- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 26 September 2019 15:46
- Hits: 1278
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“เจรจาการค้าดีขึ้น หุ้นเพื่อนบ้านบวก”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
ภาวะตลาดและปัจจัย : SET วานนี้ -2.12 จุด ปิดที่ 1628.38 จุด มูลค่าการซื้อขายบางลงเป็น 44.9 พันล้านบาท ดัชนีฯบ้านเราปรับลงเหมือนเพื่อนบ้าน ปัจจัยต่างประเทศไม่สดใส เรื่องการเมืองสหรัฐ และเจรจาการค้า ผลประชุม กนง.คงอัตราดอกเบี้ย แต่ปรับลด GDP ไทย ผู้ขายสุทธิคือ โบรกเกอร์ และต่างชาติ ส่วนซื้อสุทธิเป็นรายย่อย และสถาบัน ตั้งแต่ต้นเดือนถึงปัจจุบันต่างชาติขายสุทธิเพิ่มเป็น 9.1 พันล้านบาท ด้านแนวโน้มตลาดและกลยุทธ์คือ
# ปัจจัยสำคัญ: เจรจาการค้าทรัมป์ส่งสัญญาณดีขึ้น กนง.คงอัตราดอกเบี้ย แต่ลดเป้า GDP เจรจาการค้าและตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ที่ดีช่วยลดความกังวลสภาเตรียมถอดถอนทรัมป์ ดาวโจนส์ปรับขึ้นดี แต่น้ำมันกลับมาปรับลง เช้านี้ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านส่วนใหญ่บวก ดัชนีความกังวลลดลงเป็น 15.9 จุด ทองคำลงแรง เข้าหาสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น สำหรับไทย กนง.คงดอกเบี้ย ตลาดตีความว่าการลดดอกเบี้ยไม่ช่วยทำให้บาทอ่อน การลด GDP ภาวะส่งออก-เศรษฐกิจไทยยังอ่อนแอ ติดตามWindow Dressing และขายหุ้นไปจอง AWC
# ระยะสั้นคาด SET- บวกมากขึ้น เรื่องเจรจาการค้า และ Window Dressing หนุน การลงทุนเน้นหุ้น Defensive ส่วน ชิม-ช็อป-ใช้ ดีต่อธุรกิจอาหาร พาณิชย์ และโรงแรม กรณีเร ่งลงนามรถไฟฟ้าเชื่อมสามสนามบิน มีผลต่อหุ้นใน JV คาด SET ซื้อขายในกรอบ 1600-1640 จุด แนวต้านเป็น 1635-1640 จุด แนวรับอยู่ที่ 1620-1610 จุดยังต้องระมัดระวังในการเข้าเก็งกำไร กลยุทธ์ คือ เลือกลงทุนทยอยสะสม เป็นรายกลุ่มและรายตัว (Selective) ตาม Theme หุ้นได้ประโยชน์มาตรการรัฐ-CPALL,BJC,AMATA,WHA,CK,STEC เกณฑ์ TFRS9- BBL,KBANK ดอกเบี้ยขาลง- DIF,AIMIRT,HREIT,DREIT (เพิ่มทุนสำเร็จ) ปันผลสูง- KKP,TISCO,LALIN,SC หุ้นDEFENSIVE- ADVANC,BTS,BEM อุปโภค-บริโภค ได้ประโยชน์ IMO 2020- TOP ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัว- AOT,ERW,MINT ปัจจัยเด่นเฉพาะตัว FPT, IVL,NOBLE, PF,VGI,UV
# Stock Pick Today : GFPT ความต้องการบริโภคไก่เพิ่มขึ้นหลังเกิดโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกร (ASF) ทั้งนี้ส่งออกไก่ไทย 7M62 เติบโต +9.8%YoY ส่งออกไก่ไปจีนยังคงแข็งแกร่ง โดยคาดการณ์กำไรสุทธิ 3Q62F จะเติบโตได้ YoY และ QoQ หนุนโดย 1) ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ทั้งข้าวโพดและกากถั่วเหลืองลดลง, 2) ราคาไก่ในประเทศทรงๆที่ 36-37 บาท/กก. ราคาส่งออกก็ใกล้เคียงกับ 2Q62, 3) ปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ (ไตรมาส 3 เป็น High season ของการส่งออก) โดยการเติบโตมาจากการส่งออกไปจีน คงคำแนะนำซื้อ GFPT ให้ราคาพื้นฐาน 20.10 บาท
การวิเคราะห์ทางเทคนิค: ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators “ไม่บวก” แต่ก็ไม่ชัดเจนว่าจะ“เป็นลบ”ทันทีเช่นกัน {“ปิดลบ”ใต้“SMA10วัน” แต่“ไม่ปิดต่ำ” (โดยยังคงถูกกดดันจาก“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบให้น้ำหนักกับการลง แต่“ค่าบวก” (มี Oversold ในกราฟรายนาที(เดิม)“หนุน”) อาจจะช่วยให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1635 – 1640 (หรือ 1650) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1625” (แนวรับย่อย “1620 – 1610หรือ 1590” จุด} หุ้นที่มีสัญญาณบวกทางเทคนิคหรือมีโอกาสทำ New High มีดังนี้ หุ้นที่เข้ามาใหม่คือ JMT,CPALL หุ้นที่ยังอยู่ใน List EPCO,SISB,BBL,DIF,TU, GFPT,PSL หุ้นที่หลุด List NOBLE และหุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take Profit ไม่มี
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Industry Focus : กลุ่มธนาคารพาณิชย์
Key Takeaways: PLE (Not Rated)
In The News : ADVANC : ทำสัญญาระงับข้อพิพาทและซื้ออุปกรณ์ในระบบ 2G กับ TOT
New Listing : B-W5
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ เจรจาการค้า: ปธน.ทรัมป์ให้สัญญาณดีขึ้น
# นักลงทุนมีความหวังเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากปธน.ทรัมป์กล่าวเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐจะสามารถทำข้อตกลงการค้ากับจีนเร็วกว่าที่คาดไว้
# ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ได้กล่าวแสดงความเห็นว่า "จีนจะไม่มีทางตามเราทัน ถ้าเรามีผู้นำที่ฉลาด เรามีรายได้เข้ามาหลายล้านล้านดอลลาร์ และพวกเขาสูญเสียหลายล้านล้านดอลลาร์ ทำให้พวกเขาต้องการทำข้อตกลงเป็นอย่างมาก โดยสิ่งนี้จะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คุณคิดไว้"
+ สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ ส.ค.ออกมาสดใส
# นักลงทุนยังขานรับรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐซึ่งระบุว่า ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 7.1% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 713,000 ยูนิต และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 660,000 ยูนิต โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวลงของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง
+/- การเมืองสหรัฐ: แม้สภาสหรัฐเตรียมถอดถอน"ทรัมป์" แต่การเจรจาการค้าดีขึ้นช่วยผ่อนบรรยากาศ
# นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์โรเบิร์ต ดับเบิลยู เบียด กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและมุมมองบวกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ได้ช่วยสกัดปัจจัยลบจากความผันผวนด้านการเมืองในสหรัฐ หลังจากประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ประกาศเริ่มกระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่ง หลังจากมีรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับผู้นำยูเครน เพื่อกดดันให้มีการสอบสวนนายโจ ไบเดน ซึ่งเป็นคู่แข่งคนสำคัญของปธน.ทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยหน้า โดยการกระทำดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการเปิดทางให้รัฐบาลต่างชาติเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ
+ ดัชนีหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ปรับขึ้น ทรัมป์เชื่อมั่นสหรัฐจะสามารถทำข้อตกลงการค้าเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,970.71 จุด เพิ่มขึ้น 162.94 จุด หรือ +0.61% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่2,984.87 จุด เพิ่มขึ้น 18.27 จุด หรือ +0.62% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,077.38 จุด เพิ่มขึ้น 83.76 จุด หรือ +1.05%
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า สหรัฐจะสามารถทำข้อตกลงการค้ากับจีนเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นไนกี้ และรายงานยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนส.ค.
- น้ำมัน: ปรับลง สต็อกมาก และการผลิตซาอุฟื้นตัวเร็ว
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 80 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 56.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 71 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 62.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังปรับตัวลงจากรายงานที่ว่า การผลิตน้ำมันในซาอุดีอาระเบียฟื้นตัวรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
+ ทองคำ: ลงแรง หลังตลาดหุ้นสหรัฐดีดแรง
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ดิ่งลง 27.90 ดอลลาร์ หรือ 1.81% ปิดที่1,512.30 ดอลลาร์/ออนซ์
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นอีกปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ
• ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ทยอยประกาศสัปดาห์นี้
# นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2562, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pendinghome sales) เดือนส.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนส.ค., การใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนส.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
• กนง.คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ปรับลด GDP จากการส่งออกชะลอตัวกว่าคาด
# คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี ซึ่งการตัดสินนโยบายในครั้งนี้ คณะกรรมการฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 62 มีแนวโน้มขยายตัว 2.8% ต่ำกว่าที่ประเมินไว้ที่ 3.3%จากการส่งออกที่คาดว่าจะหดตัวกว่าคาด ซึ่งส่งผลไปสู่อุปสงค์ในประเทศ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ ภาวะการเงินโดยรวมยังอยู่ในระดับผ่อนคลาย เสถียรภาพระบบการเงินได้รับการดูแลไปแล้วบางส่วน แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม
-ศูนย์วิจัยฯ ธนาคารกสิกรไทย ปรับลดมุมมองการส่งออกของไทยในปีนี้จะหดตัว จากเดิมที่คาดว่าจะทรงตัว
# ผู้บริหารงานวิจัยงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย ปรับลดมุมมองการส่งออกของไทยในปีนี้จะหดตัวจากเดิมที่คาดว่าจะทรงตัว หรือมีอัตราเติบโตเป็น 0% ในปีนี้ธนาคารฯ คาดว่าเงินบาทเฉลี่ยจะอยู่ที่ระดับ 30.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยจะไม่แข็งค่าไปมากกว่า 30 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่เงินบาทก็ยังมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง โดยธนาคารมองว่าการใช้นโยบายทางการเงินในการเข้ามาช่วยทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าในปัจจุบันเริ่มมีข้อจำกัดและเริ่มใช้ไม่ได้ผล เห็นได้จากการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในการประชุมเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา เงินบาทก็ปรับอ่อนค่าได้เพียงช่วงหนึ่ง แต่หลังจากนั้นก็กลับมาแข็งค่าเหมือนเดิม
+ ADVANC ทำสัญญาระงับข้อพิพาทและซื้ออุปกรณ์โทรคมนาคมในระบบ 2G กับทีโอที
# ADVANC แจ้งว่า วานนี้บริษัทได้เข้าทำสัญญาระงับข้อพิพาทและซื้อขายอุปกรณ์โทรคมนาคมในระบบ 2G ระหว่างบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) โดยทีโอทีและ AWN ตกลงระงับข้อพิพาทเกียวกับอุปกรณ์โทรคมนาคมในระบบ 2G
ทั้งนี้ AWN ตกลงชำระเงินให้แก่ทีโอทีตามที่เรียกร้องรวมดอกเบี้ยเป็นจำนวนทั้งสิ้น 680 ล้านบาท โดยบริษัทได้มีการบันทึกค่าใช้จ่ายจากยอดดังกล่าวไว้ในงบการเงินตั้งแต่เดือน ต.ค.58-มิ.ย.59 เป็นจำนวน 559 ล้านบาทแล้ว
# นอกจากนี้ AWN ตกลงซื้ออุปกรณ์โทรคมนาคมในระบบ 2G จากทีโอที รวมทั้งชำระค่าใช้อุปกรณ์ระหว่างเดือน ก.ค.-ส.ค.62 เป็นมูลค่ารวมประมาณ 250 ล้านบาท
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]