- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 22 October 2019 16:44
- Hits: 1597
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
• วันนี้คาด SET ยืนแนวรับ 1,615 จุด แม้ตลาดถูกดดันจากทั้งปัจจัยลบในประเทศจากหลังตัวเลขส่งออกต่ำกว่าคาด และปัจจัยเสี่ยงกรณี Brexit ที่ต้องรอความชัดเจนก่อนครบกำหนดเวลาการแยกตัวออกจาก EU อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยหนุนจากกรณี Trade War ที่มีสัญญาณความคืบหน้าก่อนถึงกำหนดการลงนามที่ประชุม APEC ช่วงกลางเดือนหน้า ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,615-1,630 จุด
• Market Factor
• (+) การทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนมีความคืบหน้า หลังผู้แทนการค้าสหรัฐฯ นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ จะสรุปข้อตกลงการค้าขั้นที่ 1 ก่อนที่จะให้ประธาธิบดีสหรัฐฯ และประธานาธิบดีจีนลงนามในการประชุม APEC วันที่ 16-17 พ.ย. 62
• (-) สนค. กระทรวงพาณิชย์เผยส่งออกไทยเดือน ก.ย.62 มีมูลค่า 20,481 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 1.39%YOY ขณะที่ภาพรวมช่วง 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย.) มีมูลค่าทั้งสิ้น 186,571 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ติดลบ 2.11% โดยได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การค้าโลกที่ยังผันผวน ค่าเงินบาทที่แข็งค่าและความกังวล Trade War สหรัฐฯ-จีน พร้อมประเมินส่งออกไทยปี 62 มีโอกาสสูงที่จะติดลบใกล้เคียงระดับ 1% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้โต 3% (ฐานเศรษฐกิจ)
• (watch) ติดตามที่ประชุม ครม.ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งชิมช้อปใช้เฟส 2 และมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ (ฐานเศรษฐกิจ)
• Consensus ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 115.13 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 98.52 บาท หรือลดลง 14.43%YTD
• Update Flow เมื่อวานนี้ต่างชาติพลิกซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 599.84 ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD. ต่างชาติขายสุทธิอยู่ที่ 6,052.73 ลบ.
Investment Strategy
• สัปดาห์นี้ เรายังมีมุมมองเป็นบวก โดยประเมิน Upside จำกัดบริเวณแนวต้าน 1,650 จุด หลัง Trade war สหรัฐฯ-จีนมีสัญญาณที่ดีขึ้น บวกกับการอนุมัติมาตรการชิมช็อปใช้ เฟส 2 ของ ครม.ในสัปดาห์นี้ และการเซ็นสัญญารถไฟฟ้า 3 สนามบิน ขณะที่ยังมีประเด็น BREXIT ทมี่นักลงทุนยังติดตามเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี เรายังคงแนะนำนักลงทุนระมัดระวังในการลงทุนและทยอยลงทุนในหุ้น 5 กลุ่ม ดังนี้
• หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้น ศก.ของรัฐฯทั้งมาตรการท่องเที่ยว, ชิมช้อปใช้และงานประมูลภาครัฐฯ: แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่BJC (ช่วง 2H62 คาดเห็นการฟื้นตัว HoH จากการขยายสาขา BigC มากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขาและสาขาที่กัมพูชา 1 สาขา BigC Food Place 1 สาขาและ Mini BigCราว 200 สาขา), SEAFCO (แม้ช่วง 2H62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พัน ลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่น ลบ.), ERW (ช่วง 2H62 หลังคาดฟื้นตัวจากปัจจัยฤดูกาล บวกกับการกลับมาเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม.และมีสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดือน ส.ค. โต 15.6%YoY), CPALL (ช่วง 3Q62 แม้เข้าสู่ Low Season แต่ด้วยการจัดโปรโมชั่น แสตมป์จัดหนักกระตุ้นยอดขาย และการได้ประโยชน์จากฐานที่ต่ำของปีก่อนจะหนุน SSSG เติบโตต่อเนื่อง พร้อมยังคงเป้าขยายสาขาร้านสะดวกซื้อปีนี้ที่ 700 สาขา)
• กลุ่ม Defensive Stock: เราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (ช่วง 2H62 คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มโตต่อ หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถมินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.
• กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoYและช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำSAWAD (คาดกำไรปี62 โต 30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20-30% และอีก 300 สาขา, Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลัง Tender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (คาดปี 62 เห็นการ Turnaround ของกำไรหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นจากการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่), III (ช่วง 2Q62 กำไรโต 45.8%YoY หนุนด้วยธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ บวกกับมีส่วนแบ่งกำไรที่โต 364%YoY จากธุรกิจที่เข้าซื้อกิจการสิงคโปร์และฮ่องกงในปี 61-62 ตามลำดับ) ,ARROW (ช่วง 2H62 คาดกำไร ฟื้นตัวหลังมาร์จิ้นเหล็กดีขึ้นตามต้นทุนเหล็กที่ลดลงและราคาขายที่ดี คาดหนุนกำไรทั้งปีโต 10.3%YoYบวกกับมี Backlog 1.1 พัน ลบ. และมีโอกาสได้งานใหม่ๆ เพิ่ม)
• หุ้นกลุ่ม ร.พ.ขนาดกลางที่คาดกำไรช่วง 3Q62 โตเด่น เข้าสู่ High Season: BCH (ช่วง 3Q62 คาดกำไรโตทั้ง QoQ, YoY หนุนด้วยการเข้าสู่ช่วง High Season บวกกับการบันทึกรายได้ส่วนเพิ่มของภาระเสี่ยงขณะที่ผู้ป่วยตะวันออกกลางคาดกลับมาฟื้นตัวหลังมีการเพิ่มชม.การทำงานของแพทย์ด้านเบาหวาน, CHG (ช่วง 2H62 คาดกำไรโต YoY หนุนด้วยสัญญาณฟื้นตัวจากรพ.ที่เพิ่งเปิดใหม่ทั้ง รพ.จุฬารัตน์ 304 อินเตอร์ และ รพ.รวมแพทย์ฉะเชิงเทราบวกกับอาจมีการขอเพิ่มสัดส่วนโควต้าประกันสังคมหลังมีผู้ประกันตนราว 432,640 คน (จากโควต้า 440,000 คน)
• หุ้นที่คาดกำไรช่วง 3Q62 โต YoY, QoQ และทั้งปี 62 ยังโตเด่น: SSP, BPP, JWD, SABINA, S11
Trading Idea
• GFPT ปรับตัวลงมาสะท้อนเหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานคาดส่งผลกระทบต่อกำไรปีนี้เล็กน้อย แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร”
21-Oct-19 Change (pts.) 18-Oct-19
SET Index 1,620.78 -10.65 1,631.43
SET50 Index 1,081.38 -7.90 1,089.28
SET100 Index 2,379.44 -16.99 2,396.43
High 1,631.63 Gainers 452
Low 1,619.49 Unchanged 436
Value (Bt m) 40,965.15 Losers 1,068
Volume (*000) 16,948,031
Market Valuation
SET Data 2019F 2020F Long Term
Fwd PER (x) 16.5 14.8 14.8
EPS Growth (%) 13.9 9.3 -2.3
EV/EBITDA (x) 0.0 0.0 0.0
FWD PBV (x) 1.8 1.7 1.6
Dividend Yield (%) 3.1 3.4 3.7
ROE 10.4 10.8 10.7
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 21-Oct-19 WTD MTD YTD
Institution (1,453.28) (1,453.28) (2,230.69) 22,024.36
Proprietary (231.01) (231.01) (1,826.22) 11,669.96
Foreign 599.84 599.84 (6,052.75) (11,281.60)
Individual 1,084.44 1,084.44 10,109.66 (22,412.72)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary