- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 16 October 2019 15:53
- Hits: 1771
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
• วันนี้คาด SET Index แกว่ง Sideway ในกรอบ 1,620-1,640 จุด โดยแม้สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนมีความผ่อนคลายมากขึ้น บวกกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่สหรัฐฯออกมาดีกว่าคาด อย่างไรก็ดี ยังมีประเด็นกดดันตลาดจากการปรับลดคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจโลกลงจากรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกของ IMF สู่ระดับ 3.0% จากเดิมที่ 3.2%
• Market Factor
• (-) IMF ปรับลดคาดการณ์ GDP โลกปี 2562 สู่ระดับ 3.0% จากเดิมที่ 3.2% และปี 2563 สู่ระดับ 3.4% จากเดิมที่ 3.5% โดยปรับลด GDP ปี 2562 กลุ่มประเทศพัฒนาแล้วสู่ระดับ 1.7% จากเดิมที่ 2.3% และกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาสู่ระดับ 3.9% จากเดิมที่ 4.5%
• (+) เข้าสู่ช่วงรายงานผลประกอบการช่วง 3Q62 ของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ มีบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ทยอยประกาศผลประกอบการออกมาดีกว่าคาดส่งผลให้เกิด Positive Earnings Surprise ในช่วงสั้น
• (+) ที่ประชุม ครม.เห็นชอบอนุมัติงบประมาณวงเงินราว 2.4 หมื่นล้านบาท เป็น โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางพารา ครอบคลุมเกษตรกรจำนวน 1.4 ล้านคน พื้นที่ปลูกยางพารา 17 ล้านไร่ นอกจากนี้ ยังอนุมัติงบราว 6 พันล้านบาทเพิ่มทุนให้เอสเอ็มอีแบงก์ เพื่อพัฒนา ส่งเสริมให้เอสเอ็มอีมีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น(กรุงเทพธุรกิจ)
• (+) ครม.มีมติแต่งตั้งบอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) สังกัดกระทรวงคมนาคม หนุนความคืบหน้าการลงนามในสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินได้ตามกรอบเวลาที่กำหนด 25 ต.ค.นี้
• Consensus ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 115.13 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 98.66 บาท หรือลดลง 14.31%YTD
• Update Flow เมื่อวานนี้ต่างชาติขายสุทธิสุทธิในตลาดหุ้นไทย 831.18 ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD.ต่างชาติขายสุทธิอยู่ที่ 4,679.58 ลบ.
Investment Strategy
• สัปดาห์นี้เรากลับมามีมุมมองเป็นบวกต่อตลาดมากขึ้น จากประเด็น Trade war สหรัฐฯ-จีนที่มีสัญญาณที่ดีขึ้น บวกกับมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวจาก ครม.เศรษฐกิจที่ออกมา คาดหนุนตลาดในสัปดาห์นี้แกว่งในกรอบ 1,620-1,660 จุด แม้เรามองเป็นสัญญาณรีบาวด์ในตลาด แต่อย่างไรก็ดี เรายังคงแนะนำนักลงทุนระมัดระวังในการลงทุนและทยอยลงทุนในหุ้น 6 กลุ่ม ดังนี้
• หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้น ศก.ของรัฐฯ ทั้งมาตรการท่องเที่ยว, ชิมช้อปใช้และงานประมูลภาครัฐฯ: แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่BJC (ช่วง 2H62 คาดเห็นการฟื้นตัว HoH จากการขยายสาขา BigC มากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขาและสาขาที่กัมพูชา 1 สาขา BigC Food Place 1 สาขา และ Mini BigC ราว 200 สาขา), SEAFCO (แม้ช่วง 2H62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พัน ลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่น ลบ.), ERW (ช่วง 2H62 หลังคาดฟื้นตัวจากปัจจัยฤดูกาล บวกกับการกลับมาเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม.และมีสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดือนส.ค. โต 15.6%YoY)
• กลุ่ม Defensive Stock:เราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (ช่วง 2H62 คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มโตต่อ หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถ มินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.
• กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoY และช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำ SAWAD (คาดกำไรปี 62 โต 30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20-30% และอีก 300 สาขา, Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลัง Tender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (คาดปี 62 เห็นการ Turnaround ของกำไรหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นจากการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่), III (ช่วง 2Q62 กำไรโต 45.8%YoY หนุนด้วยธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ บวกกับมีส่วนแบ่งกำไรที่โต 364%YoY จากธุรกิจที่เข้าซื้อกิจการสิงคโปร์และฮ่องกงในปี 61-62 ตามลำดับ), ARROW (ช่วง 2H62 คาดกำไร ฟื้นตัวหลังมาร์จิ้นเหล็กดีขึ้นตามต้นทุนเหล็กที่ลดลงและราคาขายที่ดี คาดหนุนกำไรทั้งปีโต 10.3%YoYบวกกับมี Backlog 1.1 พัน ลบ. และมีโอกาสได้งานใหม่ๆ เพิ่ม)
• หุ้นกลุ่ม ร.พ.ขนาดกลางที่คาดกำไรช่วง 3Q62 โตเด่น เข้าสู่ High Season: BCH (ช่วง 3Q62 คาดกำไรโตทั้ง QoQ, YoY หนุนด้วยการเข้าสู่ช่วง High Season บวกกับการบันทึกรายได้ส่วนเพิ่มของภาระเสี่ยงขณะที่ผู้ป่วยตะวันออกกลางคาดกลับมาฟื้นตัวหลังมีการเพิ่ม ชม.การทำงานของแพทย์ด้านเบาหวาน, CHG (ช่วง 2H62 คาดกำไรโต YoY หนุนด้วยสัญญาณฟื้นตัวจาก รพ.ที่เพิ่งเปิดใหม่ทั้ง รพ.จุฬารัตน์ 304 อินเตอร์ และ รพ.รวมแพทย์ฉะเชิงเทรา บวกกับอาจมีการขอเพิ่มสัดส่วนโควต้าประกันสังคมหลังมีผู้ประกันตนราว 432,640 คน (จากโควต้า 440,000 คน)
• หุ้นที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการ IMO2020 : TOP (แม้คาดกำไรช่วง 3Q62 จะอ่อนตัว QoQ จากการปิดซ่อมโรงงาน แต่คาดฟื้นกลับมาในช่วง 4Q62 หลังโรงงานที่ปิดซ่อมกลับมาผลิตดำเนินการ บวกกับค่าการกลั่นที่ดีขึ้นต่อเนื่องในช่วงฤดูหนาวปลายปี)
• หุ้นที่คาดกำไรช่วง 3Q62 โตทั้ง YoY และ QoQ และทั้งปี 62 ยังโตเด่น: SSP, BPP, GFPT, JWD, SABINA, S11
15-Oct-19 Change (pts.) 11-Oct-19
SET Index 1,627.01 1.01 1,626.00
SET50 Index 1,085.38 1.61 1,083.77
SET100 Index 2,389.53 2.35 2,387.18
High 1,633.89 Gainers 609
Low 1,621.73 Unchanged 469
Value (Bt m) 51,061.42 Losers 869
Volume (*000) 19,268,739
Market Valuation
SET Data 2019F 2020F Long Term
Fwd PER (x) 16.5 14.8 14.8
EPS Growth (%) 13.9 9.3 -1.6
EV/EBITDA (x) 0.0 0.0 0.0
FWD PBV (x) 1.8 1.7 1.6
Dividend Yield (%) 3.1 3.4 3.7
ROE 10.5 10.8 10.8
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 15-Oct-19 WTD MTD YTD
Institution 662.99 662.99 (2,740.11) 21,514.94
Proprietary 145.92 145.92 (921.82) 12,574.36
Foreign (831.18) (831.18) (4,679.60) (9,908.44)
Individual 22.26 22.26 8,341.52 (24,180.86)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary