WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

TISCO Logo 01บล.ทิสโก้ : Market Insight
 
สรุปภาวะตลาดวันก่อน
 
: SET +11.15 จุด น้ำมันดีดกลับ, ความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ลด
 
SET แกว่งแดนบวกตลอดทั้งวันในกรอบ 1663-73 ยกตัวขึ้น 2 วันติด คลายกังวลการเมืองในฮ่องกงและอังกฤษ หลังผู้ว่าฮ่องกงประกาศถอนร่างกม.ส่งผู้ร้ายข้ามแดนอย่างเป็นทางการและสภาล่างอังกฤษผ่านร่างกม.ขัดขวางการออกจาก EU โดยไร้ข้อตกลง ต่างชาติพลิกขายสุทธิ 142 ลบ. แต่ยัง Long S50 Futures 14,433 สัญญา 7 วันติด n
 
ทิศทางตลาดวันนี้
 
: ซิกแซกขึ้น จีน-สหรัฐฯ ตกลงเปิดเจรจาการค้าต้นเดือนหน้า
 
หุ้นโลกเมื่อวาน (5 ก.ย.) ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นอีก มากกว่า 1% (ยกเว้นหุ้นอังกฤษร่วง 0.5% จากเงินปอนด์แข็งค่าจากการออกกม.ขัดขวาง No-Deal Brexit ซึ่งกดดันหุ้นส่งออก) ขานรับจีนและสหรัฐฯ ตกลงเปิดเจรจาการค้าในต้นเดือน ต.ค. ขณะที่ตัวเลขศก.สหรัฐฯ ส่วนใหญ่ออกมาตามคาดถึงดีกว่าคาด (ดีกว่า – ISM ภาคบริการ, การจ้างงานภาคเอกชน และคำสั่งซื้อภาคโรงงาน / ตามคาด – ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และคำสั่งซื้อสินค้าคงทน) ช่วยผ่อนคลายความกังวลศก.โลกชะลอตัว โดย US Bond Yield ปรับตัวขึ้น และส่วนต่าง US Bond Yield 10 ปี และ 2 ปี ยังเป็นบวกอยู่ประมาณ +3 bps  มอง SET มีทิศทางแกว่งซิกแซกขึ้น ปัจจัยตปท.ทยอยผ่อนคลายไปในทางที่ดีขึ้น ทั้งความชัดเจนในการเริ่มสู่โต๊ะเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน และความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่ลดลง ขณะที่การประชุมธ.กลางหลายแห่งในช่วงกลางเดือนนี้ ทั้ง ECB (12 ก.ย.) และ (FED 17-18 ก.ย.) คาดจะผ่อนคลายการเงินเพิ่ม สำหรับปัจจัยในปท.วันนี้ รอลุ้นครม.ศก.นัดหารือมาตรการกระตุ้นศก.และการลงทุน แนวรับ 1663, 1656 แนวต้าน 1675-80 อนึ่ง คาดไม่มีหุ้นติด Cash Balance เย็นนี้ / DOD-W1 ติดวันนี้วัดสุดท้าย (ถ้าไม่ถูกขยายเวลา) 
 
กลยุทธ์การลงทุน
 
: ขึ้นขาย-ย่อซื้อคืน, หาก SET ปิดเหนือ 1675 ถือข้ามสัปดาห์
 
เมื่อวาน SET ขึ้นทดสอบเป้าของเราแล้วที่บริเวณ 1670-75 จากนี้เชื่อว่า SET จะแกว่งมากขึ้น เพราะฉะนั้นเก็งกำไรอย่างระมัดระวัง ขึ้นเน้นขายล็อกกำไร ย่อตัวซื้อคืน / หาก SET วันนี้ปิดเหนือระดับ 1675 ค่อยถือหุ้นข้ามสัปดาห์ และจะมีเป้าหมายถัดไปที่บริเวณ 1690-1700 เราขยับ Trailing Stop จาก 1630 เป็น 1640
 
ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick ANAN – เรามองกำไรใน 2Q19 เป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ มีแนวโน้มดีขึ้นในครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะ Q4 คาดจะเป็นไตรมาสดีที่สุดของปี จากการเริ่มรับรู้ Backlog ในมือ 5 โครงการที่จะแล้วเสร็๗และการเร่งระบายสต็อก, การประเมินมูลค่าหุ้นถูกมาก ราคาปัจจุบันคิดเป็น PER เพียง 6-7x ปีนี้และปีหน้า และคาดจะจ่ายปันผล Yield 7% ต่อปี, เป้าพื้นฐาน 5.4 บ. / หุ้นคาดจะได้ประโยชน์จากซ่อมแซมหลังพายุถล่ม – HMPRO, GLOBAL, SCC, TASCO / FTSE ทบทวนดัชนีฯ เริ่มมีผล 23 ก.ย. (ใช้ราคาปิด 20 ก.ย.) ปรับขึ้นจาก Mid to Large Cap – EGCO / ปรับขึ้นจาก Small to Mid Cap – BGRIM, KTC / เข้า Small Cap – PLANB, THANI, THG ไม่มีออก / Micro Cap เข้า – AMANAH, QHHR, SSP, TWZ, ZEN ออก – AJ, APCS, AQ, BOFFICE, CM, CTW, FNS, FSS, IT, LEE, MILL, MJLF, MODERN, PAP, PL, PRM, SGP, SITHAI, SKN, SSSC, SUC, THIP, TPRIME, TR, TRUBB, TWPC, VNG / หุ้นรับมาตรการรัฐกระตุ้นบริโภคฐานราก – CPALL, BJC, AEONTS, KTC, MTC / การลงทุน – AMATA, ROJNA, WHA, EASTW, CK, SEAFCO, PYLON การท่องเที่ยว - AOT, MINT, ERW / หุ้น 3 กลุ่มที่พิสูจน์แล้วว่า “Outperform” จากสงครามการค้ารอบก่อน (1) TRANS – ชอบ BEM, BTS (2) HELTH – BDMS, EKH (3) COMM – BJC, CPALL ผสานหุ้นเชิงรับปันผลดี - EASTW, EGCO, MAJOR, RATCH รวมทั้งหุ้นใน PF&REIT&IFF - QHPF, CPNREIT, WHART, EGATIF, JASIF, DIF, TFFIF
หุ้นเด่น ก.ย. (Smart Tactics) AOT, BDMS, CK, EASTW, PLANB, SABINA 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!