- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 01 October 2014 17:16
- Hits: 2244
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : GAP แนวรับ 1,575-1,574
Technical : แนวรับ : 1,585 /1,574 แนวต้าน : 1,590 / 1,601
หุ้นแนะนำพิเศษ : PTT แนวรับ 355 / 352 แนวต้าน 363 / 368
หุ้นเด่นรายวัน : SYNTEC CPN HMPRO
วันอังคารตลาดหุ้นไทยปิดลบแต่แทบจะไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,585.67 จุด ลดลง 0.12 จุด(-0.01%) มูลค่าการซื้อขาย 49,519.30 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติต่างชาติขายสุทธิอีก 425.22ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,553-1,601 การปรับตัวเริ่มมีสัญญาณการกลับเข้าซื้อระยะสั้นคืนทางเทคนิค วันนี้ติดตามการประกาศชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกกระตุ้นแรงซื้อ (และมีโอกาสผ่าน 1,590) ในขณะที่ SET50 ทดสอบยืน1,050 ได้อย่างมีนัยสำคัญเป็นสัญญาณเชิงบวกจากลักษณะแท่งเทียนโดจิ ระหว่างวันไม่สร้างจุดต่ำใหม่กว่าหรือปิดตัวด้วยแท่งเทียนสีขาวเป็นสัญญาณ Key Reversal GFV14 เก็งกำไรในกรอบ 18,580-18,800 GFZ14 เก็งกำไรในกรอบ 18,640-18,860
กลยุทธ์ ปริมาณการซื้อขายน้อยลง(กว่าวันที่ปรับตัวPanic)อย่างมีนัยสำคัญ แรงซื้อเริ่มกลับเข้าในหุ้นขนาดใหญ่เพื่อผลักดันดัชนียืนเหนือแนวรับ ระหว่างวันผ่านยืน 1,590 เป็นสัญญาณซื้อเก็งกำไรตาม กลุ่มธนาคาร การปรับตัวลงมีสัญญาณชะลอตัว BBL TMB KTB KBANK TISCO กลุ่มพลังงาน PTT PTTEP กลุ่มวัสดุก่อสร้าง SCC GEL TASCO กลุ่มอาหาร TUF MINT กลุ่มอสังหาฯ แนะนำซื้อเพื่อเล่นรอบระยะสั้น S CGD BLAND หุ้นรายหลักทรัพย์ FANCY PPS TGPRO BLA ระยะกลาง ถือ
หุ้นแนะนำพิเศษ
PTT (ปิด 360 ซื้อเป้าปี 58 : 400) เมื่อวานนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติเห็นชอบให้ปรับขึ้นราคาขายปลีก LPG ภาคขนส่งขึ้น 0.62 บาทต่อกิโลกรัม จาก 21.38 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 22.00 บาทต่อกิโลกรัม และราคา NGV เพิ่มขึ้น 1 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิม 10.50 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 11.50 บาทต่อกิโลกรัมโดยมีผล 1 ต.ค.57 คาดส่งผลบวกกับ PTT โดยตรงเพราะการปรับขึ้นราคา NGV จะทำให้บริษัทมีผลขาดทุนจากธุรกิจ NGV ลดลงหรือทำให้กำไรสุทธิรวมของ PTT เพิ่มขึ้นประมาณ 1% ในปีนี้และ3% ในปี 58 เพื่อสะท้อนคาดการณ์ดังกล่าวเราจึงปรับเพิ่มประมาณการณ์กำไรสุทธิปีนี้ขึ้น 1% เป็น 107,800 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 14%yoy และปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรสุทธิปี 58 ขึ้น 3% เป็น 114,385 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 6%yoy
หุ้นเด่นรายวัน
SYNTEC (ปิด 2.56 ซื้อเป้าปี 58:3 บาท)คาดกำไรสุทธิปีนี้จะเติบโตอย่างโดดเด่น หลังครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิรวมแล้วกว่า 150 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 782%yoyส่วนแนวโน้มครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่องจากแนวโน้มอุตสาหกรรมรับเหมาที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ประกอบกับบริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้อีกกว่า 10,000 ล้านบาทรองรับการขยายตัวของรายได้ไปอีก 1-2 ปี
CPN (ราคาปิด 46.50 ซื้อ เป้าหมาย 65) เป็นบริษัทอสังหาฯ แห่งแรกและแห่งเดียวในไทยที่ขึ้นทำเนียบเป็นสมาชิก DJSI ในกลุ่ม Emerging Markets ส่งผลบวกเชิงจิตวิทยาต่อการลงทุนของนักลงทุนสถาบัน ขณะที่บริษัทมีศักยภาพในการเติบโตต่อเนื่อง ปี 58 มีแผนเปิดโครงการใหม่ 3 สาขา ได้แก่ สาขาระยองและสาขาเวสต์ เกตบางใหญ่จะเปิดราว 2Q58 และสาขาถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทราจะเปิดราว 4Q58
HMPRO (ปิด 10.40 ซื้อเป้าปี 58:12.30) ผู้บริหารจัดทีมนำเสนอข้อมูลให้เกี่ยวกับพื้นฐานของธุรกิจ (โรดโชว์) ในประเทศสหัฐอเมริกา ด้านผลประกอบการฝ่ายวิจัยได้ปรับเพิ่มประมาณการยอดขายเพิ่มขึ้น 4% เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราการเติบโตของยอดขายครึ่งแรกของปีที่ระดับ 20% เป็น 4.8 หมื่นล้านบาท ประกอบกับครึ่งหลังของปีจะเปิดสาขาใหม่อีก 5 สาขาตามแผนเดิมได้แก่ เชียงใหม่ นครราชสีมา ศรีราชา ภูเก็ต และพัทยา รวมทั้งสาขาโฮมโปรที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ในเดือนพฤศจิกายน 2557 ทำให้แนวโน้มผลประกอบการยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* AJP/ SOLAR / SUPER /VIH มีผลบังคับใช้ 25 ส.ค. - 3 ต.ค.57
* ACD / DIMET / EMC / EVER / GENCO / SST / TAKUNI มีผลบังคับใช้ 1 ก.ย. - 10 ต.ค. 57
* BKD / CSS / SUPER-W1 / TFI มีผลบังคับใช้ 8 ก.ย. - 17 ต.ค. 57
* ABC / BMCL / E / EE / KC / MAX / NUSA / RASA / RPC / SEAOIL / SPVI มีผลบังคับใช้ 15 ก.ย. - 24 ต.ค. 57
* CHUO / CKP / EIC / GUNKUL / MILL-W2 / MLINK / PAE / PF / TCC / XO มีผลบังคับใช้ 22 ก.ย. - 31 ต.ค. 57
* AQ / CYBER / IFEC / KTP / PRINC/ SLC / TGPRO / WIIK มีผลบังคับใช้ 29 ก.ย. - 7 พ.ย. 57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : ลดลง 28.32 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวลดลง 28.32 จุด เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.ของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 86.0 จาก 93.4 ในเดือนส.ค. นับเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโก ลดลงแตะ 60.5 ในเดือนก.ย. จากระดับ 64.3 ในเดือนส.ค.ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์ลดลง 28.32 จุด หรือ -0.17% ปิดที่ 17,042.90 จุด ดัชนี NASDAQ ลดลง 12.46 จุด หรือ -0.28% ปิดที่ 4,493.39 จุด ดัชนี S&P500 ลดลง 5.51 จุด หรือ -0.28%ปิดที่ 1,972.29 จุด
ตลาดน้ำมัน NYMEX : ลดลง 3.41 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 3.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนกลับมาวิตกกังวลต่อภาวะความต้องการน้ำมันดิบของสหรัฐหลังจากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.ของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 86.0 จาก 93.4 ในเดือนส.ค. นับเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโก ลดลงแตะ 60.5 ในเดือนก.ย. จากระดับ 64.3 ในเดือนส.ค. ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคาดว่า EIA จะรายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ออกมาสูงขึ้น ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 3.41 ดอลลาร์ ปิดที่ 91.16 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 2.53 ดอลลาร์ ปิดที่ 94.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
Analyst :
ธวัชชัย 02-6725993 [email protected]
วิลาสินี 02-6725937 [email protected]
อาทิตย์ [email protected]
Assistant : ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์