WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSSบล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Selective Buy//Defensive and Dividend Play
          ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวขึ้นเหลือระดับ 1,600 จุดได้ตามคาดก่อนที่ช่วงบ่ายจะมีแรงขายออกมาในหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวโดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งปรับตัวลงแรง ส่งผลให้ดัชนีย้อนลงมาปิดลบ 5.27 จุด ณ สิ้น แรงขายมาจากนักลงทุนต่างชาติและเร่งตัวขึ้นเป็น 1.5 พันลบ. (แต่ยัง Long Index Futures หนาแน่น 1.4 หมื่นสัญญา) ขณะที่สถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 1.3 พันลบ.
          แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,580-1,600 จุดหลังไม่สามารถยืนเหนือ 1,600 จุดได้วานนี้ โดยคาดตลาดรอดูผลการประชุม FED คืนนี้ซึ่งคาดว่าจะลดดอกเบี้ย 0.25% รวมถึงติดตามพัฒนาการทั้งประเด็นการลงนามข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน รวมถึง Brexit ซึ่งล่าสุดสภาล่างอังกฤษได้ลงมติจัดการเลือกตั้งวันที่ 12 ธ.ค. นี้ อย่างไรก็ตามจากภาพรวมกำไรบริษัทจดทะเบียนและเศรษฐกิจใน 3Q19 ที่ไม่สดใสนัก เราจึงยังเน้น Selective Buy หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว รวมถึงหุ้น Defensive และ Dividend Play ซึ่งคาดว่าจะเคลื่อนไหวได้แข็งแรงกว่าตลาด
          กลยุทธ์ : Selective Buy หุ้นที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัวและมีกำไร 3Q19 แข็งแกร่ง และเน้นพักเงินในหุ้น Defensive และจ่ายปันผลสูง
          หุ้นเด่นเดือน ต.ค. :  ADVANC, AOT, BCH, CPALL, ORI
หุ้นเด่นวันนี้: ADVANC
          - แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2020 ที่ 260 บาท
          - กำไร 3Q19 ที่จะประกาศพรุ่งนี้ (31 ต.ค.) คาดว่าแข็งแกร่งต่อเนื่อง +12% Q-Q, +27% Y-Y เป็น 8.65 พันลบ. หลังจากแพคเกจราคาถูกหมดไป และสัญญาเช่าใหม่ที่ทำกับ TOT ถูกกว่าเดิม ทำให้ EBITDA margin มีแนวโน้มดีขึ้น
          - ถ้าเป็นไปตามคาด กำไรสุทธิ 9M19 จะ +5% Y-Y เราคาดทั้งปี +7% พลิกมาเติบโตได้หลังจากกำไรหดตัวติดต่อกัน 3 ปี ถือเป็นปีที่เก็บเกี่ยวผลตอบแทนจากการลงทุนในโครงข่าย 4G ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
          - ปีหน้าคาดกำไรสุทธิเร่งตัวขึ้น +10% ธุรกิจอ่อนไหวน้อยเมื่อเทียบกับศก. เหมาะกับสถานการณ์การลงทุนที่ผันผวนสูงในปัจจุบัน
          Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$39ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$175ล้าน ขณะที่ไหลออกจากเกาหลีใต้และไทย US$54ล้าน และ US$49ล้าน ตามลำดับ แนวโน้มของกระแสเงินทุนมีทิศทางชะลอการไหลเข้าภูมิภาครอผลประชุม fed และข่าวการลงนามทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่อาจเลื่อนออกไป
ประเด็นสำคัญวันนี้
          (+) คาด Fed ลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 29-30 ต.ค. นี้ แม้เป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงแต่ไม่มากพอที่จะหักล้างความเสี่ยงการสงครามการค้าที่แม้ปัจจุบันจะมีพัฒนาการดีขึ้นก็ตาม และเชื่อว่าไม่กดดันให้ กนง.ต้องลดดอกเบี้ยตามในการประชุมวันที่ 6 พ.ย. ทั้งนี้ กนง.ยังเหลือการประชุมอีก 1 ครั้งในวันที่ 18 ธ.ค.    
          (+) กลุ่มการแพทย์ เราคาดกำไรปกติ 3Q19 ของกลุ่มฯ +41% Q-Q จาก High season แต่ -2% Y-Y ฉุดโดยรพ.ใหญ่อย่าง BDMS และ BH ขณะที่รพ.ขนาดกลาง-เล็กคาดเติบโตได้แข็งแรงกว่าทั้ง BCH CHG และ EKH แนวโน้ม 4Q19 คาดชะลอเล็กน้อย Y-Y และใกล้เคียง 3Q19 ทำให้กำไรปกติทั้งปีชะลอชั่วคราว -0.7% Y-Y แต่จะกลับมาโต 11% Y-Y ในปี 2020 จากศก.ไทยที่ทยอยฟื้นตัวและมี upside เพิ่มหากปรับเพิ่มค่าหัวประกันสังคมตามที่สมาคมรพ.เอกชนยื่นขอ คงน้ำหนัก Neutral เลือก BCH และ CHG เป็น Top Pick ส่วน BDMS แนะนำสำหรับการลงทุนระยะยาว
          (+) MTC เราคาดกำไร 3Q19 +4% Q-Q, +10% Y-Y เป็น 1,059 ลบ. จากสินเชื่อที่คาดว่าจะเติบโต 28% Y-Y และเปิดสาขาใหม่อีก 22 แห่ง ไตรมาสนี้อาจเห็นแรงกดดันจาก Credit cost และค่าใช้จ่ายดำเนินงานสูงขึ้น  แต่แลกกับคุณภาพหนี้ที่ดีขึ้นจากความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อและตามหนี้ เราปรับกำไรปีนี้ลงเล็กน้อยเป็น 4.2 พันลบ. +13% Y-Y และคาดเร่งตัวขึ้นปีหน้า +26% Y-Y จากดอกเบี้ยหุ้นกู้ใหม่ที่ต่ำลง ปรับไปใช้เป้าปีหน้าที่ 68 บาท เพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ จากเดิมแนะนำขายหลังงบ 2Q19 ออก
          (0) PTTEP ประกาศงบวันนี้ กำไร 3Q19 ดีไม่เต็มที่ แม้ปริมาณขายเพิ่มแต่ราคาขายลดลงตามราคาน้ำมันดิบ และมีรายจ่ายจากการรวม Murphy Oil เราคาดกำไร 1.05 หมื่นลบ. -23% Q-Q, +1% Y-Y ราคาหุ้นระยะสั้นผันผวนตามราคาน้ำมัน ระยะยาวยังดีจากการมีแหล่งผลิตก๊าซที่มีศักยภาพ แนะนำซื้อ เป้าปีหน้า 145 บาท
          (-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 19.30 จุด ปิดที่ 27,071.42 จุด เนื่องจากมีรายงานข่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน อาจไม่มีการลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกในการประชุมเอเปคในเดือนหน้า นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้
          (-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ กดดันจากการเปิดเผยผลประกอบการ 3Q19 ที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป
          (0) ตลาดเอเชียปรับตัวผสม ท่ามกลางนักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
          (0) ค่าเงินบาทแกว่งในกรอบแคบ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 30.23 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
          (-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 27 เซนต์ ปิดที่ 55.54 ดอลลาร์/บาร์เรล จากคาดการณ์นักวิเคราะห์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรลในสัปดาห์ก่อน
          (-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 5.1 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,490.7 ดอลลาร์/ออนซ์ จากความต้องการทองคำในช่วงเทศกาลทิวาลีของอินเดียปรับลง
          SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 917.31 / -1.17
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
29-30 ต.ค.   - US: FOMC ประชุม
30 ต.ค.      - ไทย: PTTEP ประกาศงบ (หลังปิดตลาดภาคเช้า)
             - US: 3Q19 GDP, ADP Report (ต.ค.)
31 ต.ค.      - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน ก.ย., ADVANC ประกาศงบ (เย็น)
             - จีน: Manufacturing & Non-manufacturing PMI (ต.ค.)
             - ฮ่องกง: 3Q19 GDP
             - ยูโรโซน: 3Q19 GDP
             - ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
          Contact person : Jitra  Amornthum  Register : 014530
          Contact person : Veeravat Virochpoka Register : 047077
          www.fnsyrus.com
          FB: Finansia Syrus Research 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!