- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 11 September 2019 16:12
- Hits: 3361
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : กลุ่มท่องเที่ยว ช่วง 8M19 รายได้ท่องเที่ยวไทยเติบโต 3.3%YoY
กลุ่มท่องเที่ยว
ช่วง 8M19 รายได้ท่องเที่ยวไทยเติบโต 3.3%YoY
• จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 8M19 เติบโต +2.61%YoY - กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติช่วงเดือนม.ค.-ส.ค.2019 อยู่ที่ 26.50 ล้านคน เพิ่มขึ้น +2.61%YoY ขณะที่รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 1.299 ล้านล้านบาท ขยายตัว +3.04%YoY โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวไทย 5อันดับแรก คือ จีน มาเลเซีย อินเดีย เกาหลี ลาว และนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มขยายตัวในอนาคตคือ อินเดีย โปแลนด์ไต้หวัน และลาว ส่วนนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรปยังคงติดลบจำนวนนักท่องเที่ยวไทยช่วง 8M19 เพิ่มขึ้น 1.29%YoY – ด้านคนไทยเที่ยวไทย มีนักท่องเที่ยวในช่วงเดือนม.ค.-ส.ค.19 เท่ากับ 103.53 ล้านคน ขยายตัว +1.29% โดยจังหวัดที่ขยายตัว คือ สกลนคร ลพบุรี และปัตตานี
• รายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมด 8M19 เพิ่มขึ้น 3.27%YoY - รายได้จากการท่องเที่ยวทั้งต่างชาติเที่ยวไทยและไทยเที่ยวไทยอยู่ที่ 2 ล้านล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต +3.27% จากปีก่อน
• นับเป็นเรื่องดีที่ภาคท่องเที่ยวไทยยังสามารถเติบโตได้ในปีนี้ ทั้งที่มีปัจจัยกดดันจากภาวะเศรษฐกิจอย่างมากเราคาดว่าการท่องเที่ยวจะกระเตื้องขึ้นใน 4Q19 หลังรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ (ให้วงเงินซื้อสินค้าและบริการจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมรายการ 1 พันบาท/คน และผู้ลงทะเบียนบัตรเติมเงินสามารถนำค่าซื้อสินค้าและบริการในท้องถิ่นและร้านธงฟ้าประชารัฐที่ร่วมมาตรการมาลดหย่อนภาษีได้ 15% แต่ไม่เกิน 4.5 พันบาท/คน (วงเงินใช้จ่ายไม่เกิน 3 หมื่นบาท/คน)
• ในเชิงกลยุทธ์ให้น้ำหนักการลงทุนเป็น Neutral โดยหุ้นเด่นเป็น AOT และ ERW
# AOT (ราคาปิด 74.25 บาท, ราคาพื้นฐาน 80 บาท) : คาดกำไรปี 2019 (สิ้นสุดก.ย.2019) จะทรงตัว YoY แต่มีโอกาสเติบโตได้ดีในระยะยาว ทั้งนี้บริษัทคาดว่าจะเปิดประมูลพื้นที่ดิวตี้ฟรี ดอนเมืองปลายปี 2019 หรือต้นปี 2020(สัมปทานจะสิ้นสุดปี 2022) โครงการขยายสนามบินดอนเมืองทำให้กำลังรองรับผู้โดยสารจะเพิ่มจาก 30 เป็น 40
ล้านคน/ปี (ปัจจุบันมีผู้โดยสารราว 40 ล้านคน/ปี ซึ่งให้บริการแบบ Over Capacity อยู่) รายได้ที่ไม่เกี่ยวกับการบินมีแนวโน้มแข็งแกร่ง โดยเฉพาะรายได้ค่าเช่าพื้นที่ดิวตี้ฟรี และพื้นที่เชิงพาณิชย์ ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ที่เกี่ยวกับการบิน : ไม่เกี่ยวกับการบิน เท่ากับ 57 : 43 คาดว่าจะเปลี่ยนเป็น 55 : 45 ในปี 63 (สิ้นสุดก.ย.2020) และเป็น 50 : 50ในสิ้นงวดปี 2021 (สิ้นสุดก.ย.2021) โดยในงวดปี 2020 บริษัทจะมีรายได้จากศูนย์ตรวจสอบสินค้าเกษตรส่งออก(Certify Hub), เมืองการบิน (Airport City), Digital Platform เข้ามาช่วยประคองผลประกอบการ แล้วในงวดปี 2021จะได้รับรายได้ค่าเช่าจากกลุ่มคิงเพาวเวอร์ตามสัญญาใหม่สูงที่ 1.5 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ผลประกอบการในงวดปี2021 จะขยายตัวสูง แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 80 บาท (DCF)
# ERW (ราคาปิด 6.20 บาท, ราคาพื้นฐาน 7.30 บาท) : ธุรกิจโรงแรมจะเติบโต YoY ได้ใน 2H19 จากฐานต่ำในช่วงเดียวกันของปีก่อนและนักท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว การท่องเที่ยวในประเทศดีขึ้นหลังรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นรวมทั้งมีการเปิดโรงแรมใหม่อีก 9 แห่งใน 2H19 (เป็น Hop Inn 7 แห่ง, Mercure 1 แห่ง และ Ibis 1 แห่ง)
นอกจากนั้นการปรับปรุง JW Marriot จะแล้วเสร็จและเปิดห้องพักได้ทั้งหมดในเดือนต.ค.2019 แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 7.30 บาท
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : [email protected]
