ผันผวนอิงทางบวก: คาดปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลต่อตลาดยังคงเป็นเรื่องของปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะ Sentiment ทางบวกที่มาจากแรงเก็งกำไรบนความคาดหวังมาตรการผ่อนคลายทางการเงินของ ECB ที่จะประชุมในวันที่ 12 ก.ย. นี้ อีกทั้งราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่พุ่งขึ้น และประเด็นสงครามการค้าสหรัฐ-จีนที่ดีขึ้นต่างจะมีส่วนช่วยหนุนดัชนีในทางบวกได้ ส่วนปัจจัยภายในที่ช่วยเสริมวันนี้จะอยู่ที่การลุ้นครม.อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนของหลายปัจจัยอาจกลับมาสร้างแรงกดดันเพิ่มเติมต่อตลาดได้ทุกเมื่อ (ช่วงนี้เน้น จับตาประเด็นความไม่สงบในฮ่องกง) จะทำให้ Upside ตลาดมีจำกัด โดยรวมจึงทำให้คาดดัชนีหุ้น ไทยในวันนี้จะผันผวนอิงทางบวกในกรอบระหว่าง 1665 – 1680 จุด

ราคานํ้ามันดิบช่วยหนุน: วานนี้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก (WTI) ปรับตัวบวกแรง 2.4% ตอบรับข่าวการแต่งตั้งรัฐมนตรีพลังงานคนใหม่ของซาอุดิอาระเบียที่ออกมายืนยันการจำกัดการผลิตน้ำมันของกลุ่ม OPEC+ คาดราคาที่ปรับขึ้นนี้จะมีส่วนหนุนหุ้น กลุ่มพลังงานและดัชนีหุ้นไทยให้ไปต่อได้

สงครามการค้าฯ เริ่มเห็นสัญญาณบวก: ประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีแนวโน้ม ที่ดีขึ้นหลังรมว.คลังสหรัฐ ให้ข้อ มูลว่าทั้งสองฝ่ายมีความคืบหน้าในการเจรจา โดยในเรื่องการป้องกันการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันในข้อตกลง มองประเด็นนี้จะมีส่วนสร้าง Sentiment เชิงบวกต่อดัชนี

Theme เด่นน่าสนใจ

- หุ้นรับประโยชน์จากสถานการณ์น้ำท่วม: TASCO, SCCC, DCC, DOHOME, MAKRO

- หุ้น Defensive: CPALL, TTW, BCH, ADVANC

Portfolio Model

ถือ CPALL (เป้า 89.00) บนมุมมองบวกต่อการกระตุ้นการบริโภคจากภาครัฐ และเทศกาลกินเจที่กำลังจะมาถึง

ถือ BCH (เป้า 16.90) บนแนวโนม้ ผลประกอบการครึ่งหลังฟื้นตัวดี

ถือ TACC (เป้า 5.10 บาท) เก็งกำไรการรับประโยชน์ต่อเนื่องจากการบริโภคสินค้า ใน 7-11 ที่คาดคึกคักขึ้นตามมาตรการกระตุ้น การบริโภค

*สำหรับการลงทุนระยะเวลา 2 สัปดาห์ – 1 เดือน

Upside Momentum* :EASTW INTUCH THANI

*สำหรับการลงทุนระยะเวลา 1 เดือน โดยใช้การวิเคราะห์เชิงปริมาณ (Quantitative Analysis เป็นเกณฑ์ในการคัดเลือกเท่านั้น)

ทีมกลยุทธ์ 02 635 1700 ต่อ 487