วานนี้ SET แกว่ง sideway โดยมีแรงขายหนักในกลุ่มปิโตรเคมี และโรงกลั่น (IVL, PTTGC, TOP) จากแนวโน้มกำไร 3Q62 ที่คาดอ่อนแอ ขณะที่แรงซื้อมากใน AWC, GPSC, CPALL ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,632.80 (-1.6 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 6.1 หมื่น ลบ. (เทียบกับวันก่อนหน้า 5.8 หมื่น ลบ.)

          โดยนักลงทุนต่างชาติ ซื้อหุ้นไทย 222 ลบ. (นักลงทุนสถาบันซื้อ 124 ลบ.) ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Long Futures ที่ 19,930 สัญญา

Stock Picks & Trading Idea

          STEC (ราคาเป้าหมาย 22.0 บ/หุ้น) คาดกำไรผ่านจุดต่ำสุดในช่วง 2Q62 ไปแล้ว และจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง จากยอดรับรู้รายได้ที่มากขึ้น และอัตราการทำกำไรที่จะขยับขึ้น ผสานความคาดหวังเชิงบวกจากโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่จะเร่งตัวขึ้นหลังการผ่านร่าง พรบ. งบประมาณปี 63 อีกทั้งฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ไม่มีภาระหนี้เงินกู้ และ Backlog สูง เพิ่มความน่าสนใจในการสะสม

Investment Theme

          สหราชอาณาจักรและยุโรปบรรลุข้อตกลง Brexit เตรียมส่งต่อสภา: วานนี้นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร และนายฌอง คล้อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เผยว่า UK และ EU ได้บรรลุข้อตกลง Brexit แล้ว โดยในช่วงถัดไปจะนำเสนอแผนดังกล่าวเข้าสู่รัฐสภาของสหราชอาณาจักรเพื่อขอความเห็นชอบในสุดสัปดาห์นี้ (19 ตค.) แม้ว่าตลาดอาจจะมีความกังวลเล็กน้อยจากท่าทีของพรรค DUP ที่มีแนวโน้มจะไม่สนับสนุนข้อตกลงดังกล่าวเนื่องจากยังไม่พอใจเกี่ยวกับประเด็นศุลกากร แต่อย่างไรก็ดี เราคาดว่าท้ายที่สุดเรายังให้น้ำหนักว่าข้อตกลงยังมีโอกาสที่จะผ่านพ้นไปได้ หรือในกรณีที่ไม่ผ่านก็คาดจะมีการขอเลื่อนเส้นตายของ Brexit จาก 31 ตค. 62 เป็น 31 มค. 63 ดังนั้นจึงไม่น่าจะเป็นปัจจัยกดดัน โดยวานนี้ค่าเงินปอนด์ปรับตัวแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.288 ดอลล่าร์ต่อปอนด์ จากต้นสัปดาห์ที่ 1.255 ดอลล่าร์ต่อปอนด์ ส่วนเช้านี้ (9.00 น.) จับตาการรายงาน GDP ไตรมาส3 ของจีน ตลาดคาดที่ 6.1% ลดลงจากไตรมาสก่อนที่ 6.2% ด้านปัจจัยในประเทศติดตามการพิจารณ ร่าง พรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 วาระที่ 1 (17-19 ตค.) และการรายงานผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์ 3Q62 (วานนี้)

          Investment Strategy : วันนี้ประเมินแนวต้าน SET 1640 แนวรับ 1620 จุด แนะทยอยสะสมหุ้น Zone ล่าง "STEC, MAJOR" และย่อสะสมหุ้น Zone บน "GPSC, ADVANC, AOT, JMT"

Big Issue

เมื่อคืนที่ผ่านมา :  

          - สหราชอาณาจักรและยุโรปบรรลุข้อตกลง Brexit หนุนค่าเงินปอนด์แข็งค่า

          - สหรัฐฯ-ตุรกี บรรลุข้อตกลงหยุดยิงในพื้นที่ตอนเหนือของซีเรียและกำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็น safe zone

Eyes on

ปัจจัยต่างประเทศ :

          - US Econ: 17 ตค. ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม

          - 17-18 ตค. การประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป (EU Summit)

          - China Econ: 18 ตค. 3Q62 GDP จีน

ปัจจัยในประเทศ :

          - 17-19 ตค.ประชุมสภาฯ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 63

          - การรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน 3Q62

Technical View

SET

          แนวรับ : 1610, 1625

          แนวต้าน : 1645, 1660

          SET Index : แกว่งในกรอบ 1630-1660 หากหลุด 1625 แนะนำ Lock Profit ดัชนีเปิดโดดและแกว่ง Sideway Down ลดช่วงบวกลงมา โดยมีแรงซื้อโดดเด่นจากหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าและค้าปลีก ระยะกลางมองว่าดัชนีได้เปลี่ยนจากขาลงกลับมา Sideway ในกรอบ 1630-1660(EMA200Day) ระยะถัดไปหากผ่าน 1660 ได้จึงจะกลับเป็นขาขึ้นรอบใหม่ ขณะนี้แนะนำให้ Trading ในกรอบ 1630-1660 โดยหากผิดคาดหลุด 1625 แนะนำ Lock Profit ในขาขึ้นรอบนี้ไปก่อน

กลยุทธ์การลงทุน

          มีหุ้น: Trading ในกรอบ 1630-1660 แต่หากหลุด 1625 แนะนำ Lock Profit

          ไม่มีหุ้น: อ่อนตัวไม่หลุด 1630 ยังเป็นโอกาสซื้อเพื่อ Trading

Tiger Picks :

          TRUE :  ซื้อ

          แนวรับ : 5.10-5.20

          แนวต้าน : 5.55/5.80

          ตัดขาดทุน : 5.00

          BTS : ซื้อ

          แนวรับ : 13.30-13.60

          แนวต้าน : 14.20/15.00

          ตัดขาดทุน : 13.00

ข่าว เด่น พร้อมคำแนะนำ

TOP

          โครงการ CFP เสร็จ ดันกำไรพุ่ง 3 หมื่นล้าน (ข่าวหุ้น)

          ความเห็น : โครงการ CFP จะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตจาก 275 KBD เป็น 400 KBD พร้อมปรับปรุงประสิทธิภาพของโรงกลั่นให้สามารถเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีราคาสูง และลดน้ำมันเตาที่คาดจะมีวามต้องการใช้น้อยลงเป็นศูนย์  ดังนั้นโรงการ CFP จึงช่วยเพิ่มทั้งปริมาณและมาร์จิ้น อย่างไรก็ตามผลประกอบการจะทำได้ตามเป้า 30,000 ล้านบาทหรือไม่นั้นต้องประกอบกับภาวะตลาดในช่วงนั้นด้วย เราแนะนำ Trading Buy ราคาเป้าหมาย 68 บาท

BGRIM

          ลุยดีลซื้อกิจการครึ่งปี (ทันหุ้น)

          ความเห็น : ผลประกอบการ 2H62 ได้แรงหนุนจากโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในประเทศเวียดนาม หลังเปิดดำเนินงานในเดือน มิ.ย. 2562 ที่ผ่านมา ขณะที่การซื้อกิจการเป็น Upside ที่ยังไม่รวมในประมาณการ ขึ้นกับขนาด และผลตอบแทนจากการเข้าซื้อ เชิงกลยุทธ์เราไม่แนะนำให้ซื้อเพิ่ม เนื่องจากราคาปัจจุบันปรับตัวสูงกว่าราคาเป้าหมายของเราที่ 36 บาท สำหรับผู้ที่มีหุ้นอยู่สามารถถือเพื่อรอความชัดเจนของการ M&A โครงการใหม่ๆ ในกลุ่มโรงไฟฟ้า

          นักวิเคราะห์ : วิจิตร อารยะพิศิษฐ

          Research Department Tel. 02-658-5000