- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 23 September 2019 21:01
- Hits: 4893
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
---------------------
Market Outlook
• วันนี้คาด SET Index แกว่ง Sideway ในกรอบ 1,625-1,645 จุดเพื่อสร้างฐานการรีบาวด์ โดยมีแรงหนุนในประเทศผ่านการเร่งรัดการลงทุนของโครงการขนาดใหญ่จากที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา บวกกับลุ้นการทำ Window Dressing ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนสิ้นไตรมาส อย่างไรก็ดี แนะนำติดตามผลการประชุมกนง.ที่จะมีขึ้น 25 ก.ย.นี้
• Market Factor
• (-) เจ้าหน้าที่จีนเดินทางไปยังสหรัฐฯ เพื่อเตรียมความพร้อมในการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงในต้นเดือน ต.ค. และมีการไปเยือนฟาร์มในสหรัฐฯ ที่เมืองโบซแมน รัฐมอนแทนา และเมืองโอมาฮา รัฐเนแบรสกา อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่จีนได้กลับก่อนกำหนดก่อนที่จะเดินทางไปเยือนรัฐมอนแทนา ทำให้เกิด Sentiment เชิงลบในการเจรจาการค้า
• (watch) จับตาตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่สำคัญจะประกาศในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคซีบี ยอดขายบ้านใหม่และ GDP ช่วง 2Q62
• (+) ที่ประชุมครม.เศรษฐกิจห็นชอบให้กระทรวงคมนาคมดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ภาคตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม มูลค่าการลงทุน 1.22 แสนล้านบาท พร้อมกับติดตามความคืบหน้าของโครงการลงทุนขนาดใหญ่ทั้ง 44 โครงการ (โพสต์ทูเดย์)
• (watch) ติดตามผลการประชุมของ กนง. วันที่ 25 ก.ย. นี้ ต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
• Consensus ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 115.14 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 99.14 บาท หรือลดลง 13.90%YTD
• Update Flow เมื่อวานศุกร์ที่ผานมาต่างชาติคงขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 367.61ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD ต่างชาติขายสุทธิรวม 6,353.28 ลบ.(ขณะที่รายย่อยและสถาบันซื้อสุทธิรวมกัน 2,478.06 ลบ.)
• Investment Strategy
• สัปดาห์นี้ เราประเมิน SET Index ซึมลงต่อในกรอบ 1,620-1,650 จุด หลังขาดปัจจัยหนุนใหม่จากต่างประเทศ ขณะที่มีประเด็นที่ต้องติดตามในเรื่อง Trade war, การกลับมาผลิตน้ำมันของซาอุฯ รวมถึงผลการประชุมกนง. (ล่าสุดนักเศรษฐศาสตร์ 12 ท่าน จาก Bloomberg Consensus มองแบงก์ชาติยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.5%) อย่างไรก็ดีอาจมีประเด็นหนุนจากการทำ Window Dressing ในช่วงปลายสัปดาห์ ดังนั้นในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวน และย่อตัวลง เราแนะนำให้นักลงทุนทยอยเก็บหุ้น 4 กลุ่ม ดังนี้
• หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้น ศก.ของรัฐฯ: แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ BJC (ช่วง 2H62 คาดเห็นการฟื้นตัวHoHจากการขยายสาขา BigC มากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขาและสาขาที่กัมพูชา 1 สาขาBigC Food Place 1 สาขาและ Mini BigC ราว 200 สาขา), SEAFCO (แม้ช่วง 2H62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พัน ลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่นลบ.), CPALL (ช่วง 3Q62 แม้เข้าสู่ Low Season แต่ด้วยการจัดโปรโมชั่น แสตมป์จัดหนักกระตุ้นยอดขาย และการได้ประโยชน์จากฐานที่ต่ำของปีก่อนจะหนุน SSSG เติบโตต่อเนื่อง พร้อมยังคงเป้าขยายสาขาร้านสะดวกซื้อปีนี้ที่ 700 สาขา), ERW (ช่วง 2H62 หลังคาดฟื้นตัวจากปัจจัยฤดูกาล บวกกับการกลับมาเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม.และมีสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดือน ส.ค. โต 15.6%YoY)
• กลุ่ม Defensive Stock: เราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (ช่วง 2H62 คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มโตต่อ หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถมินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.
• กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoYและช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำ SAWAD (คาดกำไรปี62 โต 30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20-30% และอีก 300 สาขา, Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลัง Tender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (คาดปี 62 เห็นการ Turnaround ของกำไรหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นจากการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่), III (ช่วง 2Q62 กำไรโต 45.8%YoY หนุนด้วยธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ บวกกับมีส่วนแบ่งกำไรที่โต 364%YoY จากธุรกิจที่เข้าซื้อกิจการสิงคโปร์และฮ่องกงในปี 61-62 ตามลำดับ)
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากน้ำท่วมในภาคเหนือ/อีสาน: เราเลือก SPC, DOHOME, GLOBAL, DCC
• Trading Idea
• GFPT: ได้อานิสงส์จากโรคอหิวาหมู (ASF) ที่ระบาดในจ.เชียงรายบวกกับคาดกำไรช่วง 3Q62 โตทั้ง YoYและ QoQ หนุนด้วยปริมาณการส่งออกไก่ไปจีนที่เติบโต บวกกับต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลง
• กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง : แนะนำเก็งกำไร หลังครม.เศรษฐกิจจะมีการประชุมในวันที่ 20 ก.ย.โดยเน้นประเด็นในเรื่องของกระทรวงคมนาคม โดยเฉพาะโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและ Mega Project เราเลือก CK, STEC ซึ่งมีโอกาสเข้าร่วมประมูลงานขนาดใหญ่ และ SEAFCO ซึ่งมีBacklog secure revenue ในปีนี้แล้วบวกกับรอรับงานจากผู้รับเหมารายใหญ่
20-Sep-19 Change (pts.) 19-Sep-19
SET Index 1,636.20 -4.46 1,640.66
SET50 Index 1,089.04 -1.30 1,090.34
SET100 Index 2,396.38 -5.30 2,401.68
High 1,644.29 Gainers 440
Low 1,627.90 Unchanged 472
Value (Bt m) 68,432.96 Losers 1,080
Volume (*000) 18,650,504
Market Valuation
SET Data 2019F 2020F Long Term
Fwd PER (x) 16.5 14.9 14.9
EPS Growth (%) 13.9 9.3 -0.8
EV/EBITDA (x) 11.8 10.8 10.3
FWD PBV (x) 1.8 1.7 1.6
Dividend Yield (%) 3.1 3.3 3.6
ROE 10.7 10.9 11.0
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 20-Sep-19 WTD MTD YTD
Institution (1,327.22) (9,079.26) (5,900.83) 26,517.81
Proprietary (600.63) (301.78) 3,875.22 11,283.85
Foreign (367.61) (1,133.66) (6,353.30) 75.66
Individual 2,295.47 10,514.69 8,378.91 (37,877.32)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary