กระทรวงพาณิชย์รายงานอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ต.ค. ชะลอลงอย่างมาก มาอยู่ที่ +0.11% YoY (vs. +0.32% ในเดือนก่อนหน้า และต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ +3.0%) ซึ่งนับเป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 28 เดือน โดยมีสาเหตุหลักจากราคาพลังงานที่ลดลงต่อเนื่อง (-7.5% vs. -6.4% ในเดือน ก.ย.) หักล้างกับราคาอาหารสดที่ขยายตัว +4.6% (vs. +5.1% ในเดือน ก.ย.) ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (เงินเฟ้อไม่รวมราคาอาหารสดและพลังงาน) ทรงตัวที่ระดับ +0.44% เท่ากับเดือนก่อนหน้า นับตั้งแต้ต้นปี อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ +0.74% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้น +0.53%

เราคาดว่า กนง. จะเก็บขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายไว้เพื่อรองรับความเสี่ยงในอนาคต

          แรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อ่อนแอ ล่าสุดรายงานเศรษฐกิจเดือน ก.ย. ของ ธปท.บ่งชี้ถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เปราะบาง การจ้างงานและรายได้ที่อ่อนแอ ประกอบกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่แผ่วลงต่อเนื่อง เราคาดว่าอัตราเงินเฟ้อในช่วง 2 เดือนที่เหลือจะอยู่ในระดับต่ำ แม้ว่าฐานที่ต่ำจะหนุนให้อัตราการเติบโตที่เร่งขึ้น (+0.94% และ +0.36% ในเดือน พ.ย.-ธ.ค. 2018 vs. +1.15% ใน 10M18) สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั้งปี 2019F เรามองว่าอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำกว่า -1% ยังเป็นมุมมองกรณีฐานของเรา อย่างไรก็ดี เงินเฟ้อทั้งปีมีโอกาสต่ำกว่าที่เราคาดไว้ที่ +0.9%

          สำหรับมุมมองด้านอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เรามองว่าเศรษฐกิจที่เปราะบางจะกดดันให้ กนง. ยังดำเนินมาตรการการเงินแบบผ่อนคลายเช่นเดียวกันกับธนาคารกลางอื่นๆ อย่างไรก็ดี เราคาดว่า กนง. จะเก็บขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงินไว้ เพื่อรองรับความเสี่ยงในอนาคต (อัตราดอกเบี้ยนโยบายในปัจจุบันสูงกว่าในช่วงวิกฤตการเงินปี 2009 เพียง 25 bps) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2020 เศรษฐกิจโลกยังมีความเสี่ยงที่จะถดถอยภายใต้สถานกาณณ์สงครามการค้าที่ยืดเยื้อ อย่างไรก็ดี หากความเสี่ยงด้านต่ำเพิ่มขึ้นใน 4Q19 (อาทิ สงครามการค้ารุนแรงขึ้น) เรามองว่ามีความเป็นไปได้ที่ กนง. จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 25 bps ก่อนสิ้นปี ทั้งนี้ ในการประชุม กนง. ในวันที่ 6 พ.ย. มีนักเศรษฐศาสตร์ 7 ท่าน (รวมทั้ง TISCO ESU) จากทั้งหมด 14 ท่าน ที่คาดว่า กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย  

    Market Insight

    E- mail :[email protected]