- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 05 November 2019 16:39
- Hits: 1551
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
• วันนี้คาดดัชนี SET รีบาวด์ต่อ หากปิดยืนเหนือแนวต้านเส้นกด 1,625 จุดได้ Upside ด้านบนเปิดกว้างขึ้นแนวต้านถัดไป 1,645 จุด โดยตลาดได้ Sentiment บวกจาก ตปท.ประเด็น Trade War ที่ใกล้บรรลุข้อตกลงเฟส 1 และภาพการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดียังต้องติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการบริษัทฯ จดทะเบียนไทยช่วงสัปดาห์นี้-สัปดาห์หน้า หลัง Consensus ปรับลดคาดการณ์กำไรทั้งปีลง
• Market Factor
• (+) เจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนมีความคืบหน้าหลังรัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ นายวิลเบอร์ รอสส์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียนที่จัดขึ้นในกรุงเทพฯว่าสหรัฐฯ จะบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีนในเดือนนี้
• (-) สหรัฐฯ ประกาศตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าภาคโรงงานเดือน ก.ย. ลดลง 0.6% มากกว่าที่ตลาดคาดที่ระดับลดลง 0.5%
• (watch) ติดตามการประขุม กนง.(6 พ.ย.) ในการกำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายโดย นักเศรษฐศาสตร์ 12 คน ใน Bloomberg Consensus คาดลดอัตราดอกเบี้ยลง 25bps มาที่ 1.25%
• ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPSปี 62 ที่ 115.13 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 96.3 บาท หรือลดลง 16.36%YTD
• Update Flow เมื่อวานนี้ต่างชาติคงขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 345.59 ลบ.ส่งผลภาพรวม QTD.ต่างชาติขายสุทธิ 9,196.18 ลบ.ขณะที่กองทุนซื้อสุทธิ QTD. 6,201.68 ลบ.
Investment Strategy
• สัปดาห์นี้เรามอง SET Index ยังคง Sideway ในกรอบ 1,590-1,650 จุด โดยแม้ตลาดหุ้นจะปรับขึ้นมาจากการซื้อของนักลงทุนสถาบัน บวกกับประเด็นหนุนจากแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของ กนง. (ประชุม 6 พ.ย.) และสัญญาณ Tade war สหรัฐ-จีนี่ดีขึ้น แต่เราประเมิน Upside จำกัด คาดไม่เกิน 1,650 จุด หลังภาพรวมตลาดยังมีปัจจัยเสี่ยงจากการปรับพอร์ต MSCI ที่คาดเพิ่มการลงทุนในจีน คาดส่งผลต่อ Fund Flow ในประเทศให้ไหลออก บวกกับการประกาศงบช่วง 3Q62 ซึ่งอาจส่งผลให้มีการปรับประมาณการ EPS ในปีนี้ลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี เราแนะนำนักลงทุน เริ่มทยอยลงทุนในหุ้น 5 กลุ่ม ดังนี้
• หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้น ศก.ของรัฐฯทั้งมาตรการท่องเที่ยว, ชิมช้อปใช้และงานประมูลภาครัฐฯ: แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ BJC (ช่วง 2H62 คาดเห็นการฟื้นตัว HoH จากการขยายสาขา BigC มากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขาและสาขาที่กัมพูชา 1 สาขา BigC Food Place 1 สาขาและ Mini BigC ราว 200 สาขา), SEAFCO (แม้ช่วง 2H62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พัน ลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่น ลบ.), ERW (ช่วง 2H62 หลังคาดฟื้นตัวจากปัจจัยฤดูกาล บวกกับการกลับมาเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม.และมีสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดือน ส.ค.โต 15.6%YoY), CPALL (ช่วง 3Q62 แม้เข้าสู่ Low Season แต่ด้วยการจัดโปรโมชั่น แสตมป์จัดหนักกระตุ้นยอดขาย และการได้ประโยชน์จากฐานที่ต่ำของปีก่อนจะหนุน SSSG เติบโตต่อเนื่อง พร้อมยังคงเป้าขยายสาขาร้านสะดวกซื้อปีนี้ที่ 700 สาขา)
• กลุ่ม Defensive Stock: เราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (ช่วง 2H62 คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มโตต่อ หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯ ที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถมินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.
• กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoYและช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำSAWAD (คาดกำไรปี62 โต 30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20-30% และอีก 300 สาขา, Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลัง Tender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (คาดปี 62 เห็นการ Turnaround ของกำไรหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นจากการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่), ARROW (ช่วง 2H62 คาดกำไรฟื้นตัวหลังมาร์จิ้นเหล็กดีขึ้นตามต้นทุนเหล็กที่ลดลงและราคาขายที่ดี คาดหนุนกำไรทั้งปีโต 10.3%YoY บวกกับมี Backlog 1.1 พัน ลบ. และมีโอกาสได้งานใหม่ๆ เพิ่ม)
• หุ้นกลุ่มร.พ.ขนาดกลางที่คาดกำไรช่วง3Q62โต เข้าสู่ High Season: BCH (ช่วง3Q62 คาดกำไรโตทั้ง QoQ, YoY หนุนด้วยการเข้าสู่ช่วง High Season บวกกับการบันทึกรายได้ส่วนเพิ่มของภาระเสี่ยงขณะที่ผู้ป่วยตะวันออกกลางคาดกลับมาฟื้นตัวหลังมีการเพิ่มชม.การทำงานของแพทย์ด้านเบาหวาน, CHG (ช่วง 2H62 คาดกำไรโต YoY หนุนด้วยสัญญาณฟื้นตัวจาก รพ.ที่เพิ่งเปิดใหม่ทั้ง รพ.จุฬารัตน์ 304 อินเตอร์ และ รพ.รวมแพทย์ฉะเชิงเทรา บวกกับอาจมีการขอเพิ่มสัดส่วนโควต้าประกันสังคมหลังมีผู้ประกันตนราว 432,640 คน (จากโควต้า 440,000 คน),PR9 (ช่วง 2H62 คาดกำไรโต YoY ราคาที่ปรับลงกว่า 27% จากราคา IPO ที่ 11.60 บ. สวนทางกับภาพแนวโน้มการเติบโตที่สดใสของธุรกิจหนุนด้วยจำนวนผู้ป่วยโรคซับซ้อนที่ยังคงเพิ่มขึ้น บวกกับ รพ.มีแผนขยายจำนวนเตียงเพิ่มผ่านอาคารใหม่ การเปิดศูนย์ Wellness ศูนย์ให้คำปรึกษาผู้มีบุตรยากจับตลาดลูกค้าจีนที่แนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง สอดรับกับทำเลที่มีศักษภาพในการแข่งขันของรพ.ที่ตั้งยู่ย่าน New CBD
• หุ้นที่คาดกำไรช่วง 3Q62 โต YoY, QoQ และทั้งปี 62 ยังโตเด่น: SSP, BPP, JWD, SABINA, S11, AMATA, PLANB, PRM, MINT, RJH
4-Nov-19 Change (pts.) 1-Nov-19
SET Index 1,622.25 29.73 1,592.52
SET50 Index 1,092.58 23.87 1,068.71
SET100 Index 2,396.76 52.33 2,344.43
High 1,624.83 Gainers 1,180
Low 1,600.95 Unchanged 356
Value (Bt m) 64,499.36 Losers 528
Volume (*000) 25,623,684
Market Valuation
SET Data 2019F 2020F Long Term
Fwd PER (x) 16.8 15.2 15.2
EPS Growth (%) 13.9 9.3 -5.0
EV/EBITDA (x) 0.0 0.0 0.0
FWD PBV (x) 1.8 1.7 1.6
Dividend Yield (%) 3.0 3.3 3.6
ROE 10.2 10.5 10.6
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 4-Nov-19 WTD MTD YTD
Institution 4,636.73 4,636.73 5,792.22 30,456.74
Proprietary 169.05 169.05 232.05 10,687.91
Foreign (345.59) (345.59) (1,350.90) (14,425.06)
Individual (4,460.19) (4,460.19) (4,673.36) (26,719.59)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary