- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 01 November 2019 15:21
- Hits: 1373
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
• วันนี้คาดดัชนี SET คงแกว่ง Sideway ในกรอบ 1,590-1,610 จุด แม้มีรายงานตัวเลขส่งออกจาก ธปท.ที่หดตัวสะท้อนภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวต่อเนื่อง แต่คาดตลาดรับรู้ไปบ้างแล้วจากการปรับประมาณการก่อนหน้า เราให้น้ำหนักติดตามการทยอยประกาศงบของบริษัทฯ ในช่วงสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป และประเด็นกำหนดการลงนามข้อตกลง Trade war เฟสแรก
• Market Factor
• (watch) จับตาความคืบหน้าเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน หลังเจ้าหน้าที่จีนไม่มั่นใจในการทำข้อตกลงการค้าระยะยาวกับทางสหรัฐฯ อย่างไรก็ดีประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศจะกำหนดสถานที่ลงนามการค้าใหม่เร็วๆ นี้ หลังชิลียกเลิกการประชุม APEC วันที่ 16-17 พ.ย. 62 จากกลุ่มผู้ประท้วงในชิลี
• (-) ธปท.เผยเศรษฐกิจไทยยังชะลอตัว สะท้อนจากตัวเลขการส่งออกสินค้าหดตัวต่อเนื่อง จาก 9 เดือน ติดลบ 2.7% จากเป้าหมายที่ ธปท.คาดไว้ติดลบ 1% ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมและเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนยังหดตัวเช่นกัน โดยเฉพาะการลงทุนเครื่องจักรและอุปกรณ์ รวมถึงก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลง ส่งผลให้ GDP 3Q62 เสี่ยงไม่ถึง 2.9% (เดลินิวส์)
• (+) ธกส.อัดเงินเข้าระบบกว่า 8 หมื่นล้านบาท ตามโครงการประกันรายได้สินค้าเกษตร ทั้งข้าว ปาล์ม ยางพารา พร้อมเตรียมเงินอีก 4 แสนล้านบาทปล่อยสินเชื่อ หวังกระตุ้นภาคเศรษฐกิจ ให้มีเงินหมุนเวียนกว่า 1.2 ล้านล้านบาท (ข่าวสด)
• (0) วันนี้ติดตามการประกาศตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) และ CPI ประจำเดือน ต.ค.
• ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 115.13 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 96.38 บาท หรือลดลง 16.29%YTD
• Update Flow เมื่อวานที่ผ่านมาต่างชาติกลับมาขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 3,867.12 ลบ.ส่งผลภาพรวมเดือน ต.ค.ต่างชาติขายสุทธิ 7,845.28 ลบ.
Investment Strategy
• วันนี้ถึงสัปดาห์หน้าเรามอง SET Index จะ Sideway ในกรอบ 1,590-1,615 จุดตามเดิม โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตามทั้งการประกาศตัวเลขทั้งในไทยและต่างประเทศ รวมถึงเข้าสู่ช่วงประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน อย่างไรก็ดี เราแนะนำนักลงทุน เริ่มทยอยลงทุนในหุ้น 5 กลุ่ม ดังนี้
• หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้น ศก.ของรัฐฯทั้งมาตรการท่องเที่ยว, ชิมช้อปใช้และงานประมูลภาครัฐฯ: แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ BJC (ช่วง 2H62 คาดเห็นการฟื้นตัว HoH จากการขยายสาขา BigC มากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขาและสาขาที่กัมพูชา 1 สาขา BigC Food Place 1 สาขา และ Mini BigC ราว 200 สาขา), SEAFCO (แม้ช่วง 2H62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พันลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่น ลบ.), ERW (ช่วง 2H62 หลังคาดฟื้นตัวจากปัจจัยฤดูกาล บวกกับการกลับมาเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม.และมีสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดือน ส.ค. โต 15.6%YoY), CPALL (ช่วง 3Q62 แม้เข้าสู่ Low Season แต่ด้วยการจัดโปรโมชั่น แสตมป์จัดหนักกระตุ้นยอดขาย และการได้ประโยชน์จากฐานที่ต่ำของปีก่อนจะหนุน SSSG เติบโตต่อเนื่อง พร้อมยังคงเป้าขยายสาขาร้านสะดวกซื้อปีนี้ที่ 700 สาขา)
• กลุ่ม Defensive Stock: เราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (ช่วง 2H62 คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มโตต่อ หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถมินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.
• กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoY และช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำ SAWAD (คาดกำไรปี 62 โต 30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20-30% และอีก 300 สาขา, Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้นBFIT หลัง Tender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (คาดปี 62 เห็นการ Turnaround ของกำไรหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นจากการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่), ARROW (ช่วง 2H62 คาดกำไรฟื้นตัวหลังมาร์จิ้นเหล็กดีขึ้นตามต้นทุนเหล็กที่ลดลงและราคาขายที่ดี คาดหนุนกำไรทั้งปีโต 10.3%YoY บวกกับมี Backlog 1.1 พัน ลบ. และมีโอกาสได้งานใหม่ๆ เพิ่ม)
• หุ้นกลุ่ม ร.พ.ขนาดกลางที่คาดกำไรช่วง 3Q62 โตเด่น เข้าสู่ High Season: BCH (ช่วง 3Q62 คาดกำไรโตทั้ง QoQ, YoY หนุนด้วยการเข้าสู่ช่วง High Season บวกกับการบันทึกรายได้ส่วนเพิ่มของภาระเสี่ยงขณะที่ผู้ป่วยตะวันออกกลางคาดกลับมาฟื้นตัวหลังมีการเพิ่มชม.การทำงานของแพทย์ด้านเบาหวาน, CHG (ช่วง 2H62 คาดกำไรโต YoY หนุนด้วยสัญญาณฟื้นตัวจาก รพ.ที่เพิ่งเปิดใหม่ทั้ง รพ.จุฬารัตน์ 304 อินเตอร์ และ รพ.รวมแพทย์ฉะเชิงเทรา บวกกับอาจมีการขอเพิ่มสัดส่วนโควต้าประกันสังคมหลังมีผู้ประกันตนราว 432,640 คน (จากโควต้า 440,000 คน)
• หุ้นที่คาดกำไรช่วง 3Q62 โต YoY, QoQ และทั้งปี 62 ยังโตเด่น: SSP, BPP, JWD, SABINA, S11, AMATA, PLANB, PRM
31-Oct-19 Change (pts.) 30-Oct-19
SET Index 1,601.49 -0.34 1,601.83
SET50 Index 1,073.26 -2.65 1,075.91
SET100 Index 2,357.61 -3.62 2,361.23
High 1,610.03 Gainers 810
Low 1,600.23 Unchanged 466
Value (Bt m) 64,461.34 Losers 749
Volume (*000) 22,215,924
Market Valuation
SET Data 2019F 2020F Long Term
Fwd PER (x) 16.6 15.0 15.0
EPS Growth (%) 13.9 9.3 -4.7
EV/EBITDA (x) 0.0 0.0 0.0
FWD PBV (x) 1.8 1.7 1.6
Dividend Yield (%) 3.1 3.4 3.7
ROE 10.3 10.6 10.6
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 31-Oct-19 WTD MTD YTD
Institution 5,019.92 8,859.99 409.47 24,664.52
Proprietary (960.91) (1,667.46) (3,040.31) 10,455.86
Foreign (3,867.12) (5,520.22) (7,845.31) (13,074.15)
Individual (191.88) (1,672.30) 10,476.15 (22,046.24)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary