- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 07 October 2014 18:05
- Hits: 1721
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook
Technical Rebound ที่แนวรับ 1,540 จุด: SET ปรับลดลงแรงต่อเนื่อง 1.73% ปิดตลาดที่ 1,543.13 จุด นำโดยแรงขายหุ้นขนาดใหญ่อย่างกลุ่มธนาคาร และ AOT ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.5 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิ 184 ล้านบาท...สำหรับแนวโน้ม SET วันนี้ คาด Technical Rebound หลังปรับลดลงมาที่บริเวณแนวรับ 1,540 จุด ด้วยเป้าหมายการ Rebound ที่บริเวณ 1,555 +/- จุด ขณะที่ระยะสัปดาห์ยังไม่มีสัญญาณยืนยันการจบรอบพักฐาน สำหรับการปรับลดประมาณการ GDP ปี 2014-15 ลงเหลือ 1.5-3.5% ของ World Bank คาดว่าจะส่งผลกระทบกับ SET เพียงระยะสั้นเท่านั้น
การ Rebound เป็นเพียงจังหวะ “เก็งกำไร”...ควรรอยืนยันการฟื้นตัว: แม้เราประเมิน Downside Risk ตลาดจำกัดที่ 1,540 จุด (ดูรายงาน The Quant & The Tactical วันที่ 6 ต.ค.) อย่างไรก็ตามเนื่องจาก SET ปรับลดลงเร็วกว่าคาด ด้วยปริมาณการซื้อขายหนาแน่น ทำให้ถ้าพิจารณาในเชิง Momentum ควรรอให้มีสัญญาณยืนยันการ “กลับตัว” ก่อนซื้อหุ้นคืน...สำหรับการ Rebound ของ SET วันนี้เป็นเพียงจังหวะ “เก็งกำไร” กลุ่มหุ้นที่ปรับลดลงแรงก่อนหน้าอย่างกลุ่มรับเหมาฯ อสังหาฯ เท่านั้น
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ AOT, BEAUTY, BTS, KBANK, SAMART, SAPPE, SPALI, STEC, และ TUF เป็นหุ้นใน Tactical Portfolio ขณะที่คงสัดส่วน Cash ที่ 10% ต่อไป
BTS…ขายสินทรัพย์ให้ NPARK: BTS พิจารณาขายบริษัทยย่อย 2 บริษัทที่ทำธุรกิจอสังหาฯ ได้แก่ 1) บีทีเอส แอสเสทส์ จำกัด (มีธุรกิจโรงแรมอิสติน แกรนด์สาทร และที่ดินบริษัทถนนพหลโยธิน ใกล้กับ BTS หมอชิต) และ บริษัทก้ามกุ้ง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มีที่ดินบริษัทถนนพญาไท ติดกับ BTS พญาไท) ให้กับ NPRAK เพื่อแลกกับ 1) หุ้นเพิ่มทุน ของ NPARK จำนวนไม่เกิน 213,000 ล้านหุ้น หรือ 37.06% ของหุ้นทั้งหมดของ NPARK ในราคาหุ้นละ 0.047 บาท + Warrant ในอัตราส่วน 2 หุ้นสามัญต่อ 1 Warrant และ 2) เงินสดอีกจำนวนหนึ่ง....ทั้งนี้เมื่อพิจารณาผลการดำเนินงานของ NPARK จะเห็นว่ายังประสบผลขาดทุนอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 1H14 ประมาณ 161 ล้านบาท ขณะที่งบดุลที่ส่วนทุนอยู่ประมาณ 4.4 พันล้านบาท หรือ Book Value 0.024 บาท/หุ้น ขณะที่ยังมีขาดทุนสะสมอยู่อีก 7.7 พันล้านบาท
Technical
หลุด 1550 เป็นสัญญาณลบต่อ : แรงขายหุ้นธนาคารอย่างหนักฉุดดัชนี SET ลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 3 เดือน 1550 จุด หลุดแนวรับสำคัญระยะกลางเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน เป็นจังหวะขายลดความเสี่ยง มีแนวรับถัดไปที่ระดับ 1525 และ 1490 จุด สำหรับวันนี้คาดว่าดัชนี SET จะเคลื่อนไหวลงในกรอบ 1532-1553 จุด
หุ้นที่แนะนำซื้อ : SST ราคาดีดตัวขึ้นทะลุ 29.00 บาท สิ้นสุดการพักตัวเป็นจังหวะซื้อตาม คาดว่าจะทดสอบยอดเดิม 31.50 บาท มีโอกาสทำยอดสูงสุดใหม่ที่ 33.50 บาท BTS สิ้นสุดการพักตัว คาดว่าจะแกว่งตัวขึ้นในกรอบ 9.80-10.30 บาท เป้าหมายทดสอบ 10.30 บาท BAY คาดว่าราคาจะแกว่งตัวอยู่ระหว่าง 49.00-53.00 บาท ขึ้นมาปิดยืน 49.00 บาทได้ เป็นจังหวะซื้อระยะสั้นเป็นโอกาสซื้อตาม มีเป้าหมายถัดไปที่ 52.00 บาท เป็นจุดขายทำกำไร
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Short สัญญา S50Z14 ต่อเนื่องแม้จะปรับลดลงถึงเป้าหมายที่ 1,034 จุดแล้วเมื่อวานนี้ แต่ยังไม่มีสัญญาณกลับตัวและโอกาสปรับลดลงต่อไปที่ 1,021 จุด ที่เป็นแนวรับระยะสัปดาห์ โดยปรับ Trailing Stop ลงมาที่ 1,040 จุด
Gold Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Short สัญญา GFV14 ด้วยเป้าหมายการปรับลดลงที่ 18,450 บาท และถัดไปที่ 17,700 บาท ล่าสุดราคาทองคำ COMEX ปรับสูงขึ้น 1.21% หลังค่าเงินดอลลาร์ฯ เริ่มอ่อนค่าลง รอรายงานการประชุม Fed 8 ต.ค.นี้
Oil Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Short สัญญา BRV14 โดยมีเป้าหมายการปรับลดลงระยะสั้นที่ 2,980 และเป้าหมายถัดไปที่ 2,800-2,850 ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 3,040
Thai Strategy Team
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล