- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 25 September 2019 20:42
- Hits: 2659
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------------
Market Outlook
• วันนี้คาด SET Index คาดพักตัว ตามความเสี่ยงปัจจัยตปท.ที่เพิ่มขึ้นจากทั้งประเด็นท่าทีของผู้นำสหรัฐฯ ต่อประเทศคู่พิพาท Trade War ขณะที่ปัจจัยในประเทศติดตามผลการประชุมของ กนง.ต่อท่าทีการกำหนดนโยบายอัตราดอกเบี้ยนโยบายวันนี้ ประเมินกรอบการเคลื่อไหวที่1,620-1,635 จุด
• Market Factor
• (0) ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ นางแนนซี เพโลซี ไต่สวน นายโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อให้พ้นจากตำแหน่ง ปธน.กรณีให้ยูเครนแทรกแซงการเลือกตั้งเพื่อกดดันผู้สมัครที่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดี อย่างไรก็ดีจากข้อมูลอดีตยังไม่เคยมี ปธน.คนใดถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งมาก่อน บวกกับพรรครีพับลิกันที่ทรัมป์สังกัดอยู่ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาและต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ของวุฒิสภาเพื่อลงมติ
• (-) สัญญาน้ำมัน WTI และ Brent วานนี้ปรับลง 1.9%DoD แล 2.0%DoD ตามลำดับ หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาจีนที่ทำการค้าไม่เป็นธรรมในการประชุม UN บวกกับสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานซาอุฯสามารถฟื้นฟูกำลังการผลิตน้ำมันได้แล้วมากกว่า 75% หลังจากที่ถูกโจมตี
• (-) ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯเดือน ก.ย.ลดลงสู่ระดับ 125.1 จากเดือน ส.ค.ที่ระดับ 134.2 (ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดที่ 133.5)
• (-) สศอ. เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ส.ค.62 อยู่ที่ระดับ 100.58 หดตัว 4.4%YoY จากแนวโน้มเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ชะลอตัวต่อเนื่อง (อินโฟเควสท์)
• (-) กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยจำนวนผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศเดือน ส.ค.62 อยู่ที่ 5,973 ราย ลดลง 8%MoM และ 7%YoY ขณะที่จำนวนธุรกิจ เลิกกิจการ อยู่ที่ 1,755 ราย เพิ่มขึ้น 10%MoM ลดลง 1%YoY ทั้งนี้หากคิดเป็นด้านทุนจดทะเบียนเลิกกิจการ คิดเป็นมูลค่า 28,933 ลบ.เพิ่มขึ้น 250%MoM และ 180%YoY (กรุงเทพธุรกิจ)
• (watch) ติดตามผลการประชุมของ กนง.ช่วงบ่ายวันนี้ต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
• Consensus ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 115.14 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 99.0บาท หรือลดลง 14.02%YTD
• Update Flow เมื่อวานนี้ต่างชาติคงขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยอีก 960.94 ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD ต่างชาติขายสุทธิรวม 8,878.74ลบ.(ขณะที่รายย่อยและสถาบันซื้อสุทธิรวมกัน 6,088.74 ลบ.)
• Investment Strategy
• สัปดาห์นี้ เราประเมิน SET Index ซึมลงต่อในกรอบ 1,610-1,640 จุด หลังขาดปัจจัยหนุนใหม่จากต่างประเทศ ขณะที่มีประเด็นที่ต้องติดตามในเรื่อง Trade war ที่จะมีการเจรจาในช่วงต้นเดือนหน้าบวกกับติดตามผลประชุม กนง. (ล่าสุดนักเศรษฐศาสตร์ 12 ท่าน จาก Bloomberg Consensus มองแบงก์ชาติยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.5%)อย่างไรก็ดีอาจมีประเด็นหนุนจากการทำ Window Dressing ในช่วงปลายสัปดาห์ ดังนั้นในช่วงที่ตลาดปรับลง เราแนะนำให้นักลงทุนทยอยเก็บหุ้น 4 กลุ่ม ดังนี้
• หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้น ศก.ของรัฐฯ: แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ BJC (ช่วง 2H62 คาดเห็นการฟื้นตัว HoH จากการขยายสาขา BigC มากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขาและสาขาที่กัมพูชา 1 สาขาBigC Food Place 1 สาขาและ Mini BigC ราว 200 สาขา), SEAFCO (แม้ช่วง 2H62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พัน ลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่นลบ.), CPALL (ช่วง 3Q62 แม้เข้าสู่ Low Season แต่ด้วยการจัดโปรโมชั่น แสตมป์จัดหนักกระตุ้นยอดขาย และการได้ประโยชน์จากฐานที่ต่ำของปีก่อนจะหนุน SSSG เติบโตต่อเนื่อง พร้อมยังคงเป้าขยายสาขาร้านสะดวกซื้อปีนี้ที่ 700 สาขา), ERW (ช่วง 2H62 หลังคาดฟื้นตัวจากปัจจัยฤดูกาล บวกกับการกลับมาเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม.และมีสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดือนส.ค. โต 15.6%YoY)
• กลุ่ม Defensive Stock:เราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (ช่วง 2H62 คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มโตต่อ หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถมินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.
• กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoYและช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำSAWAD (คาดกำไรปี62 โต 30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20-30% และอีก 300 สาขา, Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่านBFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลัง Tender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (คาดปี 62 เห็นการ Turnaround ของกำไรหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นจากการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่), III (ช่วง 2Q62 กำไรโต 45.8%YoY หนุนด้วยธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ บวกกับมีส่วนแบ่งกำไรที่โต 364%YoY จากธุรกิจที่เข้าซื้อกิจการสิงคโปร์และฮ่องกงในปี 61-62 ตามลำดับ), ARROW (ช่วง 2H62 คาดกำไรฟื้นตัวหลังมาร์จิ้นเหล็กดีขึ้นตามต้นทุนเหล็กที่ลดลงและราคาขายที่ดี คาดหนุนกำไรทั้งปีโต 10.3%YoY บวกกับมี Backlog 1.1 พันลบ. และมีโอกาสได้งานใหม่ๆเพิ่ม)
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากน้ำท่วมในภาคเหนือ/อีสาน: เราเลือก DOHOME, GLOBAL, DCC
24-Sep-19 Change (pts.) 23-Sep-19
SET Index 1,630.50 7.71 1,622.79
SET50 Index 1,084.56 5.91 1,078.65
SET100 Index 2,387.58 13.30 2,374.28
High 1,634.04 Gainers 750
Low 1,622.75 Unchanged 503
Value (Bt m) 50,057.97 Losers 737
Volume (*000) 17,032,245
Market Valuation
SET Data 2019F 2020F Long Term
Fwd PER (x) 16.5 14.8 14.8
EPS Growth (%) 13.9 9.3 -0.9
EV/EBITDA (x) 11.9 10.9 10.4
FWD PBV (x) 1.8 1.7 1.6
Dividend Yield (%) 3.1 3.4 3.7
ROE 10.7 10.9 11.0
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 24-Sep-19 WTD MTD YTD
Institution (57.07) (495.14) (6,395.96) 26,022.68
Proprietary (509.74) (1,085.14) 2,790.07 10,198.71
Foreign (960.94) (2,525.54) (8,878.84) (2,449.89)
Individual 1,527.75 4,105.82 12,484.73 (33,771.50)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary