ 1630) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1600” (แนวรับย่อย “1590 – 1580 (หรือ 1550)” จุด)} คาดหุ้น NewHigh เข้ามาใหม่คือ TASCO,SPRC,STPI,TQM,MEGA,TFG ที่ยังอยู่ใน List คือ BDMS,HMPRO, หุ้นหลุด List คือ TTW หุ้นอยู่ในพื้นที่ Take Profit คือ EPG,KKP,BH,IVL,ERW
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Company Guide : BTS (ถือ -ราคาพื้นฐาน 13.85)
SPA (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 19.50)
Flash Note : DCC (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 2.20)
DRT (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 7.10)
In The News : SCB (ราคาปิด 116 บาท) : จ่อแปลงหนี้ PACE เป็นทุน
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
- สหรัฐ: ล่าสุดปธน.ทรัมป์ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีก หากไม่บรรลุการเจรจา
# นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยล่าสุดปธน.ทรัมป์ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีก หากสหรัฐและจีนยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้า ขณะที่นายแกรี่ โคห์น อดีตหัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า เขาเชื่อว่าปธน.ทรัมป์จะเดินหน้าเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในวันที่ 15 ธ.ค. หากทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถทำข้อตกลงการค้าร่วมกันได้
+ สหรัฐ: ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้าน ต.ค.เพิ่มขึ้น
# สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 3.8% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.314 ล้านยูนิต จากระดับ 1.266 ล้านยูนิตในเดือนก.ย.
• สหรัฐ: ตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศต่อไป
# ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 29-30 ต.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์,ดัชนีการผลิตเดือนพ.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค., ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนต.ค.จากConference Board, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนพ.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนพ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
- ดัชนีหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ปรับลง หุ้นค้าปลีกร่วง หลังธุรกิจซบเซา
# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,934.02 จุด ลดลง 102.20 จุด หรือ -0.36% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่3,120.18 จุด ลดลง 1.85 จุด หรือ -0.06% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,570.66 จุด เพิ่มขึ้น 20.72 จุด หรือ +0.24%
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 พ.ย.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลงอย่างหนัก หลังจากโฮม ดีโปท์และโคห์ลส์ คอร์ป ซึ่งเป็นสองบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ต่ำกว่าคาดนอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีก หากสหรัฐและจีนยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้า
- น้ำมัน: ปรับลง หลังสต็อกสหรัฐสูง และกังวลรัสเซียจะไม่ลดกำลังการผลิต
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 1.84 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 55.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ดิ่งลง 1.53 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 60.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 3% เมื่อคืนนี้ (19 พ.ย.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังจากผลสำรวจของนักวิเคราะห์ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 รวมทั้งรายงานที่ว่า รัสเซียอาจจะไม่ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอีก ในการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศพันธมิตร ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 5-6 ธ.ค.นี้
- ทองคำ: ปรับขึ้น เข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย หลังตลาดหุ้นนิวยอร์คร่วง
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.40 ดอลลาร์ หรือ 0.16% ปิดที่1,474.30 dollars ดอลลาร์/ออนซ์
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงเมื่อคืนนี้ อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สกัดแรงบวกของตลาด
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
+ ครม.เน้นรัฐมนตรีดูแลปัญหาทั้งในด้านเศรษฐกิจฐานราก กลุ่มเกษตรกร และกลุ่มแรงงาน
# นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กล่าวว่า ได้กำชับกับบรรดารัฐมนตรีให้ไปดูแลปัญหาทั้งในด้านเศรษฐกิจฐานราก กลุ่มเกษตรกร และกลุ่มแรงงาน ว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างไร เนื่องจากหลายอย่างเป็นมิติที่ต้องหารือร่วมกันในการทำงาน พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้พัฒนาปรับปรุงการทำงานของรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจไปด้วยให้ครอบคลุมในหลายมิติ เนื่องจากงานต้องเดินหน้าไปด้วยกัน ซึ่งรวมถึงการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงด้านท่องเที่ยว และโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะการลงทุนของรัฐที่ประกอบไปด้วยหลายส่วน ทั้งงบประมาณภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจ ที่จะต้องเร่งขับเคลื่อนในไตรมาส 4/62 เพื่อส่งต่อไปยังไตรมาส 1/63
+/• AWC: ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ คุณ เจริญ ซื้อหุ้นเพิ่มอีก
# เจริญ สิริวัฒนภักดี ซื้อหุ้น AWC เพิ่มอีก 3.2593% รวมเป็น 27.5624% ถ้าเป็นกลุ่ม รวมเป็น 75%
-ธนาคารธนชาติ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี
# ธนาคารธนชาต (TBANK) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.35% จากเดิม 7.500%มาอยู่ที่ 7.150% มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไปเจริญ สิริวัฒนภักดี ซื้อหุ้น AWC เพิ่มอีก3.2593% รวมเป็น27.5624% ถ้าเป็นกลุ่ม รวมเป็น75%
-การ IPO หุ้น ARAMCO ของซาอุฯ ดึงสภาพคล่องการเงินในระยะนี้
# ราคา IPO อยู่ที่ 8-8.5 เหรียญสหรัฐ จะมีการระดมทุนราว 24-25.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในตลาดหลักทรัพย์ซาอุฯ หรือTadawul
# สำหรับเส้นตายที่จะยื่นจองหุ้น ARAMCO สำหรับสถาบันเป็น 4 ธ.ค.62 และสำหรับรายย่อยเป็น 28 พ.ย.62
# ผลกระทบ: แสดงว่าการดึงสภาพคล่องในตลาดทุนจะสิ้นสุดลงราว ต้น ธ.ค.62 นี้
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]