บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 31-10-19

Details: Category: บทวิเคราะห์; Published: Thursday, 31 October 2019 22:21; Hits: 2595

บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

รอบด้านตลาดหุ้น

ภาพตลาดและแนวโน้ม

Market wrap & Outlook

เมื่อวานดัชนีฯรีบาวด์ แต่ยังอยู่ในแนวโน้ม Down-trend : โดยเมื่อวานเกิดภาพ "Sector Rotation"... ราคาหุ้นที่ลงแรงก่อนหน้าถูกไล่ซื้อ (ซื้อคืน) จากกองทุนในประเทศ ซื้อสุทธิ 1.85 พันลบ. (ต่างชาติซื้อแค่ 470 ลบ. ไม่ค่อยมีนัยยะตลอดช่วงที่ผ่านมา) เช่น BBL KBANK SCB โรงกลั่น, TOP PTTGC IVL PTTEP แต่ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดของหุ้นที่ขึ้นแรงก่อนหน้า พลิกลงแรง เช่น OSP, CBG, โรงไฟฟา, EA ฯลฯ

วันนี้ คาดดัชนีฯรีบาวด์ต่อ : ทดสอบแนวต้าน Downtrend บริเวณ 1610 จุด คาดยังคงเห็นแรงซื้อและขาย ลักษณะ Rotation แบบเมื่อวาน "ซื้อกลุ่มที่ลงแรง และขายหุ้นที่ แรลรี่แรง ในรอบ 10-15 วันทำการที่ผ่านมา" ก่อนที่ตลาดจะพักตัวลงอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ และ นลท.จะหันมาเล่นหุ้นกลางเล็ก มากขึ้น คาด จะเริ่มเห็นแรงซื้อ เข้ามาตั้งแต่ช่วงบ่ายวันนี้-พรุ่งนี้ ในกลุ่ม หุ้นกลาง เล็ก เน้นหุ้นพลังงานทดแทน ตลอดจนบูลชิพ อย่างกลุ่มมือถือ ที่มีประเด็นหนุนเป็นรายตัว

What to watch

(+) การประชุม เฟด เมื่อวาน ลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% เหลือ 1.5-1.75% พร้อมทั้งส่งสัญญาณจะไม่ลงดอกเบี้ยลงอีก ในการประชุมที่เหลือของปีนี้ (ซึ่งไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ) และประชุม กนง. 6 พย.คาด ลดดอกเบี้ยลง 0.25% เหลือ 1.25%

หุ้นแนะนำวันนี้

DTAC, ADVANC, TRUE เก็งประเด็น ใบอนุญาต 5G ไม่แพงอย่างที่คิด

KKP แนะนำ Follow Buy คาดการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นจะอยู่ในกรอบ 65-69 บ.

ราคาหุ้นลงแรงเกินไปในช่วงที่ผ่านมา มีโอกาสเล่นรีบาวด์ได้ดีกว่าตลาด บวกกกับ Catalyst เรื่องการลดดอกเบี้ยของ กนง.ในวันที่ 6 พย. เชื่อว่าจะหนุนแนวโน้มราคาหุ้น และที่สำคัญ การเข้าตลาดของ BAM จะกระตุ้นในเกิดการเร่งซื้อพอร์ต หนี้เสีย และ NPA ไปบริหาร หนุนกำไรจากการขาย NPA ของ KKP

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336

นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค

ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

รายงานวันนี้

KKP ปันผลสูง มูลค่าไม่แพง

ธนาคารตั้งเปาหมายสินเชื่อโต 8% ในกลุ่ม SME สินเชื่อบุคคล และสินเชื่อพอร์ตโฟลิโอรายใหญ่ ซึ่งทั้ง 3ประเภทนี้ให้ผลตอยแทนที่สูงกว่าสินเชื่อเช่าซื้อ ซึ่งจะหนุนให้ NIM ดีกว่าคาด นอกจากนี้เราคาด KKP จะมีกำไรจากการขาย non-performing assets (NPAs) ที่ 450 ล้านบาท (9 เดือนทำไปแล้ว 416 ล้านบาท) เรามองว่าการขาย NPA จะเป็นอีก 1 อัพไซด์ต่อประมาณการ

มุมมองกลยุทธ์ Action (ระยะสั้น 5-10 วันทำการ): แนะนำ Follow Buy คาดการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นจะอยู่ในกรอบ 65-69 บ.

Fundamental: เราคงคำแนะนำ ซื้อ KKP เพราะ valuation ที่ไม่แพงโดย PBv อยู่ที่ 1.18 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว 1.3 เท่าสินเชื่อเติบโตดีที่ 5% คุณภาพสินทรัพย์ที่ดีและมีการขยายตัวของรายได้ค่าธรรมเนียม 6.5% (สินเชื่อ - และตลาดทุน - การเจริญเติบโตที่เกี่ยวข้อง)และคาดเงินปันผลที่ 7.6-8.0% ในปี 2019-20 ตามลำดับ

กลุ่มสื่อ Feedback จากงาน BLS Media Day และคาดการณ์กำไรใน 3Q19

Feedback จากงาน BLS Media Day ชี้ว่าภาพเม็ดเงินโฆษณาน่าจะอยู่ในระดับทรงตัวทั้งในปีนี้และใน 1-3 ปีข้างหน้าโดยสื่อที่คาดจะเติบโตดีคือสื่อออนไลน์ สื่อนอกบ้านและสื่อโรงหนัง ในขณะที่สื่อทีวีคาด 7 ช่องที่มีเรตติ้งสูงสุดยังคงเติบโตได้ดี สำหรับกำไรใน 3Q19 เราคาด PLANB จะเติบโตได้ดีที่สุดทั้ง YoY และ QoQ ในขณะที่คาด VGI MAJOR และ RS จะรายงานกำไรเติบโต YoY แต่ชะลอตัว/ทรงตัว QoQ

มุมมองกลยุทธ์ Action (ระยะสั้น 5-10 วันทำการ): ซื้อ PLANB กรอบราคาคาด 8.5-9 บ. ปัจจัยหนุนหลักๆ คือ แรงซื้อเพื่อดักงบ 3Q19 รอบนี้ เรา Sense ได้ถึง กำไรรอบนี้จะดีกว่าคาด และ หนุนราคาหุ้น ที่แกว่ง Sideway รอข่าวนี้มาสักพัก...

Fundamental: สำหรับกลุ่มสื่อทีวีน่าจะเห็นกำไรที่ฟื้นตัว QoQ แต่ยังคงถูกดดัน YoY โดยรวมเรายังชอบ PLANB, VGI และ RS ที่สุดในกลุ่ม

CK Tactical View: คาดกำไรอ่อนแอ

เราคาดจะเห็นตลาดปรับประมาณการกำไรลงจากกำไร 3Q19 ที่จะรายงานอ่อนแอ และโครงการใหม่ที่เข้ามาช้ากว่าคาด ซึ่ง Backlog ปลาย 3Q19 น่าจะเหลือราว 3.3 หมื่นล้านบาท และจะยังไม่มีโครงการขนาดใหญ่เข้ามาเพิ่มจนกว่าจะเห็นการสรุปโครงการรถไฟความเร็วสูง 3 สนามบิน ถึงแม้จะเป็นโครงการใหญ่ที่เพิ่ม Backlog ของบริษัทได้อย่างมีนัยสำคัญ แต่จากความล่าช้าที่เกิดขึ้น เรามองว่าในปี 2020 การรับรู้รายได้จะยังมีไม่มากนัก คาดจะเห็นเพียงส่วนของการเตรียมงาน และงานรากฐานเท่านั้น

มุมมองกลยุทธ์ ACTION (ระยะสั้น 5-10 วันทำการ): ขาย CK คาดราคาหุ้น CK คาดมีโอกาสถูก De-rate valuation ลงได้อีก แม้ว่าปัจจุบันจะไม่แพงแล้วก็ตาม เพราะแนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังที่น่าจะออกมาต่ำกว่าตลาดคาด และคาดจะเห็นตลาดปรับกำไรลงอีกราว 20% ประกอบกับโครงการประมูลที่คาดจะเงียบไปจนถึงปีหน้า

หุ้นมีข่าว

*/+ นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวลือสหกรณ์แท็กซี่ล้มดีลจองรถไฟฟา ว่าโครงการดังกล่าวที่ บริษัท ไมน์ โมบิลิตี คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MMC บริษัทย่อยที่ EA ถือหุ้น 99.99% ประกอบ ผลิต และจัดจำหน่ายยานยนต์ไฟฟาภายใต้แบรนด์ MINE Mobility ลงนามบันทึกความเข้าใจกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนสุวรรณภูมิพัฒนา จำกัด (ที่มา ข่าวสด)

ECON

- โผล่อีกตุ๋นลงทุน "ฟอร์เร็กซ์ 3 ดี" หลอกให้ผลตอบแทนสูง ผู้เสียหายกว่า 3 หมื่นราย มูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านบาท หลัง "รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์" นำทีมตัวแทนดักยื่นหนังสือจี้ "รมว.ยุติธรรม" รับเป็นคดี ขณะ แชร์แม่มณี "สมศักดิ์ เทพสุทิน" โดดคุมเอง ชี้ยอดทะลุ 2 พันราย เสียหายกว่า 5 ร้อยล้าน ลั่นไม่มีเยียวยา ขู่ซ้ำ หลงเชื่อแม่ข่าย ไม่เข้าแจ้งความ อาจอดส่วนแบ่งจากทรัพย์สินที่ยึดคืน หลังนายกรัฐมนตรีสั่งฟันขบวนการฉ้อโกงอย่างเด็ดขาด แนะคนรุ่นใหม่ศึกษาบทเรียนแชร์น้ำมัน-แม่ชม้อยในอดีตเป็นแบบอย่าง ส่วน เชียงใหม่-กระบี่ ผู้เสียหายโผล่แจ้งความเพิ่มต่อเนื่อง (ที่มา เดลินิวส์)

ADVANC DTAC TRUE

+ รัฐเอื้อ 'ค่ายมือถือ' ประมู ล5จี ราคาเริ่มต้นแค่ 300 ล้าน '56 ไลเซ่นส์'-ดีเดย์เคาะ 16 ก.พ.ปีหน้า

เอไอเอสชงรายใหม่วางประกัน 100% สกัดปั่นราคา

ดีเดย์ประมูล 5จี 16 ก.พ.2563 กสทช.ปล่อยคลื่นเต็มที่ กดราคาต่ำจูงใจ "ฐากร" ลั่นขายออกแน่ 46 ใบอนุญาต เงินเข้ารัฐอย่างน้อย 43,470 ล้านบาท "เอกชน" กัดฟันเข้าร่วม ขอหลักเกณฑ์เอื้อธุรกิจ เสนอวางแบงก์การันตี 100% เท่าราคาใบอนุญาต หวั่นมือดีทิ้งคลื่นสร้างภาระเพิ่ม (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ)

PTG GGC และโรงไฟฟ้าชีวมวล

+ "กฟผ."เร่งรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) กว่า 1 แสนตัน เตรียมประกาศรายชื่อผู้ชนะการแข่งขันราคาวันที่ 5 พ.ย.นี้ พร้อมลงนามสัญญาซื้อขายวันที่ 20-26 พ.ย. จากนั้นทยอยส่งมอบเพื่อใช้ในโรงไฟฟากลาง ธ.ค.นี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)

Trend Forecasting

SET Index ปิด 1,601.83 (+0.67%) มูลค่าการซื้อขาย 6.6 หมื่นล้านบาท

แนวโนมระยะสั้นมอง

SET Index แนวรับ 1,595 แนวต้าน 1,610/ SET100 รับ 2,325 ต้าน 2,350 BSET100 รับ 10.15 ต้าน 10.25 / BMSCITH รับ 11.47 ต้าน 11.58

หัวข้อ: สแกนโครงสร้างตลาดบวกแรง....เปลี่ยนเป็นขาขึ้นหรือแครบวด์ระยะสั้น!!

กลยุทธ์เทคนิค:

ดัชนีบวกยังไม่ทะลุผ่านเส้นแนวต้านใหญ่ 1610 จุด RSI ยังไม่ผ่านเส้น signa line ทำให้โครงสร้างยังไม่เปลี่ยนแปลง เล่นขาลงหรือแค่รีบาวด์ระยะสั้น จุดเปลี่ยนก็ต้องทะลุต้านใหญต้องมาทั้งสัญญาณและวอลุ่ม แต่สงสัย...จะมีข่าวดีอะไรที่จะทำให้ตลาดขึ้นแรง คงต้องติดตามกันต่อไป. แต่รอบนี้ขอมองในภาพขาลงก่อน หากลงจะถึงไหน... ลงอีกนิดนึงหรือลงยาว ภาพหน้า 2 ขอประเมินจุดรับแรกจะอยู่ที่ 1550 จุดซึ่งดัชนีเคยทำ Low ไว้เมื่อต้นปี 2019 แต่หากดูจากโมเมนตัมลงแบบสุดๆ Worst case scenario จะอยู่ที่ 1450 ซึ่งดูน่ากลัวขนลุกเลยทีเดียว จะลงลึกแค่ไหน..อะไรเป็นสิ่งที่ต้องตามอ่านเพิ่มเติมและหาคำตอบในมุมมองทางเทคนิคด้านล่างได้เลยครับ... ...ขอทิ้งท้ายหุ้นแบงค์เมื่อวานเขียวยกแผงเกิดสัญญาณกลับแล้วหรือยัง?

มุมมองทางเทคนิค:

เงินปันผลของตลาด SET Dividend Yield ปัจจุบันอยู่ที่ 3.13% หากดัชนีปรับลงต่อ ปันผลที่สูงขึ้นอาจดึงดูดเม็ดเงินให้กลับมาได้ ต้องมีปันผลสูงแค่ไหน.... ลองดูปีนี้หาก yield ขึ้นสูง 3.17% ขึ้นไปน่าจะทำให้แรงขายกดตลาดลงเหลือน้อย อาจตอบได้ว่าแนวรับดัชนีขอมองไว้ที่บริเวณ 1550 จุด ส่วนหุ้นแบงค์เมื่อวานเขียวยกแผง พบว่าดัชนีรายสัปดาห์ถูกขายกดลงมาถึงโซน Oversold ขายมากเกินไป นอกจากนี้ยังเกิดสัญญาณบวกระยะสั้นจากการตัดเส้น signal line ขึ้น หุ้นแบงค์ใครจะเป็นผู้นำ ขอเฉลยในหน้าแนะนำหุ้นทางเทคนิคประจำวัน หน้า 2...ครับ

วิธีการเลือกหุ้น:

โครงสร้างตลาดเกิดความเสี่ยงเล่นขาลงแนะใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับภาวะตลาดในปัจจุบัน ได้แก่ EMA, Stochastic, MACD, , Price pattern

*Overbought&Divergence* Utility sector // *Oversold&Short-term bull* Bank sector

โมเดลพอร์ตทางเทคนิค:

สรุปผลตอบแทนการลงทุน Year to date +8.25% สูงกว่าตลาดที่ +1.75%

*Addition(หุ้นเพิ่ม): BBL, KKP

*Deletion(หุ้นออก): MTC, JMART (ล๊อคกำไร) หุ้นคงเหลือ: AOT, DTAC, MAJOR, TQM, TACC, JAS, BCH, BEM, BDMS

Track with Technical: " Buy Signal"

BBL

แนวโน้ม เด่นสุดในกลุ่ม

รับ 174.00

ต้าน 180.00/195.00