- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 10 September 2019 15:37
- Hits: 2380
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
• คงมุมมอง SET Index ลุ้นรีบาวด์ คาดหวังแนวต้านแรกที่ 1,680 จุด คาดตลาดได้ปัจจัยหนุนต่างประเทศ จากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับเพิ่มขึ้นราว 2% วานนี้ ขณะที่ นลท.ติดตามการประชุม ECB สัปดาห์นี้ โดยคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และนโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลายเพื่อรองรับการชะลอทางเศรษฐกิจ ประเมินกรอบเคลื่อนไหวของ SET วันนี้ที่ 1,665-1,680 จุด
• Market Factor
• (+) สัญญาน้ำมันดิบ WTI และ Brent วานนี้ปิดบวก 2.4%DoD และ 1.7%DoD ตามลำดับหลังรัฐมนตรีพลังงานคนใหม่ของซาอุฯ จะทำการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบตามข้อตกลงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
• (watch) จับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 12 ก.ย. 62 โดย ECB มีแนวโน้มที่จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยใช้นโยบายการเงินครั้งใหม่
• (+) ททท.เผยจำนวน นทท.ต่างชาติที่เดินทางมาไทย เดือน ส.ค.ราว 3.4 ล้านคน ขยายตัว 5.60%YoY สร้างรายได้คิดเป็นมูลค่า 1.7 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.12%YoY นำโดย จีน มาเลเซีย และญี่ปุ่น เป็น 3ชาติแรกที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยมากสุด
• (-) กรมสรรพสามิต จะมีการปรับการเก็บภาษีความหวานจากผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเป็นแบบภาษีขั้นบันได ในวันที่ 1 ต.ค.2562 นี้ คาดอัตราภาษีใหม่จะทำให้สามารถจัดเก็บภาษีความหวานเพิ่มเป็น 3,500-4,000 ลบ./ปี (จากเดิม 2,000-3,000 ลบ./ปี) (โพสต์ทูเดย์)
• (-) Consensus ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 115.14 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 99.82 บาท หรือลดลง 13.31%YTD
• Update Flow เมื่อวานนี้ต่างชาติพลิกกลับมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 898.74 ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD ต่างชาติขายสุทธิลดลงเหลือ 2,563.24 ลบ. (ขณะที่รายย่อยและสถาบันซื้อสุทธิรวมกัน 1,601.48 ลบ.)
• Investment Strategy
• สัปดาห์นี้ เรามอง SET Index ปรับขึ้นด้วย Upside จำกัดในโซน 1,690 จุด แต่หากย่อคาดไม่หลุด 1,650 จุด โดยมีปัจจัยบวกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากการประชุม ครม.บวกกับนักลงทุนรอติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจาก ECB ในการประชุมสัปดาห์นี้ ดังนั้นเรายังคงแนะนำให้นักลงทุนทยอยเก็บเข้าพอร์ตในหุ้นหลัก 3 กลุ่ม ดังนี้
• หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้น ศก.ของรัฐฯ: เรามองว่า ครม. ชุดใหม่ที่มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจะเร่งออกนโยบายกระตุ้น ศก. ในระยะสั้นเพื่อพยุง ศก. เราจึงแนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ BJC (ช่วง 2H62 คาดเห็นการฟื้นตัว HoH จากการขยายสาขา BigC มากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขา และสาขาที่กัมพูชา 1 สาขา BigC Food Place 1 สาขา และ Mini BigC ราว 200 สาขา), SEAFCO (แม้ช่วง 2H62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พัน ลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่นลบ.), CPALL (ช่วง 3Q62 แม้เข้าสู่ Low Season แต่ด้วยการจัดโปรโมชั่น แสตมป์จัดหนักกระตุ้นยอดขาย และการได้ประโยชน์จากฐานที่ต่ำของปีก่อนจะหนุน SSSG เติบโตต่อเนื่อง พร้อมยังคงเป้าขยายสาขาร้านสะดวกซื้อปีนี้ที่ 700 สาขา), ERW (ช่วง 2H6 หลังคาดฟื้นตัวจากปัจจัยฤดูกาล บวกกับการกลับมาเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม.และมีสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดือน ส.ค. โต 15.6%YoY)
• กลุ่ม Defensive Stock: เราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (ช่วง 2H62 คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มโตต่อ หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถ มินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.
• กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoY และช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำ SAWAD (คาดกำไรปี 62 โต30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20-30% และอีก 300 สาขา, Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลัง Tender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (คาดปี 62 เห็นการ Turnaround ของกำไรสุทธิหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นตามลำดับทั้งในด้านการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่อีกทั้งยังไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจมากเช่นปีก่อน), III (ช่วง 2Q62 กำไรโต 45.8%YoY หนุนด้วยธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ บวกกับมีส่วนแบ่งกำไรที่โต 364%YoY จากธุรกิจที่เข้าซื้อกิจการสิงคโปร์และฮ่องกงในปี 61-62 ตามลำดับ)
• Trading Idea
• หุ้นที่ได้รับผลประโยชน์หลังพายุ “โพดุล” สงบ: เราเลือก SPC, DOHOME, GLOBAL,DCC
• กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีความหวานของเครื่องดื่ม : เราแนะนำ Short Selling หรือ Short Aginst Port ในหุ้น ICH Iและ MALEE
9-Sep-19 Change (pts.) 6-Sep-19
SET Index 1,671.22 1.16 1,670.06
SET50 Index 1,110.57 1.37 1,109.20
SET100 Index 2,450.79 1.90 2,448.89
High 1,676.62 Gainers 456
Low 1,666.61 Unchanged 505
Value (Bt m) 46,745.68 Losers 925
Volume (*000) 16,597,193
Market Valuation
SET Data 2018F 2019F Long Term
Fwd PER (x) 15.9 14.3 14.3
EPS Growth (%) 13.9 9.3 1.8
EV/EBITDA (x) 10.9 10.0 9.6
FWD PBV (x) 1.8 1.7 1.6
Dividend Yield (%) 3.1 3.5 3.7
ROE 11.0 11.2 11.2
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 9-Sep-19 WTD MTD YTD
Institution (1,310.29) (1,310.29) 2,767.05 35,185.69
Proprietary 275.00 275.00 961.74 8,370.38
Foreign 898.74 898.74 (2,563.24) 3,865.71
Individual 136.55 136.55 (1,165.55) (47,421.78)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary