WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

logo aceบล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
•    วันนี้คาดดัชนี SET Index แกว่งลงทดสอบกรอบแนวรับ 1,595-1,600 จุด หากหลุด Downside เปิดแนวรับถัดไป 1,580 จุด โดยมองปัจจัย ตปท.ทั้งการบรรลุข้อตกลงเฟส1 Trade war ส่อยืดเยื้อ หลังยังไม่มีการเซ็นข้อตกลงดังกล่าว บวกกับการผ่านร่าง กม.ของสภาบนสหรัฐฯ หนุนการประท้วงฮ่องกง ยิ่งสร้าง Sentiment เชิงลบกดดันเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ราคาน้ำมันวานนี้ปรับลงสะท้อนท่าทีรัสเซียจะไม่ปรับลดกำลังผลิตน้ำมันลงเพิ่มเติม
•    Market Factor
•    (-) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่เดินหน้าเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนตามกำหนดการเดิมวันที่ 15 ธ.ค. 62 หากสหรัฐฯ-จีนยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าได้
•    (-) สภาบนสหรัฐฯ มีมติเอกฉันท์เช่นเดียวกับสภาล่างสหรัฐฯ ที่ผ่านร่างกฏหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในฮ่องกงไปแล้วตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. 62 ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน จากการที่สหรัฐฯ เข้ามาแทรกแซงฮ่องกง ซึ่งฮ่องกงเป็นส่วนหนึ่งของจีนที่มีกฏหมายและเศรษฐกิจแยกออกมา อย่างไรก็ดีต้องรอให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามรับรองเพื่อบังคับใช้ต่อไป
•    (-) สัญญาน้ำมันดิบ WTI และ Brent วานนี้ปรับลง 3.2%DoD และ 2.5%DoD หลังตลาดกังวลความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน บวกกับรัสเซียอาจไม่ปรับลดกำลังการผลิตลงอีกในการประชุม OPEC วันที่ 5-6 ธ.ค. 62 ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย  
•    (-) BOI เผยแนวโน้มคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนปี 62 ช่วง 9M62 จะอยู่ที่ 1,165 โครงการ มูลค่าราว 3.14 แสนล้านบาท ต่ำกว่าคาดไว้ แต่ยังคงกำหนดเป้าหมายคำขอไว้ที่ 7.5 แสนล้านบาท โดยเน้นกลยุทธ์เชิงรุกเข้าเจรจาเจาะรายบริษัท และจัดคณะชักจูงการลงทุนระดับบีโอไอช่วงท้ายของปี (แนวหน้า)
•    (-) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมฟิลิปปินส์ เผยเตรียมพิจารณาขึ้นภาษีรถยนต์ส่งออกจากไทย โดยอ้างว่าเพื่อตอบโต้การเพิกเฉยฝั่งไทยที่ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงเกี่ยวกับการระงับข้อพิพาทภาษีบุหรี่ ที่    ลงนามร่วมกันต่อหน้า WTO (โพสต์ทูเดย์)
•    ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 115.13 บ. ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 93.43 บ. หรือลดลง 18.85%YTD
•    Update Flow เมื่อวานนี้ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 43.41 ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD.ต่างชาติขายสุทธิอยู่ที่ 701.07 บ.ขณะที่ นลท.สถาบันซื้อสุทธิ MTD.ลดลงเหลือ 2,338.7 ลบ.
Investment Strategy
•    สัปดาห์นี้ เรามอง SET Index ผันผวนในกรอบ 1,580-1,620 จุด โดยมีแรงกดดันหลักจากการปรับลดประมาณการกำไรในปี 62-63 ของบริษัทจดทะเบียนที่มีผลประกอบการช่วง 3Q62 ออกมาไม่ดี ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังคงรอความชัดเจนจากประเด็นข้อตกลง Trade war เฟสแรกต่อไป ในช่วงเราแนะนำนักลงทุนระมัดระวังในการลงทุน และเลือก Selective Buy หุ้นที่ผลประกอบการดี รวมถึงเรายังคงแนะนำหุ้น 4กลุ่มเดิมที่สามารถทยอยซื้อลงทุนได้ในระยะ 3-6 เดือน ดังนี้
•    หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้น ศก.ของรัฐฯทั้งมาตรการท่องเที่ยว, ชิมช้อปใช้และงานประมูลภาครัฐฯ: แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ SEAFCO (แม้ช่วง 2H62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พัน ลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่น ลบ.), ERW (ช่วง 3Q62 กำไรโตเล็กน้อย 3%YoY หลังรายได้จากโรงแรมเพิ่มขึ้น 5%YoY เรามองช่วงปลายปียังมีโอกาสฟื้นตัวจากการกลับมาเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม.และมีสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง), CPALL (ช่วง 3Q62 กำไรโต 8.3%YoY จากยอดขายที่เพิ่มจาก 7-11 กว่า 11,640 สาขา (ก.ย.62) และ MAKRO โดยบริษัทยังคงเป้าขยายสาขาต่อเนื่องให้ถึง 13,000 สาขาในปี 64 , MINT (ช่วง 3Q62 กำไรโต 347%YoY ด้วยกำไรพิเศษจากการขายโรงแรมที่โปรตุเกส บวกกับ ช่วง 4Q62 เรามองฟื้นตัวต่อด้วยธุรกิจโรงแรมและอาหารหลังตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องจากฐานปีก่อนที่ลดลง)
•    กลุ่ม Defensive Stock: เราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (ช่วง 2H62 คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มโตต่อ หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯ ที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถมินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.
•    กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoY และช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำ SAWAD (คาดกำไรปี62 โต 30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต20-30% และอีก 300 สาขา,  Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWADรายงานการถือครองหุ้นBFIT หลัง Tender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (ช่วง 3Q62 ทำ All time high ทั้งรายได้และกำไร คาดปี 62 เห็นการ Turnaround ของกำไรหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นจากการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่)
•    หุ้นกลุ่ม ร.พ.ขนาดกลางที่คาดกำไรช่วง 2H62 โต เข้าสู่ High Season: PR9 (มองทั้งปี 62 โตต่อ หลังกำไร 9M62 โต 10.9%YoY) บ.ยังมีศักยภาพในการเติบโตหลังแนวโน้มการทำกำไรเร่งตัวขึ้นสะท้อนผ่านEBITDA Margin ช่วง 9M62 ปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ 17.7% (จาก 17.2% ช่วง 9M61) บ.มีแผนการเติบโตที่สดใส เนื่องจาก บ.ถือเป็น Cash Company มีเงินสดต่อหุ้นมากกว่า 2 บ.เตรียมเปิดตึกใหม่ต้นปี 63 เพื่อรองรับลูกค้าได้เพิ่มกว่าเท่าตัวหลังเกิด Over demand ในกลุ่มลูกค้า ICU-CCU (คิดเป็นกว่า 30% ของรายได้) และศูนย์บริการที่ถือเป็นไฮไลท์ใหม่อย่าง Pain Management and Wellness Center ขยายฐานลูกค้าต่างชาติครอบคลุมทั้งจีนและกลุ่มอาเซียน รวมถึงกลุ่มลูกค้าประกันองค์กรและผู้ประกันตนด้วย คาดหนุนบ.มีโอกาส   คุ้มทุนได้เร็วกว่าที่ตลาดคาด นอกจากนี้ Consensus ให้ Valuation ที่ถูกสุดเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม  ทั้งในแง่ Forward PE เพียง 23.17X ,P/BV 1.78X และEV/EBITDA 10.23X (อุตสาหกรรมอยู่ที่ PE 31.40X,P/BV 4.49X และ EV/EBITDA 20.32X)
•    Trading Idea
•    หุ้นฟื้นตัว 4Q62 ต่อเนื่องปี 63: BGC ลุ้นกำไรฟื้นตัวช่วง 4Q62 หลังแนวโน้ม Gross margin จะเร่งตัวขึ้นจาก Efficiency rateเตาหลอมแก้วที่ราชบุรีเริ่มดีขึ้น บวกกับเริ่มรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าเวียดนามกำลังผลิตรวมกว่า 100 MWตั้งแต่ช่วงต้นปี 63 เป็นต้นไป นอกจากนี้Consensus คาดปันผลปี 63 ให้Yield กว่า 5.4% ทางเทคนิค ประเมินแนวรับ12.90 บ. คาดหวังแนวต้าน 14.70 บ.(Stop loss ต่ำกว่า 12.60บ.)
•    หุ้นที่มีกำไรช่วง 3Q62 โตดี และคาดโตต่อเนื่องช่วง 4Q62 บวกกับทั้งปี 62-63 โต YoY: AU, MINT, PLANB, CHG, AEONTS
    19-Nov-19    Change (pts.)    18-Nov-19
SET Index    1,607.25    -0.75    1,608.00
SET50 Index    1,084.27    -1.54    1,085.81
SET100 Index    2,377.18    -2.52    2,379.70
 
High    1,609.30    Gainers    711
Low    1,600.05    Unchanged    533
Value (Bt m)    48,490.56    Losers    762
Volume (*000)    17,742,130         
Market Valuation
SET Data    2019F    2020F    Long Term
Fwd PER (x)    17.2    15.4    15.4
EPS Growth (%)    13.9    9.3    -6.8
EV/EBITDA (x)    0.0    0.0    0.0
FWD PBV (x)    1.8    1.7    1.6
Dividend Yield (%)    3.0    3.3    3.5
ROE    9.9    10.3    10.4
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt    19-Nov-19    WTD    MTD    YTD
Institution    (307.18)    (426.19)    2,338.71    27,003.24
Proprietary    168.68    668.12    3,317.11    13,772.97
Foreign     43.41    (471.23)    (701.07)    (13,775.22)
Individual    95.08    229.30    (4,954.75)    (27,000.99)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
จิรภัทร  โบสุวรรณ (ID. 040051)    [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932)    [email protected]
ธีรยุทธ  ฤทธิเผ่าพันธุ์    ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์    Data Support / Secretary

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!