WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

DBSบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“การเมือง-เศรษฐกิจสหรัฐไม่สดใส ไทย-ส.ค.ชะลอ”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --ภาวะตลาดและปัจจัย : SET วานนี้ +8.37 จุด ปิดที่ 1636.75 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบางเป็น 47.3 พันล้านบาท ดัชนีฯบ้านเราสะท้อน เจรจาการค้าทรัมป์ส่งสัญญาณดีขึ้น หุ้น ADVANC ซื้อขายคึกคักรับข่าวดี และเก็งกำไรหุ้น ชิมช็อปใช้ ผู้ขายสุทธิคือ รายย่อย สถาบัน และโบรกเกอร์ ส่วนซื้อสุทธิรายเดียวเป็นต่างชาติตั้งแต่ต้นเดือนถึงปัจจุบันต่างชาติขายสุทธิเป็น 8.7 พันล้านบาท ด้านแนวโน้มตลาดและกลยุทธ์คือ
# ปัจจัยสำคัญ: การเมือง ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐไม่สดใส เศรษฐกิจไทย ส.ค. ชะลอ มีผู้ให้เบาะแสทรัมป์ทำผิดการเมือง ตัวเลขทบทวน GDP ไตรมาส 2 และจำนวนขอรับสวัสดิการว่างงานไม่สดใส ส่วนไทยตัวเลข ส.ค.การใช้จ่าย ส่งออก ชะลอ แต่ที่ดีคือ ท่องเที่ยวและเกษตร ราคาน้ำมันอ่อนตัวลง ซาอุฟื้นเร็วกว่าคาด เข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย เช่นทองคำ พันธบัตรสหรัฐ ดัชนีความกังวลเพิ่ม ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านเช้านี้ Mix ทั้งบวกและลบ ด้านปัจจัยบวกคือ จีนนำเข้าสินค้าสหรัฐเพิ่มชิมช็อปใช้ได้รับความนิยมสูง และมี Window Dressing
# ระยะสั้นคาด SET- Sideways ต่างประเทศไม่สดใส แต่ Window Dressing ช่วยค้ำ เจรจาการค้ายังวางใจไม่ได้ การลงทุนเน้นหุ้น Defensive ส่วน ชิม-ช็อป-ใช้ ดีต่อธุรกิจอาหาร พาณิชย์ และโรงแรม การปล่อยสินเชื่อธนาคาร YTD โตน้อย KKP เด่น แต่ BBL แย่ คาด SET ซื้อขายในกรอบ 1620-1650 จุด แนวต้านเป็น1640-1650 จุด แนวรับอยู่ที่ 1620-1610 จุด การเข้าเก็งกำไรควรเข้าไว-ออกไว กลยุทธ์ คือ เลือกลงทุนทยอยสะสม เป็นรายกลุ่มและรายตัว (Selective)ตาม Theme หุ้นได้ประโยชน์มาตรการรัฐ-CPALL,BJC,AMATA,WHA,CK,STEC เกณฑ์ TFRS9- BBL,KBANK ดอกเบี้ยขาลง- DIF,AIMIRT,HREIT,DREIT (เพิ่มทุนสำเร็จ) ปันผลสูง- KKP,TISCO,LALIN,SC หุ้น DEFENSIVE- ADVANC,BTS,BEM อุปโภค-บริโภค ได้ประโยชน์ IMO 2020- TOP ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัว-AOT,ERW,MINT ปัจจัยเด่นเฉพาะตัว FPT,IVL,NOBLE,PF,VGI,UV
# Stock Pick Today : TCAP ฝ่ายวิจัยฯ DBS ชอบ TCAP เพราะการควบรวม TMB กับ TBANK ครั้งนี้เป็นการ Unlock Value (ตีมูลค่าหุ้นได้สูงกว่าราคาที่ตลาดให้ไว้) และหลังปรับโครงสร้างกิจการ TCAP จะมี ROE สูงขึ้น และโครงการซื้อหุ้นคืนวงเงินไม่เกิน 5 พันล้านบาท & จ่ายปันผลพิเศษ 4 บาท/หุ้น จะช่วยหนุนราคาหุ้นTCAP ในระยะสั้นได้ (คาดว่าจะจ่ายปันผลจริงราวเดือนก.พ.63) รวมปันผลดำเนินงานปีนี้ที่คาดไว้คือ 2.40 บาท ปันผลรวมปีนี้จะสูงเป็น 6.40 บาท คิดเป็นผลตอบแทนปันผลรวมที่ 11.3% ถือว่ามากทีเดียว ราคาพื้นฐานเป็น 59.50 บาทแนะนำ ถือ แต่ราคาปิดยังมีส่วนเพิ่ม 4% จึงอาจเก็งกำไรระยะสั้นได้
การวิเคราะห์ทางเทคนิค: ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เป็นบวกเล็กๆ {“ปิดบวก”ใต้“SMA10วัน”ต่อ (โดยยังคงถูกกดดันจาก“โครงสร้างขาลง –ระยะกลาง”)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบให้น้ำหนักกับการลง แต่“ค่าบวก” (มี Oversold ในกราฟรายนาที(เดิม)“หนุน”) จะทำให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1640 (หรือ 1645 – 1650) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1630” (แนวรับย่อย “1620 – 1610 หรือ 1590” จุด} หุ้นที่มีสัญญาณบวกทางเทคนิคหรือมีโอกาสทำ New High มีดังนี้ หุ้นที่เข้ามาใหม่คือ KKP,SAWAD,BGRIM,STEC,PLANB,CHG หุ้นที่ยังอยู่ใน List EPCO,SISB,DIF,GFPT, JMT, CPALL หุ้นที่หลุด List BBL,TU,PSL และหุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take Profit ไม่มี
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Industry Focus : อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและเดินทาง
Flash Note : WHA (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 5.46)
CHG (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 2.70)
In The News : JASIF (ถือ -ราคาพื้นฐาน 11.30)
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
- การเมืองสหรัฐ: มีผู้แจ้งเบาะแสกล่าวโทษทรัมป์ติดต่อรัฐบาลต่างชาติแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ
# นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในสหรัฐ หลังจากคณะกรรมาธิการข่าวกรองประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้เผยแพร่รายงานของผู้แจ้งเบาะแสรายหนึ่งที่ได้กล่าวโทษปธน.ทรัมป์กรณีติดต่อรัฐบาลต่างชาติเพื่อให้แทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ โดยรายงานระบุว่า ปธน.ทรัมป์ได้ใช้อำนาจในขณะดำรงตำแหน่งเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลต่างชาติเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2563
# รายงานฉบับนี้ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการที่ปธน.ทรัมป์ได้โทรศัพท์หานายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนเมื่อวันที่ 25 ก.ค. ซึ่งปธน.ทรัมป์ได้กดดันให้นายเซเลนสกีทำการสอบสวนนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ และบุตรชายของเขา ซึ่งมีการทำธุรกิจในยูเครน
+ เจรจาการค้า: จีนสั่งซื้อถั่วเหลือง และเนื้อสุกรจำนวนมากจากสหรัฐ
# อย่างไรก็ดี การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ส่งสัญญาณด้านบวกนั้นได้ช่วยสกัดปัจจัยลบในตลาดได้ในระดับหนึ่ง โดยนายเกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน เปิดเผยล่าสุดว่า บริษัทจีนได้ทำข้อตกลงในการสั่งซื้อถั่วเหลืองและเนื้อสุกรจำนวนมากจากสหรัฐ โดยคำแถลงของนายเกามีขึ้นหลังจากที่แหล่งข่าวระบุก่อนหน้านี้ว่า จีนได้สั่งนำเข้าถั่วเหลืองจำนวน 600,000 ตันจากสหรัฐ ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณบวกต่อการบรรลุข้อตกลงการค้าในการเจรจาในระดับรัฐมนตรีระหว่างสหรัฐและจีนที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า
- สหรัฐ: ตัวเลขทบทวน GDP ประจำไตรมาส 2/2562 ชะลอตัวลง มีการยื่นขอสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้น
# ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3ของตัวเลข GDP ประจำไตรมาส 2/2562 ที่ระดับ 2.0% ซึ่งชะลอตัวลงจากไตรมาส 1 ที่มีการขยายตัว 3.1% และ 2.6%ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้
# ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 3,000 ราย สู่ระดับ 213,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 212,000 ราย
+ สหรัฐ: ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย ส.ค.เพิ่มขึ้น
# สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ(NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เพิ่มขึ้น 1.6% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากลดลง 2.5% ในเดือนก.ค.
- ดัชนีหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ปรับลง กังวลการเมืองสหรัฐ และ GDP ไตรมาส 2
# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,891.12 จุด ลดลง 79.59 จุด หรือ -0.30% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่2,977.62 จุด ลดลง 7.25 จุด หรือ -0.24% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,030.66 จุด ลดลง 46.72 จุด หรือ -0.58%
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 ก.ย.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับทิศทางการเมืองในสหรัฐ หลังมีการเผยแพร่รายงานของผู้แจ้งเบาะแสซึ่งกล่าวหาว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ใช้อำนาจในทางมิชอบเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ชะลอตัวลงในไตรมาส 2
- น้ำมัน: WTI ปรับลง การผลิตซาอุฟื้นตัวเร็วกว่าคาด
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ขยับลง 8 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 56.41 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 35 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 62.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 ก.ย.) หลังจากมีรายงานว่าการผลิตน้ำมันในซาอุดีอาระเบียฟื้นตัวรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบ WTI ขยับลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ดีดขึ้นปิดในแดนบวก เนื่องจากตลาดได้ปัจจัยหนุนจากรายงานที่ว่า สหรัฐเตรียมส่งทหารและยุทโธปกรณ์ด้านกลาโหมเข้าไปประจำการในซาอุดีอาระเบีย หลังจากโรงงานน้ำมันสองแห่งในซาอุดีอาระเบียถูกโจมตีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
- ทองคำ: ปรับขึ้น วิตกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในสหรัฐ รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.9 ดอลลาร์ หรือ 0.19% ปิดที่1,515.2 ดอลลาร์/ออนซ์
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกลับเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐอ่อนแรงลง ท่ามกลางความวิตกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในสหรัฐ รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
• ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ทยอยประกาศสัปดาห์นี้
# ส่วนในวันนี้ สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนส.ค., การใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนส.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
-/+ คลังเผยศก.ไทยส.ค.การใช้จ่าย-ส่งออกชะลอตัว ท่องเที่ยวขยายตัวสูงสุดใน 8 เดือน ภาคเกษตรยังโตต่อเนื่อง
# นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนสิงหาคม ปี 2562 พบว่าในด้านการใช้จ่ายมีสัญญาณชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะการส่งออกสินค้า อย่างไรก็ตาม ในด้านการผลิตมีการปรับตัวดีขึ้น ส่วนในภาคการท่องเที่ยวจากต่างประเทศกลับมาขยายตัวสูงสุดในรอบ 8 เดือน บวกกับการขยายตัวได้ต่อเนื่องของภาคการเกษตร ส่วนเสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี ทั้งนี้ ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิดต่อไป สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ก.ย. 62)
• คาด กนง.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายใน 4Q62 เป็นครั้งสุดท้าย
# ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ประเมินว่า การที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในรอบนี้เพื่อต้องการรอดูสถานการณ์ก่อน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ กนง.จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงมาที่ 1.25% ในช่วงปลายปีโดยเฉพาะ ถ้าเศรษฐกิจยังมีแนวโน้มขาลง และคาดว่าการปรับลดดอกเบี้ยในไตรมาส 4/2562 น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายของการปรับลดดอกเบี้ยในรอบนี้
+ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชิมช็อปใช้ ได้รับความนิยมสูง
# รมว.คลัง เปิดเผยว่า รับรายงานถึงลงทะเบียนตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชิมช็อปใช้ ในวันที่ 25 ก.ย.62เป็นวันลงทะเบียนเป็นวันที่ 3 พบว่าประชาชนให้ความสนใจเข้ามาลงทะเบียนตั้งแต่เปิดให้ลงทะเบียนเวลา 00.01 ผ่านwww.ชิมช็อปใช้.com ทำให้ยอดลงทะเบียนครบ 1 ล้านคน เวลา 06.18 น.ถือว่าเร็วกว่า 2 วันแรกมาก
# ผลกระทบ: เป็นบวกกับห้างที่เข้าร่วม แต่ได้เพียงบางสาชา เช่น เซ็นทรัล โรบินสัน BIGC และ โลตัส
-BBL: NPL เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 3.4% และมีแนวโน้มปรับขึ้น เพราะมี NPL ไหลกลับ
# ประธานกรรมการบริหาร ธนาคาร กรุงเทพ เปิดเผยว่าจากปัญหาเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นส่งผลให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ยังปรับตัวเพิ่มขึ้น โดย 3 กลุ่มที่ต้องติดตามประกอบด้วย ภาคการเกษตรอุตสาหกรรมและอสังหาริมทรัพย์ "เอ็นพีแอลของธนาคารอยู่ที่ 3.4% ของสินเชื่อรวม แต่ยังเพิ่มขึ้น เพราะมีเอ็นพีแอลไหลกลับ โดยอยู่ในกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี รายใหญ่ และต่างประเทศที่ได้รับผลกระทบจากส่งออก"
# ผลกระทบ: BBL มีสินเชื่อเติบโตแย่สุด -4.2% YTD ในระบบ สินเชื่อรายใหญ่ในประเทศ สินเชื่อ SME และสินเชื่อรายย่อยลดลง ขณะที่สินเชื่อในต่างประเทศขยายตัวได้ ข่าว NPL และ การเติบโตสินเชื่ออาจกดดันหุ้นระยะสั้น แต่ในแง่การประเมินมูลค่าหุ้น พบว่าไม่แพง แนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐาน 250.00 บาท
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!