WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

logo aceบล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
•    วันนี้คาด SET Index ลุ้นรีบาวด์หลังมีการกำหนดวันเจรจาประเด็นสงครามการค้าช่วง 10-11 ต.ค.นี้ คาดสร้าง Sentiment เชิงบวกต่อตลาดระยะสั้น ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ ประเมินการรีบาวด์จำกัดที่แนวต้าน 1,645 และ 1,650 จุด ตามลำดับ
•    Market Factor
•    (+) การเจรจาการค้าได้กำหนดวันแล้วโดยจะมีการเจรจากันในวันที่ 10-11 ต.ค. ที่กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐฯ โดยจะมีนาย หลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีนเป็นตัวแทนในการเข้าร่วมเจรจาจากทางฝั่งจีน
•    (-) ตัวเลข GDP สหรัฐฯ ช่วง 2Q62 ประกาศออกมาที่ระดับ 2%QoQ ต่ำกว่าช่วง 1Q62 ที่ระดับ 3.1%QoQ อย่างไรก็ดียังอยู่ในระดับที่ตลาดคาดและเท่ากับประมาณการ GDP ครั้งที่ 2 ที่ออกช่วงเดือน ส.ค.
•    (-) สศค.เผยอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลจากเหตุความเสียหายปัญหาอุทกภัยหลายพื้นที่ในภาคอีสาน  เพื่อประกอบการพิจารณาการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจปี 2562 ใหม่ภายในเดือน ต.ค.นี้ ประกอบกับเศรษฐกิจโลกชะลอตัวกระทบภาคการส่งออกของไทย โดยตัวเลขการส่งออก 8 เดือนแรก ของปี ติดลบร้อยละ 2.2 จากเป้าทั้งปี 2562 ที่วางไว้ลบร้อยละ 0.9 (แนวหน้า)
•    Consensus ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 115.14 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 99.06 บาท หรือลดลง 13.97%YTD
•    Update Flow เมื่อวานนี้ต่างชาติพลอกซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 318.32 ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD ต่างชาติขายสุทธิอยู่ที่ 8,736.69 ลบ.(ขณะที่รายย่อยและสถาบันซื้อสุทธิรวมกัน 6,784.94 ลบ.)
•    Investment Strategy
•    วันนี้ถึงสัปดาห์หน้า เราคาด SET Index จะมีสัญญาณรีบาวด์ เพื่อกลับมาแกว่งในกรอบ 1,630-1,660 จุด หนุนโดยการกำหนดวัน เจรจาเรื่อง Trade war สหรัฐฯ-จีน แต่อย่างไรก็ดี เรามองตลาดสัปดาห์หน้ายังคง Sideway เพื่อติดตามประเด็นหลักจากการเจรจาดังกล่าว ขณะที่ประเด็นบวกในไทยยังต้องติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจากครม.เศรษฐกิจในวันนี้และสัปดาห์หน้า เรามองการรีบาวด์ครั้งนี้เป็นเพียงการรีบาวด์ในช่วงสั้นแนะนำนักลงทุนที่ทยอยรับหุ้นมาก่อนหน้านื้ทยอยขายทำกำไรหุ้นที่ปรับขึ้นมาบางส่วน นอกจากนี้ในภาพการลงทุนจนถึงสิ้นปี เรายังคงแนะนำให้     นักลงทุนทยอยเก็บหุ้น 4 กลุ่ม ดังนี้
•    หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้นศก.ของรัฐฯ: แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ BJC (ช่วง  2H62 คาดเห็นการฟื้นตัวHoHจากการขยายสาขาBigCมากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขาและสาขาที่กัมพูชา 1 สาขา BigC Food Place 1 สาขาและ Mini BigC ราว 200 สาขา), SEAFCO (แม้ช่วง 2H62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พัน ลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่นลบ.), CPALL (ช่วง 3Q62 แม้เข้าสู่ Low Season แต่ด้วยการจัดโปรโมชั่น แสตมป์จัดหนักกระตุ้นยอดขาย และการได้ประโยชน์จากฐานที่ต่ำของปีก่อนจะหนุน SSSG เติบโตต่อเนื่อง พร้อมยังคงเป้าขยายสาขาร้านสะดวกซื้อปีนี้ที่ 700 สาขา), ERW (ช่วง 2H62 หลังคาดฟื้นตัวจากปัจจัยฤดูกาล บวกกับการกลับมาเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม.และมีสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดือน ส.ค. โต 15.6%YoY)
•    กลุ่ม Defensive Stock: เราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (ช่วง 2H62 คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มโตต่อ หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถมินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.
•    กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoYและช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำSAWAD (คาดกำไรปี62 โต 30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต20-30% และอีก 300 สาขา,  Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลัง Tender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (คาดปี 62 เห็นการ Turnaround ของกำไรหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นจากการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่), III (ช่วง 2Q62 กำไรโต 45.8%YoY หนุนด้วยธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ บวกกับมีส่วนแบ่งกำไรที่โต 364%YoY จากธุรกิจที่เข้าซื้อกิจการสิงคโปร์และฮ่องกงในปี 61-62 ตามลำดับ), ARROW (ช่วง 2H62 คาดกำไรฟื้นตัวหลังมาร์จิ้นเหล็กดีขึ้นตามต้นทุนเหล็กที่ลดลงและราคาขายที่ดี คาดหนุนกำไรทั้งปีโต 10.3%YoY บวกกับมี Backlog 1.1 พัน ลบ. และมีโอกาสได้งานใหม่ๆ เพิ่ม)
•    หุ้นที่ได้ประโยชน์จากน้ำท่วมในภาคเหนือ/อีสาน: เราเลือก DOHOME, GLOBAL, DCC
Trading Idea
•    หุ้นกลุ่ม ร.พ.ขนาดกลางที่คาดกำไรช่วง 3Q62 โตเด่น และเข้าสู่ High Season : เราเลือก BCH, CHG
    26-Sep-19    Change (pts.)    25-Sep-19
SET Index    1,636.75    8.37    1,628.38
SET50 Index    1,088.50    6.97    1,081.53
SET100 Index    2,398.38    15.58    2,382.80
 
High    1,638.26    Gainers    897
Low    1,630.81    Unchanged    476
Value (Bt m)    47,265.17    Losers    616
Volume (*000)    16,246,131         
Market Valuation
SET Data    2019F    2020F    Long Term
Fwd PER (x)    16.5    14.9    14.9
EPS Growth (%)    13.9    9.3    -0.9
EV/EBITDA (x)    12.7    11.6    11.0
FWD PBV (x)    1.8    1.7    1.6
Dividend Yield (%)    3.1    3.3    3.6
ROE    10.5    10.7    10.9
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt    26-Sep-19    WTD    MTD    YTD
Institution    126.63    (421.56)    (6,322.38)    26,096.26
Proprietary    (8.91)    (1,923.48)    1,951.74    9,360.37
Foreign     318.32    (2,383.41)    (8,736.70)    (2,307.75)
Individual    (182.79)    4,728.44    13,107.35    (33,148.88)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
จิรภัทร  โบสุวรรณ (ID. 040051)    [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932)    [email protected]
ธีรยุทธ  ฤทธิเผ่าพันธุ์    ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์    Data Support / Secretary

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!