WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

logo aceบล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
•    วันนี้คาด SET ปรับขึ้นต่อ ทดสอบแนวต้าน 1,640 จุดด้วย sentiment เชิงบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจั้งชิมช้อปใช้เฟส 2 และมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ขณะที่ sentiment ในต่างประเทศหนุนตลาดจากทั้งตลาดน้ำมัน และความคืบหน้าจากการเจรจา BREXIT มีสัญญาณบวกที่ดีขึ้น
•    Market Factor
•    (+) สัญญาน้ำมันดิบ WTI และ Brent วานนี้ปรับขึ้น 2.7%DoD และ 2.5%DoD หลัง EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบปรับลด 1.7 ล้านบาร์เรลสวนทางกับที่ตลาดคาดจะปรับพิ่ม 2.3 ล้านบาร์เรล บวกกับคาดกลุ่ม OPEC มีแนวโน้มปรับลดกำลังการผลิตในการประชุม OPEC Meetings วันที่ 5-6 ธ.ค. 62 ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
•    (+) เจรจา Brexit มีความคืบหน้า หลังสภาอังกฤษมีมติเห็นชอบ 329:299 เสียงผ่านร่างกฏหมาย Withdrawal Agreement Bill  อย่างไรก็ดีสภาอังกฤษมีมติ ไม่เห็นชอบ 308:322 เสียงในระยะเวลาการผ่านกฏหมายที่เกี่ยวข้องที่จำกัดเพียง 3 วันทำให้มีโอกาสขยายเวลา Brexit ออกไปเป็นวันที่ 31 ม.ค. 63
•    (+) ที่ประชุม ครม.ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งชิมช้อปใช้เฟส 2 โดยเพิ่มจำนวนผู้ลงทะเบียนเพิ่มอีก 3 ล้านคน โดยได้รับเงินชดเชย 1,000 บาท และเงินชดเชยร้อยละ 15 ของยอดใช้จ่ายไม่เกิน 30,000 บาท เรามองเป็นประเด็นบวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก
•    (0) ที่ประชุม ครม.ออกมาตรการลดภาระให้กับผู้ซื้อที่อยู่อาศัยทั้งค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง ในอสังหาฯ ราคาไม่เกิน 3 ลบ. บวกกับมาตรการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของ ธอส. โดยการให้อัตราเงินกู้ราคาพิเศษและเงื่อนไขผ่อนปรน สำหรับมาตรการสินเชื่อจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ (22 ตุลาคม 2562) จนถึงวันที่ 24 ธันวาคม 2563 โดยมีวงเงินสินเชื่อทั้งหมด 50,000 ล้านบาทอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 2.5 ในช่วง 3 ปีแรก ประเด็นนี้เรามีมุมมองเป็นกลางต่อหุ้นกลุ่มอสังหาฯ โดยคาดกระตุ้น Demand ในอสังหาฯได้ในระยะสั้น
•    ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPSปี 62 ที่ 115.13 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 98.52บาท หรือลดลง 14.43%YTD
•    Update Flow เมื่อวานนี้ต่างชาติพลิกซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 599.84ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD. ต่างชาติขายสุทธิอยู่ที่ 6,052.73 ลบ.
Investment Strategy
•    สัปดาห์นี้ เรายังมีมุมมองเป็นบวก โดยประเมิน Upside บริเวณแนวต้าน 1,650 จุด หลัง Trade war สหรัฐฯ-จีนมีสัญญาณที่ดีขึ้นบวกกับการอนุมัติมาตรการชิมช็อปใช้ เฟส 2 และการเซ็นสัญญารถไฟฟ้า 3 สนามบินในวันที่ 24 ต.ค. ขณะที่ยังมีประเด็น BREXIT ทมี่นักลงทุนยังติดตามเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี เรายังคงแนะนำนักลงทุนระมัดระวังในการลงทุนและทยอยลงทุนในหุ้น 5 กลุ่ม ดังนี้
•    หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้นศก.ของรัฐฯทั้งมาตรการท่องเที่ยว, ชิมช้อปใช้และงานประมูลภาครัฐฯ: แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่BJC (ช่วง  2H62 คาดเห็นการฟื้นตัว HoH จากการขยายสาขา BigC มากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขาและสาขาที่กัมพูชา 1 สาขา BigC Food Place 1 สาขาและ Mini BigCราว 200 สาขา), SEAFCO (แม้ช่วง 2H62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พันลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่นลบ.), ERW (ช่วง 2H62 หลังคาดฟื้นตัวจากปัจจัยฤดูกาล บวกกับการกลับมาเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม.และมีสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดือน ส.ค. โต 15.6%YoY), CPALL (ช่วง 3Q62 แม้เข้าสู่ Low Season แต่ด้วยการจัดโปรโมชั่น แสตมป์จัดหนักกระตุ้นยอดขาย และการได้ประโยชน์จากฐานที่ต่ำของปีก่อนจะหนุน SSSG เติบโตต่อเนื่อง พร้อมยังคงเป้าขยายสาขาร้านสะดวกซื้อปีนี้ที่ 700 สาขา)
•    กลุ่ม Defensive Stock: เราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (ช่วง 2H62 คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มโตต่อ หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถ   มินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.
•    กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoY และช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำ SAWAD (คาดกำไรปี 62 โต 30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20-30% และอีก 300 สาขา,  Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลัง Tender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (คาดปี 62 เห็นการ Turnaroundของกำไรหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นจากการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่), III (ช่วง 2Q62 กำไรโต 45.8%YoY หนุนด้วยธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ บวกกับมีส่วนแบ่งกำไรที่โต 364%YoY จากธุรกิจที่เข้าซื้อกิจการสิงคโปร์และฮ่องกงในปี 61-62 ตามลำดับ),ARROW (ช่วง 2H62 คาดกำไร    ฟื้นตัวหลังมาร์จิ้นเหล็กดีขึ้นตามต้นทุนเหล็กที่ลดลงและราคาขายที่ดี คาดหนุนกำไรทั้งปีโต 10.3%YoYบวกกับมี Backlog 1.1 พัน ลบ. และมีโอกาสได้งานใหม่ๆ เพิ่ม)
•    หุ้นกลุ่มร.พ.ขนาดกลางที่คาดกำไรช่วง3Q62โตเด่น เข้าสู่ High Season: BCH (ช่วง3Q62 คาดกำไรโตทั้งQoQ, YoYหนุนด้วยการเข้าสู่ช่วงHigh Seasonบวกกับการบันทึกรายได้ส่วนเพิ่มของภาระเสี่ยงขณะที่ผู้ป่วยตะวันออกกลางคาดกลับมาฟื้นตัวหลังมีการเพิ่มชม.การทำงานของแพทย์ด้านเบาหวาน, CHG (ช่วง 2H62 คาดกำไรโต YoY หนุนด้วยสัญญาณฟื้นตัวจาก รพ.ที่เพิ่งเปิดใหม่ทั้ง รพ.จุฬารัตน์ 304อินเตอร์และรพ.รวมแพทย์ฉะเชิงเทราบวกกับอาจมีการขอเพิ่มสัดส่วนโควต้าประกันสังคมหลังมีผู้ประกันตนราว 432,640 คน (จากโควต้า 440,000 คน)
•    หุ้นที่คาดกำไรช่วง 3Q62 โตYoY, QoQและทั้งปี 62 ยังโตเด่น: SSP, BPP, JWD, SABINA, S11
Trading Idea
•    มาตรการ “ชิมช้อปใช้เฟส 2” เป็น Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก : CPALL, BJC, COM7
•    กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ได้ Sentiment เชิงบวกจากการเซ็นสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินในวันที 24 ต.ค. : CK  และบริษัทที่คาดได้งาน subcontract : SEAFCO, PYLON
    22-Oct-19    Change (pts.)    21-Oct-19
SET Index    1,631.46    10.68    1,620.78
SET50 Index    1,089.35    7.97    1,081.38
SET100 Index    2,397.76    18.32    2,379.44
 
High    1,631.94    Gainers    874
Low    1,624.44    Unchanged    460
Value (Bt m)    38,840.69    Losers    657
Volume (*000)    14,277,618         
Market Valuation
SET Data    2019F    2020F    Long Term
Fwd PER (x)    16.6    14.9    14.9
EPS Growth (%)    13.9    9.3    -2.1
EV/EBITDA (x)    0.0    0.0    0.0
FWD PBV (x)    1.8    1.7    1.6
Dividend Yield (%)    3.1    3.4    3.7
ROE    10.3    10.6    10.6
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt    22-Oct-19    WTD    MTD    YTD
Institution    821.39    (631.89)    (1,409.30)    22,845.75
Proprietary    46.94    (184.07)    (1,779.28)    11,716.89
Foreign     (564.95)    34.89    (6,617.70)    (11,846.55)
Individual    (303.37)    781.07    9,806.28    (22,716.10)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
จิรภัทร  โบสุวรรณ (ID. 040051)    [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932)    [email protected]
ธีรยุทธ  ฤทธิเผ่าพันธุ์    ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์    Data Support / Secretary

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!