WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

logo aceบล.เออีซี : Daily Focus

AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
•    วันนี้ลุ้น SET Index  แกว่งสร้างฐานในกรอบ 1,645-1,660 จุด เพื่อลุ้นรีบาวด์แนวต้าน1,680 จุด หลังตลาดรับรู้ผลการประชุม FED ที่ปรับลด ดบ.ลง 25bps ตามตลาดคาด พร้อมเปิดกว้างในการดำเนินนโยบายการเงินตามสถานการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง ขณะที่ปัจจัยในประเทศให้ติดตามมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงสุดสัปดาห์
•    Market Factor
•    (+) Fed มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25bps อยู่ที่ระดับ 1.75-2.00% อย่างไรก็ดีแม้ Fed จะไม่ได้ส่งสัญญานปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต แต่จาก Dot plot มีคณะกรรมการ 7 ท่านให้ความเห็นปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ โดยตลาดคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมเดือน ธ.ค. 62 จาก CME FedWatch ด้วยความน่าจะเป็น 47.3%
•    (-) สัญญาน้ำมันดิบ  WTI และ Brent ปรับลง 2.1%DoD และ 1.5%DoD หลัง EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรลสวนทางกับตลาดที่คาดว่าจะลดลง 2 ล้านบาร์เรลบวกกับซาอุฯคาดว่าจะกลับมาผลิตน้ำมันดิบให้สมบูรณ์อีกครั้งภายในสิ้นเดือนนี้
•    (watch) ติดตามการประชุมครม.เศรษฐกิจ วันศุกร์ 20 ก.ย.นี้ โดยมีวาระหลักในการเร่งรัดโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่ล่าช้า หรือโครงการที่ค้างอยู่ในส่วนการดูแลของกระทรวงคมนาคม (ไทยรัฐออนไลน์)
•    Consensus ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 115.14 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 99.22 บาท หรือลดลง 13.83%YTD
•    Update Flow เมื่อวานนี้ต่างชาติคงขายขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยอีก 1,346.73 ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD ต่างชาติขายสุทธิรวม 6,383.21ลบ.(ขณะที่รายย่อยและสถาบันซื้อสุทธิรวมกัน 2,072.0 ลบ.)
•    Investment Strategy
•    สัปดาห์นี้ เราประเมิน SET Index เคลื่อนไหวในกรอบ1,645-1,690 จุด โดยหลัง Fed ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายแล้ว คาดส่งผลต่อมุมมองการลดดอกเบี้ยของกนง.ในสัปดาห์หน้า (25 ก.ย.) ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัว ดังนั้นเราแนะนำให้นักลงทุนแนะนำทยอยเก็บหุ้น 4 กลุ่ม ที่ย่อตัวลงมา ดังนี้
•    หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้นศก.ของรัฐฯ: แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ BJC (ช่วง  2H62 คาดเห็นการฟื้นตัว HoH จากการขยายสาขา BigC มากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขาและสาขาที่กัมพูชา 1 สาขา BigC Food Place 1 สาขา และ Mini BigC ราว 200 สาขา), SEAFCO (แม้ช่วง 2H62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พัน ลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่น ลบ.), CPALL (ช่วง 3Q62 แม้เข้าสู่ Low Season แต่ด้วยการจัดโปรโมชั่น แสตมป์จัดหนักกระตุ้นยอดขาย และการได้ประโยชน์จากฐานที่ต่ำของปีก่อนจะหนุน SSSG เติบโตต่อเนื่อง พร้อมยังคงเป้าขยายสาขาร้านสะดวกซื้อปีนี้ที่ 700 สาขา), ERW (ช่วง 2H62 หลังคาดฟื้นตัวจากปัจจัยฤดูกาล บวกกับการกลับมาเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม.และมีสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดือน ส.ค. โต 15.6%YoY)
•    กลุ่ม Defensive Stock: เราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (ช่วง 2H62 คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มโตต่อ หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถมินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.
•    กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoY และช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำ SAWAD (คาดกำไรปี62 โต 30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต20-30% และอีก 300 สาขา,  Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่านBFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลัง Tender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (คาดปี 62 เห็นการ Turnaround ของกำไรหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นจากการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่), III (ช่วง 2Q62 กำไรโต 45.8%YoY หนุนด้วยธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ บวกกับมีส่วนแบ่งกำไรที่โต 364%YoY จากธุรกิจที่เข้าซื้อกิจการสิงคโปร์และฮ่องกงในปี 61-62 ตามลำดับ)
•    หุ้นที่ได้ประโยชน์จากน้ำท่วมในภาคเหนือ/อีสาน: เราเลือก SPC, DOHOME, GLOBAL, DCC
•    Trading Idea
•    GFPT : ได้อานิสงส์จากโรคอหิวาหมู (ASF) ที่ระบาดในจ.เชียงราย บวกกับคาดกำไรช่วง 3Q62 โตทั้ง YoY และ QoQ หนุนด้วยปริมาณการส่งออกไก่ไปจีนที่เติบโต บวกกับต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลง    18-Sep-19    Change (pts.)    17-Sep-19
SET Index    1,654.14    -9.79    1,663.93
SET50 Index    1,100.54    -7.28    1,107.82
SET100 Index    2,425.59    -16.55    2,442.14

 

High    1,664.81    Gainers    596
Low    1,650.64    Unchanged    443
Value (Bt m)    64,848.85    Losers    946
Volume (*000)    19,717,572         

Market Valuation
SET Data    2019F    2020F    Long Term
Fwd PER (x)    16.7    15.0    15.0
EPS Growth (%)    13.9    9.3    -0.8
EV/EBITDA (x)    11.6    10.6    10.1
FWD PBV (x)    1.8    1.7    1.6
Dividend Yield (%)    3.0    3.3    3.6
ROE    10.7    10.9    11.0

Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt    18-Sep-19    WTD    MTD    YTD
Institution    (2,220.98)    (4,625.17)    (1,446.74)    30,971.90
Proprietary    473.61    134.20    4,311.20    11,719.83
Foreign     (1,346.73)    (1,163.58)    (6,383.22)    45.74
Individual    3,094.10    5,654.55    3,518.76    (42,737.46)

AECS ( Fundamental and Strategic Team )

จิรภัทร  โบสุวรรณ (ID. 040051)    [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932)    [email protected]
ธีรยุทธ  ฤทธิเผ่าพันธุ์    ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์    Data Support / Secretary

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!