- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 16 October 2019 16:04
- Hits: 2738
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน At The Open
กลยุทธ์การลงทุนรายวัน
Market Summary
วานนี้ SET แกว่ง sideway จากความไม่แน่นอนของประเด็นการเจรจาสงครามการค้า โดย ยังคงมีแรงซื้อมากในกลุ่มโรงไฟฟ้า (GPSC, GULF) ขณะที่ยังมีแรงขายในกลุ่ม Global play ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,627.01 (+1 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 5.1 หมื่น ลบ. (เทียบกับวันก่อนหน้า 6.1 หมื่น ลบ.)
โดยนักลงทุนต่างชาติ ขายหุ้นไทย 831 ลบ. (นักลงทุนสถาบันซื้อ 662 ลบ.) ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Long Futures ที่ 337 สัญญา
Stock Picks & Trading Idea
CHG (ราคาเป้าหมาย 2.80 บาท/หุ้น) คาดกำไรผ่านจุดต่ำสุดในช่วง 2Q62 ไปแล้ว และครึ่งปีหลังจะเร่งตัวขึ้นจากรายได้ผู้ป่วยเงินสดที่ดี รายได้ผู้ป่วยประกันสังคมที่เร่งขึ้น โดยประเมินกำไรหลัก 3Q62 ที่ระดับ 183 ล้านบาท +22%YoY ผสานโรงพยาบาลใหม่ 2 แห่ง (CHG304 และ รวมแพทย์ฉะเชิงเทรา) มีผลขาดทุนลดน้อยลงเรื่อยๆ และคาดจะกลับมาเข้าสู่จุดทำกำไรได้ในปีหน้าเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนกำไรโดยรวมทั้งกลุ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
Investment Theme
IMF ลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี : เมื่อคืนที่ผ่านมากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก โดยได้มีการปรับลดคาดการณ์การเติบโตของ GDP โลกปีนี้ลงสู่ระดับ 3.0% จากคาดการณ์เดิมเมื่อเดือน กค.ที่ระดับ 3.2% ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินในปี 2008-2009 นอกจากนี้ยังมีการปรับลด GDP ปีหน้าลงสู่ระดับ 3.4% จากเดิมที่ 3.5% โดยมาจากหลายสาเหตุ เช่น ปัญหาสงครามการค้า , การชะลอตัวของเศรษฐกิจในตลาดเกิดใหม่ , ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ เป็นต้น นอกจากนี้หากพิจารณาเป็นรายประเทศ พบว่ามีการลดคาดการณ์ GDP สหรัฐฯ ปีนี้สู่ระดับ 2.4% จาก 2.9% ในปีที่แล้ว และคาดปีหน้าเศรษฐกิจสหรัฐจะเติบโตเพียง 2.1% ส่วนทางด้านจีน ประเมินการขยายตัวปีนี้ที่ 6.1% และปีหน้าลงสู่ 5.8% เท่านั้น โดยรวมถือว่าจุดหลักของการปรับลดคาดการณ์ GDP มาจากการยืดเยื้อของสงครามการค้า ดังนั้นคงต้องจับตาว่าท้ายที่สุดสหรัฐกับจีน จะมีบทสรุปอย่างไรก็ โดยแนะจับตาการเจรจาข้อตกลงเพิ่มเติมภายในเดือนนี้ ซึ่งหากตกลงกันได้จะนำไปสู่การลงนามอย่างเป็นทางการในการประชุม APEC เดือน พย. และจะหนุนการฟื้นตัวของสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงถัดไป
Investment Strategy : วันนี้ประเมินแนวต้าน SET ที่ 1640 แนวรับ 1620 จุด เน้นหุ้นกำไร3Q62 เด่น "CHG, OSP, JMT, MAJOR" ย่อสะสมหุ้นพื้นฐานดี "GPSC, ADVANC, AOT" ส่วน Global Play แนะเก็งกำไร "TOP"
Big Issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา :
- ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ประจำเดือนกันยายน 2562 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 สู่ระดับ 46.2 จุด
- ผลประกอบการเจพีมอร์แกน เชส และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน แข็งแกร่งกว่าตลาดคาด
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ :
- US Econ: 16 ตค. ยอดค้าปลีก 17 ตค. ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม
- 17-18 ตค. การประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป (EU Summit)
- China Econ: 18 ตค. 3Q62 GDP จีน
ปัจจัยในประเทศ :
- 17-19 ตค.ประชุมสภาฯ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 63
- การรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน 3Q62
Technical View
SET
แนวรับ : 1600, 1615
แนวต้าน : 1635, 1650
SET Index : จังหวะปรับฐานระหว่างวันไม่หลุด 1615 มองเป็นโอกาสซื้อสะสม ดัชนีเปิดโดดติดแนวต้าน Neckline 1630+/- แม้ระหว่างวันจะย่อตัว แต่มีแรงดึงกลับได้ในช่วงท้าย โดยมีแรงซื้อโดดเด่นจากกลุ่มสื่อสาร เช่าซื้อและวัสดุก่อสร้าง ระยะสั้นมองว่าหากปรับฐานไม่หลุด 1615 ระยะถัดไปยังคาดหวังการ Break Neckline ที่ 1630 ได้ ประกอบกับมีสัญญาณบวกจาก Modified Stochastic ที่เริ่มดีดตัวขึ้นจากเขต Oversold มองแนวต้านถัดไปที่ 1635 และ 1650
กลยุทธ์การลงทุน
มีหุ้น: หากผ่านแนวต้าน 1630 เน้น Let Profit Run มองแนวต้านถัดไปที่ 1645-1650 แต่หากหลุด 1615 แนะนำ Lock Profit
ไม่มีหุ้น: อ่อนตัวไม่หลุด 1615-1620 ยังเป็นโอกาสซื้อเพื่อ Trading
Tiger Picks :
PTG : ซื้อ
แนวรับ : 18.80-19.30
แนวต้าน : 20.30/21.00
ตัดขาดทุน : 18.60
CHG : ซื้อ
แนวรับ : 2.42-2.48
แนวต้าน : 2.60/2.70
ตัดขาดทุน : 2.38
ข่าว เด่น พร้อมคำแนะนำ
JMT
ปิดดีลซื้อหนี้ 3 พันล. จ่อขึ้นทำนิวไฮ (ข่าวหุ้น)
ความเห็น : เรายังคงมุมมองบวกต่อแนวโน้มกำไรใน 3Q62 ที่ยังทำสถิติใหม่นิวไฮต่อเนื่อง ขยายตัวทั้งเทียบ QoQ และ YoY จากยอดจัดเก็บเงินสดบนกองหนี้ทั้งเก่าและใหม่ ขณะธุรกิจประกันขาดทุนลดลง QoQ หลังเริ่มรับรู้รายได้จากกรมธรรม์ที่ขายในไตรมาสก่อน เราคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 20.80 บาท
JMART
โค้งท้ายฟอร์มเจ๋ง (ข่าวหุ้น)
ความเห็น : เรามองกำไรจะฟื้นตัวจากส่วนแบ่งกำไรของบริษัทลูกทั้ง JMT และ SINGER ที่ยังขยายตัว QoQ,YoY ทำให้ภาพรวมผลประกอบการ JMART ที่เป็น Holding company กลับมาระดับ 130-150 ลบ./ไตรมาส ได้ แต่ยังขาดปัจจัยเร่งจากพัฒนาการของบริษัทแม่ แต่เรามอง downside risk จำกัด เพราะ ประเมินมูลค่าเบื้องต้น เฉพาะ JMT-SINGER จะคิดเป็นมูลค่า JMART ราว 11.00-13.75 บาท
TOP
ขายหุ้นกู้ 565 ล้านดอลล์เกลี้ยง (ข่าวหุ้น)
ความเห็น : การออกหุ้นกู้ดังกล่าวจะถูกนำไปใช้รองรับการขยายธุรกิจผ่านโครงการ CFP ซึ่งเป็นโครงการขยายกำลังการกลั่นขึ้นเป็น 400 KBD จากปัจจุบันที่ 275 KBD นอกจากนั้นยังจะ Upgrade เป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง และลดสัดส่วนน้ำมันเตาลงเป็น 0 ช่วยหนุนค่าการกลั่นในระยะยาว แนะนำ Trading Buy ราคาเป้าหมาย 68 บาท
CKP
รับเงินพันล.พันธมิตรใช้สิทธิแปลงวอร์แรนต์ (ทันหุ้น)
ความเห็น : ฐานทุนที่เพิ่มขึ้นจากการใช้สิทธิแปลง CKP-W1 จะช่วยให้ฐานะทางการเงินของ CKP แข็งแกร่งขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสในการเติบโตในอนาคต หลังผ่านการลงทุนในโครงการ XPCL ที่ช่วยหนุนกำลังการผลิตและผลประกอบการอย่างก้าวกระโดด อย่างไรก็ตามระยะสั้น ยังคงต้องรอความชัดเจนของการลงทุนเพิ่มเติมในอนาคตโดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ในลาว ที่เริ่มเห็นการแข่งขันที่มากขึ้น แนะนำ Take Profit ราคาเป้าหมาย 5.60 บาท
RS
ผนึกเวิร์คพอยท์ เพิ่มช่องทางขาย ต่อยอดธุรกิจ MPC (ข่าวหุ้น)
ความเห็น : เรามองเป็นบวกต่อพัฒนาการบวกข้างต้น ทั้ง RS ที่จะเพิ่มช่องทางและโอกาสในการขายสินค้า ของธุรกิจ MPC ที่จะกลับมาโตอีกครั้ง บนฐานลูกค้าใหม่ และ WORK ที่คาดจะรับรู้รายได้ในรูปแบบ Revenue sharing ประเมินว่าจะเริ่มเห็นผลต่อผลประกอบการในปี 2563 เป็นต้นไป ดังนั้นเชิงกลยุทธ์เป็นโอกาสเก็งกำไรต่อประเด็นบวกในช่วงสั้น
นักวิเคราะห์ : วิจิตร อารยะพิศิษฐ
Research Department Tel. 02-658-5000