- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 14 November 2019 20:34
- Hits: 298
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------------
Market Outlook
• วันนี้คาดดัชนี SET Index แกว่ง Sideway down ในกรอบ 1,605-1,620 จุด มอง นลท.ยังติดตามประเด็นข้อตกลงการค้าเฟส1 สหรัฐฯ-จีน ต่อ ขณะที่ถ้อยแถลงของประธาน FED เมื่อคืนนี้คาดตลาดรับรู้ไปแล้วถึงสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมสหรัฐฯ และมุมมองต่อระดับอัตรา ดบ.นโยบายในปัจจุบัน อย่างไรก็ดี การประกาศผลประกอบการของบริษัทฯ ไทยช่วง 3Q62 จะเป็นปัจจัยกดดันตลาดหลัง Consensus ปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิต่อหุ้นปี 62 ลงต่อเนื่อง
• Market Factor
• (0) แถลงการณ์ประธาน Fed นายเจอโรม พาวเวล ต่อสภาคองเกรสมีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยในปีนี้จากภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีการขยายตัวปานปลาง สอดคล้องกับมุมมองตลาดที่คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยจาก CME Fedwatch มีความน่าจะเป็นในการคงอัตราดอกเบี้ย 96.3% ในปีนี้
• ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPSปี 62 ที่ 115.13 บ. ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 94.51 บ. หรือลดลง 17.91%YTD
• Update Flow เมื่อวานนี้ ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 557.95 ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD.ต่างชาติพลิกกลับเป็นซื้อสุทธิ 96.7 ลบ. ขณะที่ นลท.สถาบันซื้อสุทธิ MTD.ลดเหลือ 5,832.62 ลบ.
Investment Strategy
• สัปดาห์นี้เรามอง SET Index ผันผวนในกรอบ 1,605-1,640 จุด โดยตลาดจะมุ่งโฟกัสไปที่การประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนช่วง 3Q62 ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังคงรอความชัดเจนจาก Trade war ที่มีความคืบหน้ารายวัน อย่างไรก็ดี สัปดาห์นี้เราเลือก Selective Buy หุ้นที่ผลประกอบการดี รวมถึงเรายังคงแนะนำหุ้น 4 กลุ่มเดิมที่สามารถทยอยซื้อลงทุนได้ในระยะ 3-6 เดือน ดังนี้
• หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้น ศก.ของรัฐฯ ทั้งมาตรการท่องเที่ยว, ชิมช้อปใช้และงานประมูลภาครัฐฯ: แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ BJC (ช่วง 2H62 คาดเห็นการฟื้นตัว HoH จากการขยายสาขา BigC มากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขาและสาขาที่กัมพูชา 1 สาขา BigC Food Place 1 สาขาและ Mini BigC ราว 200 สาขา), SEAFCO (แม้ช่วง 2H62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พัน ลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่น ลบ.), ERW (ช่วง 3Q62 กำไรโตเล็กน้อย 3%YoY หลังรายได้จากโรงแรมเพิ่มขึ้น 5%YoY เรามองช่วงปลายปียังมีโอกาส ฟื้นตัวจากการกลับมาเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม.และมีสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง), CPALL (ช่วง 3Q62 กำไรโต 8.3%YoY จากยอดขายที่เพิ่มจาก 7-11 กว่า 11,640 สาขา (ก.ย.62) และ MAKRO โดยบริษัทยังคงเป้าขยายสาขาต่อเนื่องให้ถึง 13,000 สาขาในปี 64 , MINT (ช่วง 3Q62 กำไรโต 347%YoY ด้วยกำไรพิเศษจากการขายโรงแรมที่โปรตุเกส บวกกับ ช่วง 4Q62 เรามองผลประกอบการยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง ด้วยธุรกิจโรงแรมและอาหารหลังตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องจากฐานปีก่อนที่ลดลง)
• กลุ่ม Defensive Stock: เราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (ช่วง 2H62 คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มโตต่อ หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯ ที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถมินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.
• กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoY และช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำ SAWAD (คาดกำไรปี 62 โต 30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20-30% และอีก 300 สาขา, Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลัง Tender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (ช่วง 3Q62 ทำ All time high ทั้งรายได้และกำไร คาดปี 62 เห็นการ Turnaround ของกำไรหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นจากการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่)
• หุ้นกลุ่ม ร.พ.ขนาดกลางที่คาดกำไรช่วง 2H62โต เข้าสู่ High Season: PR9 (มองทั้งปี 62 โตต่อ หลังกำไร 9M62 โต 10.9%YoY) บ.ยังมีศักยภาพในการเติบโตหลังแนวโน้มการทำกำไรเร่งตัวขึ้นสะท้อนผ่าน EBITDA Margin ช่วง 9M62 ปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ 17.7% (จาก 17.2% ช่วง9M61) สวนทางกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมที่มีความสามารถในการทำกำไรชะลอตัวลง ขณะที่ บ.มีแผนการเติบโตที่สดใส เนื่องจาก บ.ถือเป็น Cash Company มีเงินสดต่อหุ้นมากกว่า 2 บ.เตรียมเปิดตึกใหม่ต้นปี 63 เพื่อรองรับลูกค้าได้เพิ่มกว่าเท่าตัวหลังเกิด Over demand ในกลุ่มลูกค้า ICU-CCU (คิดเป็นกว่า 30% ของรายได้) และศูนย์บริการที่ถือเป็นไฮไลท์ใหม่อย่าง Pain Management and Wellness Center ขยายฐานลูกค้าต่างชาติครอบคลุมทั้งจีนและกลุ่มอาเซียน รวมถึงกลุ่มลูกค้าประกันองค์กรและผู้ประกันตนด้วย คาดหนุน บ.มีโอกาสคุ้มทุนได้เร็วกว่าที่ตลาดคาด นอกจากนี้ Consensus ให้ Valuation ที่ถูกสุดเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม ทั้งในแง่ Forward PE เพียง 23.17X ,P/BV 1.78X และEV/EBITDA 10.23X (อุตสาหกรรมอยู่ที่ PE 31.40X,P/BV 4.49X และEV/EBITDA 20.32X)
13-Nov-19 Change (pts.) 12-Nov-19
SET Index 1,615.14 -11.06 1,626.20
SET50 Index 1,088.37 -7.31 1,095.68
SET100 Index 2,386.49 -18.08 2,404.57
High 1,627.45 Gainers 451
Low 1,610.93 Unchanged 388
Value (Bt m) 52,455.95 Losers 1,215
Volume (*000) 20,310,117
Market Valuation
SET Data 2019F 2020F Long Term
Fwd PER (x) 17.1 15.4 15.4
EPS Growth (%) 13.9 9.3 -6.1
EV/EBITDA (x) 0.0 0.0 0.0
FWD PBV (x) 1.8 1.7 1.6
Dividend Yield (%) 2.9 3.2 3.5
ROE 10.0 10.4 10.5
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 13-Nov-19 WTD MTD YTD
Institution (1,712.03) (6,941.89) 5,832.63 30,497.15
Proprietary (227.86) 928.35 1,770.19 12,226.05
Foreign 557.95 3,479.80 96.70 (12,977.45)
Individual 1,381.93 2,533.75 (7,699.52) (29,745.75)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary