- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 25 October 2019 15:15
- Hits: 4852
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ฟื้นตัวได้บ้าง ก่อนไซด์เวย์ต่อ
KGI ประเมิน SET Index วันศุกร์รีบาวด์ได้บ้าง ก่อนไซด์เวย์ต่อ... หลังจากเมื่อวานนี้ ดัชนีฯ ร่วงแรงกว่าเราคาดมาก รับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่ลงหนัก หลังจากตลาดเพิ่มความกังวลต่อแนวโน้มของกลุ่มธนาคารในปี 2563 ตามการแถลงเป้าหมายทางการเงินของ KBANK* เมื่อวานนี้ ซึ่งส่งสัญญาณรายได้ค่าธรรมเนียมและส่วนต่างดอกเบี้ยชะลอตัวลง... สำหรับในวันนี้ปัจจัยแวดล้อมเป็นกลางๆ โดยผลการประชุม ธ.กลางยุโรปเมื่อวานนี้ ได้คงดอกเบี้ยเงินฝาก (ECB deposit rate) ไว้ที่ -0.5% และยืนยันการเริ่มทำนโยบายซื้อพันธบัตร (QE) ในเดือน พ.ย. (ตามคาด) ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงติดตามปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่สำคัญต่อเนื่องไปถึงสัปดาห์หน้า ได้แก่ i) การประชุม ธ.กลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 30 ต.ค. ซึ่ง consensus คาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% และ ii) ประเด็น Brexit และการเมืองของอังกฤษ หลังจากนายกฯ อังกฤษ เสนอรัฐสภาอนุมัติการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวในวันที่ 28 ต.ค. นี้... ด้านปัจจัยภายในประเทศ สัปดาห์หน้า ธปท. จะรายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือน ก.ย. ซึ่งจะเป็นข้อมูลชุดสุดท้ายเพื่อประเมินจีดีพีไตรมาส 3/2562 ของประเทศไทย
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร EPCO, SCCC, SPALI*
EPCO (เป้าพื้นฐาน 5.3 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 3.76 บาท / แนวต้าน 3.84 บาท หาก Breakout แนวต้านเทรนไลน์ดังกล่าวได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 4.1 - 4.2 บาท (Stop loss 3.64 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมิน i) Valuation โรงไฟฟ้าในมือ 211MW (ตามสัดส่วนการถือหุ้น และไม่รวมโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มเวียดนาม 99MW ที่จะขายหุ้นใน 4Q62) ยังไม่สะท้อนใน Valuation (ประเมินแบบอนุรักษ์นิยม เฉพาะส่วนธุรกิจนี้ได้ 4.57 บาท/หุ้น) ii) เครื่องจักรผลิตกล่องลูกฟูก เริ่มเดินเครื่องใน 4Q62 รองรับดีมานด์ ตามการเติบโตของการขนส่งและธุรกิจค้าออนไลน์ 3) ลุ้นปันผลพิเศษจากการขายหุ้นโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มเวียดนามใน 4Q62 นี้ คาดปันผลรวมปีนี้ +10%, ปีหน้าปันผลปกติ +6.5%
SCCC (เป้าพื้นฐาน 274 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 209 บาท / แนวต้าน 218 - 227 บาท (Stop loss 207 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไร 3Q62 จะกลับมาเติบโต +37.6% QoQ เนื่องจากไม่มีการตั้งสำรองรายจ่ายพนักงานตามมาตรฐานบัญชีใหม่ และไม่มีการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน 3) ราคาหุ้นที่ปรับลงจน Dividend yield สูงราว 4.3% ในปีนี้ และ 4.8% ในปีหน้า น่าจะสะท้อนข่าวลบเรื่องผลการดำเนินงาน 2Q62 และดีมานด์ปูนซีเมนต์ปีนี้ที่ไม่เติบโตตามคาดแล้ว (การก่อสร้างภาครัฐฯล่าช้า, ภาคอสังหาฯชะลอตัว) 4) คาดรับ Sentiment จากมาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาฯของรัฐบาล ซึ่งจะช่วยระบายสต๊อกบ้านและมีโอกาสการลงทุนสร้างใหม่ๆ หนุนดีมานด์ปูนซีเมนต์ปีหน้า
SPALI* (เป้าพื้นฐาน 23.4 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 17.4 บาท / แนวต้านแรก 18.0 - 18.2 บาท หากผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 18.6 บาท (Stop loss 17 บาท) 2) ประเมินรับอานิสงส์นโยบายภาครัฐฯ (ลดค่าธรรมเนียมการโอน-จดจำนองบ้านมูลค่าไม่เกิน 3 ล้านบาทให้เหลือ 0.01%) ช่วยระบายสต๊อกบ้าน 3) Valuation ถูก forward PE 6.3 เท่า, Dividend yield 6% คาดมีโอกาสรีบาวด์ หากสถานการณ์อุตสาหกรรมฯ ดีขึ้น
หุ้นเชิงปริมาณ & พื้นฐาน "Quantamental"
หุ้นเด่นเดือน ต.ค.2562: เลือก DELTA (Stop loss 47.5 บาท), JASIF (Stop loss 10.1 บาท)
กลยุทธ์ Pair trade: แนะนำคงสถานะกลยุทธ์ Long MTC* / Short SAWAD* (ขาดทุน -2.3%) ... แนะนำปิดสถานะตัดขาดทุน หากผลตอบแทนรวมของกลยุทธ์ขาดทุนเกิน -5%
หุ้นมีข่าว
(-CK*, ITD*) 'ซีพี' เล็งลดถือหุ้นไฮสปีดฯ จ่อระดมทุนตลาดหลักทรัพย์-'ศุภชัย' ยอมรับ 'งานหิน' หวั่นขาดทุน (กรุงเทพธุรกิจ) เผยทุนต่างชาติสนใจ ร่วมพัฒนา "มักกะสัน" "ซีพี" ลงนามร.ฟ.ท. ดันรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน "ศุภชัย" ยอมรับงานหิน-เสี่ยง อุบแหล่งเงินทุน หวั่นขาดทุนต้องควักมากกว่า 1 แสนล้าน มั่นใจเริ่มก่อสร้างใน 12 เดือน เสร็จตามกำหนด 5 ปี จ่อระดมทุนตลาดหลักทรัพย์ ลดหุ้นเหลือแค่ 40% เล็งลงทุน 1.4 แสนล้านพัฒนา "มักกะสัน"
(-) KBANK* เขย่าตลาดร่วง!! แพนิกหวั่นหนี้เสียพุ่ง 4% SCB*-BBL* กอดคอรูดตาม กดดัชนีวูบ 10 จุด (ข่าวหุ้น) นักลงทุนเทขายหุ้น KBANK* ร่วงหนัก 7.38% หลัง "เสี่ยปั้น" บัณฑูร ล่ำซำ เปิดแผนปี 63 คาดหนี้เสียจะพุ่งขึ้นถึง 3.6-4.0% ส่งผลโบรกฯอาจปรับลดเป้ากำไร และราคาเป้าหมาย ขณะที่ SCB* และ BBL* ถูกถล่มขายตามมาด้วย แม้ SCB* จะตั้งสำรองกรณีหุ้น PACE แล้ว 100% ส่วนดัชนีตลาดหุ้นวานนี้ปิดลบ 10.49 จุด โดย KBANK* SCB* และ BBL* มีส่วนกดดัชนีถึง 5.75 จุด ขณะที่นักลงทุนสถาบันขาย 4,523 ล้านบาท และต่างชาติซื้อ 2,826 ล้านบาท
(0) จ่อควบ 'กองทุนอสังหา' 'ดับบลิวเอชเอ' เริ่มปี 63 กรุงเทพธุรกิจ) ดึงต่างชาติลงทุนเพิ่ม จากปัจจุบันถืออยู่ 2-3% "ดับบลิวเอชเอ" เล็งควบรวม 2 กองทุนอสังหาฯ "HPFWHART" คาดชัดเจนปี63 หวังเพิ่มความน่าสนใจในสายตานักลงทุนต่างชาติ จากปัจจุบันมีสัดส่วนต่างชาติถือน้อย ด้าน WHART เตรียมเพิ่มทุนครั้งที่ 4 เสนอขาย 323.78 ล้านหน่วย ราคาเสนอขายไม่เกิน 16.90 บาท เปิดจองพ.ย.นี้
(+) 9 เดือนต่างชาติเที่ยวไทย เฉียด 30 ล้าน-จีนดีดกลับ (กรุงเทพธุรกิจ) กระทรวงท่องเที่ยวฯ เผยสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติ 9 เดือนแรกปีนี้ เฉียด 30 ล้านคน โต 3.5% ทั้งจำนวนและรายได้ เฉพาะเดือน ก.ย.ตลาดจีนดีดกลับ 31% หลังปีที่แล้วเหตุเรือล่มฉุดฐานต่ำ ส่วนอินเดียยังดีวันดีคืน โตพุ่งกว่า 26% ด้าน ททท.ใจชื้น มั่นใจปิดสิ้นปีจำนวนทัวริสต์ถึงเป้าหมายรัฐบาล 39.8 ล้านคน
(+) EGCO* ลุ้นปิดดีลไต้หวันเล็ง COD ไซยะบุรีทำเงิน (ทันหุ้น) EGCO* รับลงทุนโรงไฟฟ้าในไต้หวันคืบจ่อปิดดีลสิ้นปีนี้ เผยจ่ายไฟฟ้าโรง SBPL ดันกำลังการผลิตเพิ่มอีก 455 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันที่ 5.14 พันเมกะวัตต์ เล็ง COD ไซยะบุรีอีก 1220 เมกะวัตต์ วันที่ 29 ตุลาคมนี้ หนุนกำไรจากการดำเนินงานปีนี้โตตามแผนที่ 6% แย้มประชุมบอร์ดรายงานงบ Q3 วันที่ 12 พฤศจิกายนนี้
(+) ALL ได้ลดค่าโอนหมื่นล.เนื้อหอมฮ่องกงจ่อร่วมทุน (ทันหุ้น) ALL ได้แรงหนุนโตกระโดด ชี้โครงการเข้าข่ายมาตรการลดค่าโอน-จดจำนองปีนี้-ปีหน้าร่วมหมื่นล้านบาท ชี้อัตรายกเลิกโครงการสุดต่ำไม่ถึง 5% ยอดขายพรีเซล 9 เดือน กระฉูดเฉียด 7 พันล้านบาท ด้านกลุ่มไฮเอนด์มีข่าวดีฮ่องกงหนีความวุ่นวายเข้าซื้อ แถมจ่อร่วมทุนบุกอสังหาไทย
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
ADVANC* (เป้าพื้นฐาน 265 บาท) ประเมินแนวรับ 230 บาท / แนวต้าน 238 - 244 บาท (Trailing stop 229 บาท)
TCAP* (เป้าพื้นฐาน 61 บาท) ประเมินแนวรับ 52.5 บาท / แนวต้าน 55 บาท (Stop loss 52.5 บาท)
AMA (เป้าพื้นฐาน 8.1 บาท) ประเมินแนวรับ 6.6 บาท / แนวต้าน 7.25 บาท (Trailing stop 6.6 บาท)
AOT* (เป้า Consensus 79 บาท) แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 76.5 บาท)
ALL (ยังไม่มีเป้าหมายใน Consensus) แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop 4.42 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
MINT* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 49 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไร 3Q62 = 3.4 พันล้านบาท (+235% YoY, +91% QoQ) โดยมีกำไรพิเศษราว 2.1 พันล้านบาท หากตัดรายการพิเศษกำไรไตรมาสนี้จะเท่ากับ 1.36 พันล้านบาท (+33% YoY, -35% QoQ) จากการรับรู้รายได้ธุรกิจโรงแรม NH และ RevPar ที่ต่างประเทศโต
NYT แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 5.15 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 3Q62 = 80 ล้านบาท (-32.2% YoY, -11.9% QoQ) ผลการดำเนินงานลดลงจากการส่งออกรถยนต์ที่ลดลง ฝ่ายวิจัยฯปรับลดประมาณการกำไรปี 2562 - 63 ลง -11.3% และ -11% ตามลำดับ ราคาหุ้นที่ลงมาทำให้ Dividend yield ปี 2562 - 63 เท่ากับ 7.1% และ 8.0% ตามลำดับ
อดิศักดิ์ คำมูล
66.2658.8888 ต่อ 8843