- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 07 October 2014 17:49
- Hits: 1620
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ' กองทุนเดือด'
SET ปิดปรับตัวลดลงรุนแรงมากกว่าตลาดรอบบ้าน จากแรงขายลดความเสี่ยงของกองทุนในประเทศ และแรงกดดันจากความกังวลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศที่ไม่ได้ตามเป้า โดย SET ปิดที่ 1,543.13 จุด (-27.15 จุด) vol 5.5 หมื่นล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) ปัญหาการเมืองในฮ่องกงเริ่มมีสัญญาณบวกมากขึ้น หลังแนวโน้มผู้ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมเริ่มมีมากขึ้น เนื่องจากวิตกผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
(+) World Bank ประเมินเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกยังอยู่ในระดับดี โดยจะเติบโต 6.9% ในปีนี้และปีหน้า
(+) ราคาน้ำมันปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง
(+) Fund Flow ต่างชาติ มี Net Buy อีกครั้งเกือบ 2 ร้อยล้านบาท สวนทางการปรับตัวลดลงรุนแรงของดัชนี
(-) ความกังวลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจยุโรป หลังยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของเยอรมนีร่วงลงอย่างหนัก สะท้อนถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจ
(-) ความกังวลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศ หลัง World Bank ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยลงมาที่ 1.5% และ 3.5% ในปี 57 และ 58 ตามลำดับ ซึ่งถึงว่าต่ำกว่าหลายๆ ประเทศ ลดความน่าสนใจด้านการลงทุน โดยมีความหวังอยู่ที่การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐ ท่ามกลางปัญหาการส่งออกหลังความสามารถในการแข่งขันของประเทศลดลง
(+/-) ปัญหาการระบาดของไวรัสอีโบล่ายังน่าเป็นห่วง โดยมีการประเมินว่าฝรั่งเศสมีความเสี่ยงที่เชื้อไวรัสจะหลุดรอดเข้าสู่ประเทศ อยู่ที่ร้อยละ 75 ขณะที่อังกฤษมีโอกาสเสี่ยงที่ร้อยละ 50
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
* การประชุมครม.วันนี้ ประเด็นการยกเลิกกฎอัยการศึก ประเมินมีความเป็นไปได้น้อย
* ปัญหาการเมืองในฮ่องกง
* การรายงาน World Economics Outlook ของ IMF
* รายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 16-17 ก.ย. ซึ่งจะเปิดเผยในเช้าวันพฤหัสบดี
กลยุทธ์การลงทุน “คิดมากไปอะปล่าว”
วันนี้เราคาดว่าตลาดมีแนวโน้ม Rebound ขึ้น หลังการปรับตัวลดลงรุนแรงวันก่อนหน้า เปิดโอกาสแรงซื้อกลับในดัชนี แม้ว่าความกังวลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศยังคงกดดันอยู่ เราประเมินหากดัชนีมีแรงซื้อกลับในวันนี้ หุ้นที่จะได้รับผลดีจะเป็นหุ้นในกลุ่มธนาคาร และ ICT รวมไปถึงหุ้น Defensive บางตัวที่ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงก่อนหน้าจน Oversold
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
CPALL ราคาปิด 43.25 บาท
* คาดกำไรปี 2557 ที่ 1.1 หมื่นลบ. (+17%YoY) จากการขยายสาขาอีก 600 สาขาเป็น 9,000 สาขา และเป็น 10,000 สาขาในปี 2561 เน้นขยายร้านในพื้นที่ต่างจังหวัดเป็นสัดส่วน 60% และเพิ่มศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่
* คาด Q357 ต้นทุนการเงินจะปรับตัวลงจากการ refinance หนี้
BBL ราคาปิด 197.50 บาท
* คาดกำไรปี 57 ที่ 3.7 หมื่นลบ. (+3% YoY ) จากสินเชื่อที่เติบโตขึ้น 5% YoY โดยเน้นสินเชื่อ SME และ Corporate และสินเชื่อต่างประเทศ รวมถึงค่าใช้จ่ายการดำเนินงานลดลง
* พอร์ทสินเชื่อส่วนใหญ่เป็น Corporate จึงมีความเสี่ยงด้าน NPL ต่ำ
* P/E + P/BV ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม
ฝ่ายวิเคราะห์ฯ
