- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 19 November 2019 16:29
- Hits: 3139
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“จีนไม่เชื่อมั่นเจรจาการค้า แม้ขยายเวลาให้หัวเว่ย”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
ภาวะตลาดและปัจจัย : SET วานนี้ +5.77 จุด ปิดที่ 1608.00 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบางเป็น 42.9 พันล้านบาท ดัชนีแกว่งแคบคล้ายเพื่อนบ้าน ในช่วงแรกดัชนีฯปรับลงรับข่าวสภาพัฒน์ประกาศ GDP ไตรมาส 3 ของไทยต่ำกว่าคาดเป็น 2.4% ทั้งปีคาดว่าจะโตเพียง 2.6% แต่มีการรีบาวด์กลับมาได้ในช่วงบ่ายหลังจากลงติดต่อกันมาหลายวันทำการ ขณะที่ซื้อสุทธิมากคือ โบรกเกอร์ ขายสุทธิมากเป็น ต่างชาติ ต้นเดือนถึงปัจจุบันต่างชาติขายสุทธิ 744 ล้านบาท ด้านแนวโน้มตลาดและกลยุทธ์คือ
# ปัจจัยสำคัญ: จีนไม่มั่นใจเจรจาการค้า แม้สหรัฐเลื่อนเวลาให้หัวเว่ย ปัจจัยลบมีมาก คือ จีนไม่มั่นใจเพราะสหรัฐฯมีทีท่าไม่ยกเลิกการเก็บภาษีจีนเพิ่ม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านลดลง ราคาน้ำมันโลกปรับลง กลับเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย ทองคำและพันธบัตรามีราคาสูงขึ้น สภาพัฒน์ปรับลด GDP ไทยปีนี้เหลือ 2.6% ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านเช้านี้ลดลงเป็นส่วนใหญ่ ส่วนดาวโจนส์และน้ำมันล่วงหน้าก็อ่อนลง ด้านข่าวบวกคือ สหรัฐขยายเวลาให้หัวเว่ยซื้อสินค้าจากสหรัฐได้อีก 90 วัน และดาวโจนส์สป็อตปรับขึ้น
# ระยะสั้นคาด SET- Sideways ทางลบ หลังเจรจาการค้ากลับมาไม่แน่นอนอีกครั้ง แม้ดัชนีมีโอกาสรีบาวด์ ข่าวน่าสนใจคือ MINT ซื้อบอนชอน ส่วน SYNEX,HANA ได้จิตวิทยาทางบวกเรื่องหัวเว่ยได้ขยายเวลาจากสหรัฐ และหุ้นกล่มโทรศัพท์เคลื่อนที่ดูด้อยลง หลัง TRUE กลับมาทำสงครามราคาในตลาด Prepaid เราคาดว่าSET ซื้อขายในกรอบ 1590-1630 จุด แนวต้านเป็น 1620-1630 จุด แนวรับอยู่ที่ 1590-1580 จุด Stop Loss ต่ำกว่า 1605 จุด การเข้าเก็งกำไรไม่ควรหวังผลตอบแทนสูง หาจังหวะขายทำกำไร กลยุทธ์ คือ เลือกลงทุนทยอยสะสม เป็นรายกลุ่มและรายตัว (Selective) ตาม Theme เป้าหมายดัชนีปีนี้ 1680 จุด ปีหน้า 1725 จุดแนะนำ หุ้น Domestic Play หุ้นไม่ผันแปรตามเศรษฐกิจ หรือปันผลสูงแทน ด้านหุ้นเข้า-ออก MSCI มีผล 26 พ.ย.62 หุ้นขนาดใหญ่ เข้า- BGRIM,GPSC,OSP,SAWAD หุ้นออก- ไม่มี หุ้น Small Cap: เข้า- CENTEL,DOHOME,JMT,SPRC,STPI,TPIPP,TQM หุ้นออก- CBG,SAWAD,TISCO
# Stock Pick Today : GPSC เราคาดว่า Norm profit งวด 4Q19F จะได้รับแรงหนุนจากการจ่ายไฟของโรงไฟฟ้า IPP ที่มากขึ้น, การเปิด 3 โครงการใหม่ กำลังการผลิตรวม 392 MW คือ NL1PC (26 MW), CUP4 (45 MW), ไซยะบุรี (321 MW) รวมทั้งไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษ ทั้งนี้ปัจจุบัน GPSC มีกำลังผลิตไฟฟ้า 2,255 MW และ GLOW มี2,770 MW แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 103 บาท (SOP) โดยคาดว่าธุรกิจจะมี Synergies หลังซื้อ GLOW และมีโอกาสเติบโตไปตามกลุ่ม PTT โดยเฉพาะในพื้นที่ EECด้าน Valuation ก็ต่ำกว่ากลุ่ม
การวิเคราะห์ทางเทคนิค: ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เหมือนจะเป็นบวกเล็กๆ {“ปิดบวก”ใต้“SMA10วัน” (โดยถูกกดดันจาก“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบให้น้ำหนักกับการลง แต่“ค่าบวก”(มี“Oversold ในกราฟรายนาที”หนุน) จะทำให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1620 (หรือ 1630) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1605” (แนวรับย่อย “1590 – 1580 (หรือ 1550)” จุด)} คาดหุ้น New High เข้ามาใหม่คือEPG,KKP,TTW,BH,IVL,ERW ที่ยังอยู่ใน List คือ BDMS,HMPRO, หุ้นหลุด List คือ MBK หุ้นอยู่ในพื้นที่ Take Profit คือ BTS,PTG,AOT,MEGA
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Company Guide : AOT (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 90.00)
MINT (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 42.00)
SIRI (Fully Valued -ราคาพื้นฐาน 0.82)
Flash Note : WHA (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 5.46)
In The News : SYNEX (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 8.70)
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ: ขยายเวลาให้หัวเว่ยครั้งที่ 2 เป็นเวลา 90 วัน
# กระทรวงพาณิชย์สหรัฐประกาศขยายเวลาอีก 90 วันให้แก่หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ในการซื้อสินค้าจากบริษัทสหรัฐต่อไปเพื่อให้บริการต่อลูกค้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 ที่สหรัฐขยายเวลาให้กับหัวเว่ย นับตั้งแต่ที่ทางบริษัทถูกขึ้นบัญชีดำในเดือนพ.ค.อันเนื่องจากเหตุผลด้านความมั่นคง
- สหรัฐ: จีนไม่มั่นใจการเจรจาการค้า หลังสหรัฐไม่ยกเลิกเก็บภาษีเพิ่ม
# นักลงทุนยังคงรอความชัดเจนเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยล่าสุดสำนักข่าว CNBC รายงานว่าเจ้าหน้าที่จีนไม่มีความเชื่อมั่นต่อการเจรจาการค้ากับสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ปฏิเสธที่จะยกเลิกการปรับเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าจากจีน โดยท่าทีดังกล่าวของสหรัฐได้สร้างความไม่พอใจให้กับจีน เนื่องจากจีนมองว่าทั้งสองฝ่ายเคยตกลงกันในเรื่องนี้แล้ว
- สหรัฐ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้าน พ.ย.ลดลง
# สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านลดลง 1 จุด สู่ระดับ 70 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน
• สหรัฐ: ตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศต่อไป
# ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนต.ค., คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 29-30 ต.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนพ.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค., ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนต.ค.จาก Conference Board, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนพ.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนพ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
+ ดัชนีหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ ขานรับข่าวสหรัฐประกาศขยายเวลาอีก 90 วันให้แก่บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่
# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,036.22 จุด เพิ่มขึ้น 31.33 จุด หรือ +0.11% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่3,122.03 จุด เพิ่มขึ้น 1.57 จุด หรือ +0.05% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,549.94 จุด เพิ่มขึ้น 9.11 จุด หรือ +0.11%
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) ขานรับข่าวสหรัฐประกาศขยายเวลาอีก 90 วันให้แก่บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ในการซื้อสินค้าจากบริษัทสหรัฐ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและผู้ผลิตชิป โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทที่เป็นซัพพลายเอร์ของหัวเว่ย อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นนิวยอร์กเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องจากนักลงทุนยังคงรอความชัดเจนเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
- น้ำมัน: ปรับลง ท่ามกลางความไม่แน่นอนเจรจาการค้า
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 67 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 57.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 86 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 62.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐและการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศพันธมิตร ที่กรุงเวียนนาในช่วงต้นเดือนหน้า
- ทองคำ: ปรับขึ้น หลังดอลลาร์อ่อนค่า และราคาพันธบัตรปรับลง
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.40 ดอลลาร์ หรือ 0.23% ปิดที่1,471.90 ดอลลาร์/ออนซ์
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังทำให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
-การ IPO หุ้น ARAMCO ของซาอุฯ ดึงสภาพคล่องการเงินในระยะนี้
# ราคา IPO อยู่ที่ 8-8.5 เหรียญสหรัฐ จะมีการระดมทุนราว 24-25.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในตลาดหลักทรัพย์ซาอุฯ หรือTadawul
# สำหรับเส้นตายที่จะยื่นจองหุ้น ARAMCO สำหรับสถาบันเป็น 4 ธ.ค.62 และสำหรับรายย่อยเป็น 28 พ.ย.62
# ผลกระทบ: แสดงว่าการดึงสภาพคล่องในตลาดทุนจะสิ้นสุดลงราว ต้น ธ.ค.62 นี้
- สภาพัฒน์ประกาศ GDP 3Q62 ต่ำกว่าคาดเป็น 2.4%
# สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประกาศ GDP ไตรมาสที่ 3 /62 ขยายตัวต่ำกว่าคาดเหลือ2.4% แถมปรับแนวโน้มการลงทุนภาครัฐโตเพียง 2.3% จากเดิม 4% และการลงทุนรวมโตเพียง 2.7% จากเดิม 3.8% ส่วนทั้งปีคาดว่า GDP ไทยเติบโต 2.6%
# ผลกระทบ: เป็นลบ หลักทรัพย์อิงตามภาวะเศรษฐกิจไทย เป็นส่วนใหญ่ในตลาดฯ เช่น ธนาคาร พาณิชย์ สื่อสาร ฯ และที่เกี่ยวกับการลงทุนจากภาครัฐคือ รับเหมาก่อสร้าง
- กำไรสุทธิทั้งตลาด 3Q62 ไม่สดใส -17% y-o-y และ 9M62 -15% y-o-y
# กำไรสุทธิทั้งตลาด 3Q62 ไม่สดใส -17% y-o-y เป็น 2.18 แสนล้านบาท และ 9M62 -15% เป็น 6.92 แสนล้านบาท
# ในงวด 3Q62 อุตสาหกรรมที่พลิกจากกำไรมาเป็นขาดทุนคือ กลุ่มขนส่งเป็น -1.6 พันล้านบาท และกลุ่มเหล็กเป็น -1.2พันล้านบาท
# ในงวด 3Q62 อุตสาหกรรมที่กำไรลดลงมากที่สุด y-o-y 5 ลำดับแรก คือ 1) กลุ่มปิโตรเคมี -78% 2) กลุ่มแฟชั่น -76% 3)กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง -55% 4) กลุ่มอิเลกทรอนิกส์ -53% และ 5) กลุ่มผลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคลและเวชภัณฑ์ยา -50%
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]