- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 19 September 2019 16:27
- Hits: 2768
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : เฟดไม่ได้ส่งสัญญาณการลดดอกเบี้ยที่ชัดเจนในระยะต่อไป
Trading Strategy
เฟดไม่ได้ส่งสัญญาณการลดดอกเบี้ยที่ชัดเจนในระยะต่อไป
• รอบนี้เฟดลดดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด...แต่ไม่ได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะลดต่อเนื่อง ในการประชุม 17-18ก.ย.62 คณะกรรมการ FOMC มีมติ 7-3 ลดดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% สู่ระดับ 1.75-2.00% และนายเจอโรมประธานเฟดกล่าวหลังการประชุมว่า เฟดจะดำเนินการลดดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องหากจำเป็น อย่างไรก็ดี ขณะนี้เขายังไม่เห็นว่าสิ่งนี้มีความจำเป็น
• เฟดได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจสหรัฐเป็น +2.2% ในปีนี้ (จากเดิม +2.1% ในการคาดการณ์เดือนมิ.ย.62) และคงคาดการณ์ของปี 63 ไว้ที่ +2.0% แต่ปรับเพิ่มของปี 64 ขึ้นเป็น +1.9% (เดิม +1.8%)และคาดการณ์อัตราการเติบโตเศรษฐกิจในระยะยาวไว้ที่ +1.9% ด้านอัตราการว่างงานปี 62 ปรับขึ้นเป็น 3.7% (เดิม3.6%) แต่คงของปี 63-64 ไว้ที่ 3.7% และ 3.8% และปี 65 ที่ 3.9% ซึ่งเป็นระดับที่ค่อนข้างเต็มศักยภาพ ส่วนอัตราการว่างงานระยะยาวประเมินไว้เท่ากับ 4.2% ด้านอัตราเงินเฟ้อปี 62 คาดไว้ 1.8% ส่วนปี 63-64 ประมาณการไว้ที่1.9% และ 2.0% ตามลำดับ
• US Bond Yield เด้งขึ้นและค่าเงิน US$ แข็งขึ้น ทั้งนี้ US Bond Yield เด้งขึ้นหลังจบประชุมเฟด อัตราดอกเบี้ยพันธบัตร 10 ปีของสหรัฐปรับขึ้นเป็น 1.815% ในวันที่ 18 ก.ย.62 (จาก 1.779% ในวันก่อนหน้า) และค่าเงิน US$เทียบกับ 6 สกุลหลักหรือ Dollar Index วันที่ 18 ก.ย.แข็งขึ้นเป็น 98.549 (จาก 98.211 ในวันที่ 17 ก.ย.) หลังเฟดไม่ได้ให้สัญญาณที่ชัดเจนว่าจะลดดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง กอปรกับคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ก็เพิ่มขึ้นและปี 63 ยังเติบโตได้ดี ขณะที่คาดว่าภาคแรงงานจะยังแข็งแกร่ง
• ดัชนีหุ้นสหรัฐขยับชึ้นเพียงเล็กน้อย โดยดัชนี DJIA +0.13% และ S&P500 +0.03% หลังเฟดมีมติไม่เป็นเอกฉันท์ในการลดดอกเบี้ยครั้งนี้ และอาจจะไม่ได้ลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง ส่วนตลาดหุ้นเอเชียที่เปิดซื้อขายเช้าวันนี้มีทั้งบวกและลบ (Mixed)
• สำหรับตลาดหุ้นไทย ควรระวังการแกว่ง/อ่อนตัวในระยะสั้น ทั้งนี้สัญญาณเทคนิคของ SET ระยะสั้นเป็นลบ(ปิดลบและต่ำกว่า SMA10) มีโอกาสที่ดัชนีจะแกว่งหรืออ่อนตัวต่อ โดยมีแนวรับเก็งกำไร 1650-1645, 1620+/- การซื้อหุ้น Big Cap ใหม่เน้นตามด้วยค่าบวกของดัชนีและราคาหุ้น แนวต้าน SET สั้นๆให้ไว้ที่ 1660-1670, 1680
• ในเชิงกลยุทธ์ยังเน้นหุ้น Defensive, Domestic play ที่เติบโตดี และหุ้น REIT ที่มั่นคง & ปันผลสูง หุ้นเด่นในกลุ่ม Defensive เป็น ADVANC, AOT, CPALL, CHG, RJH หุ้นเด่นกลุ่มเติบโต คือ GFPT, MTC และหุ้นเด่นกลุ่มREIT ได้แก่ AMATAR, CPTGF, DIF, DREIT
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : [email protected]