- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 02 October 2014 14:41
- Hits: 1975
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA -238.19, NASDAQ -71.30, S&P -26.13, FTSE -65.20, CAC -50.97 และ DAX -92.27 แม้ได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯ – กย. เพิ่มขึ้น 213,000 ตำแหน่ง (มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 205,000 ตำแหน่ง) แต่ไม่สามารถชดเชยปัจจัยลบจากประเด็นความกังวลต่อข่าวการพบผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลารายแรกในสหรัฐฯ รวมถึงตัวเลขด้านการผลิตของสหรัฐฯ โดยดัชนี PMI ภาคการผลิต – กย. อยู่ที่ 57.5 ลดลงจาก 57.9 เมื่อสค. และค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง – สค. ลดลง 0.8%yoy (สูงกว่าที่คาดว่าจะลดลง 0.5%) อยู่ที่ 9.6096 แสนล้านUSD
.....ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ได้รับปัจจัยลบเพิ่มจากรัฐบาลอิตาลีคาดการณ์ว่า GDP ปี’57 หดตัวลง 0.3% และคาดฟื้นตัวเพียงเล็กน้อยในปี’58 รวมถึงรัฐบาลฝรั่งเศสชะลอเป้าหมายการลดยอดขาดดุลงบประมาณลงสู่ระดับ 3% ของ GDP ถึงปี’58 เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวลง
…..ราคาปิดน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน พย. -US$0.43 อยู่ที่ US$90.73 ต่อบาร์เรล ภายใต้ปัจจัยลบจากซาอุดิอาระเบียปรับลดราคาขายน้ำมันดิบสำหรับลูกค้าในเอเชีย ประมาณ US$0.20 - 1.2 ต่อบาร์เรล เพื่อเพิ่ม Market Share อย่างไรก็ตามการปรับลดลงเป็นไปอย่างจำกัด หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล (สวนทางกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.9 ล้านบาร์เรล) อยู่ที่ 356.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่วันที่ 17/1/57
....ทางด้านราคาทองคำ ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$3.9 อยู่ที่ US$1,215.5 ต่อออนซ์ หลังตลาดหุ้นนิวยอร์กลดลงส่วนหนึ่งจากตัวเลขการผลิตของสหรัฐฯ ข้างต้น กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +1,639 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปี -2,114 ล้านบาท (สิ้นปี’56 มียอดขายสุทธิสะสม 193,911 ลบ)
ทิศทางตลาด
ทิศทางตลาด : ผันผวน? แม้ได้รับปัจจัยบวกในประเทศ โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯ วงเงินกว่า 3.0 แสนล้านบาท ในช่วง 2 – 3 เดือนหลังจากนี้ และ Fund Flow หลังต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิกว่า 1,600 ล้านบาท ซึ่งดีกว่าภูมิภาค แต่คาดตลาดมีความผันผวนจากประเด็นต่างประเทศ ที่ทำให้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ
.....อย่างไรก็ตามคาดหลังจากนี้ไปเริ่มเข้าสู่ช่วงประกาศผลการดำเนินงาน – 3Q/57 ที่คาดอาจมีแรงเก็งกำไร (+ / -) และยังแนะติดตามต่อเนื่องภายใต้ประด็นการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ หลังมีการยื่นซองประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว เส้นทางหมอชิต – คูคต เมื่อ 30/9/57 ซึ่งมีผู้ยื่นซองทั้งหมด 4 ราย (ITD, CK, STEC และ UNIQ) คาดใช้ระยะเวลา 1 – 3 เดือน ทราบผลการประมูล ซึ่งคาดอย่างเร็วคาดสามารถลงนามสัญญาและเริ่มก่อสร้างในช่วง 1H/58
....รวมถึงยังแนะให้ติดตามประเด็นการยกเลิกกฎอัยการศึก โดยคาดอาจมีการพิจารณายกเลิกในบางพื้นที่ คาดส่งผลดีต่อ (1) Fund Flow ที่คาดมีโอกาสไหลเข้าต่อเนื่อง (2) กลุ่มท่องเที่ยว ที่คาดได้ประโยชน์จากประเด็นดังกล่าว รวมถึงภาวะการท่องเที่ยวที่จะเข้าสู่ช่วง High Season ใน 4Q/57 (ส่งผลดีต่อ MINT, CENTEL และ ERW)
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.11 อยู่ที่ 2.40% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.40 อยู่ที่ 16.71
หุ้นแนะนำ : KBANK
ประเด็นที่ต้องติดตาม (2 – 3 ตค.’57)
• 2/10/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (2) ดัชนีภาวะธุรกิจรัฐนิวยอร์ค - กย. (3) ยอดสั่งซื้อของโรงงาน – สค. ประชุม ECB
• 3/10/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร - กย. (2) การค้าระหว่างประเทศ - สค. (3) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้าย - กย. (4) ดัชนี PMI ภาคบริการ - กย.
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788