- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 30 August 2019 16:02
- Hits: 4850
Morning Bell : บล.เคทีบี(ประเทศไทย)
SET Outlook & Strategy
SET Outlook
คาดดัชนีฯ มี momentum ที่จะเดินหน้าต่อหลังสหรัฐฯ-จีนเตรียมเจรจารอบใหม่ นักลงทุนในตลาด EM กลับเข้าซื้อหุ้นอีกครั้ง ....... ประธานาธิบดี Trump ยืนยันถึงการหารือของตัวแทนการค้าเมื่อคืนที่ผ่านมา (29) และสองฝ่ายจะมีการเจรจารอบใหม่ในเดือน ก.ย. จึงอาจเกิดขึ้นตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป ตลาดโลกมองเป็นข่าวดี ดูได้จาก การสูงขึ้นของดัชนี EM 0.49% ในคืนที่ผ่านมา ราคาพันธบัตรและทองคำอ่อนค่าลง (ส่วนหนึ่งมาจาก Dollar Index ที่พุ่งขึ้นไปถึง 98.4 จุด) เรามองเป็นบวกสั้นๆต่อตลาด โดยยังต้องรอการ comment ของประธานาธิบดี Trump ว่าคิดอย่างไรต่อเรื่องนี้ ....... ค่าเงินบาทไทย ยังแข็งแกร่ง (30.6 บาท/ดอลล่าร์) เป็นสัญญาณว่านักลงทุนต่างประเทศ มองไทยที่ที่พักเงินที่ดีซึ่งจะส่งผลบวกที่ว่าจะขายหุ้นไทยน้อยกว่าตลาดอื่นๆในภูมิภาคนี้ด้วย ....... ภาพตลาดโดยรวมจึงมองเป็นบวกการเจรจาการค้าที่มีความคืบหน้า ดัชนีฯจะหลุดจากกรอบ 1640 จุด ขึ้นไปหา 1650 จุด หรือมากกว่านั้นขึ้นกับผลเจรจา
Strategy
เราปรับกลยุทธ์เล็กน้อย เนื่องจากข่าวบวกในเรื่องการเจรจาการค้า หุ้นได้อานิสงค์ลำดับต้นๆ จะเป็นหุ้นใหญ่ที่ราคาลงมามาก (น้ำมัน-ปิโตรเคมี-ธนาคาร) สำหรับหุ้นธนาคาร ได้แรงหนุนจากโอกาสในการลดดอกเบี้ยสหรัฐฯที่น้อยลง (วัดจาก Fed Fund Futures ปี 2020) และการชะลอการใช้ DSR ....... นักลงทุนอาจปรับลดการถือเงินสดลงหากดัชนีฯพุ่งเกิน 1650 จุด เพราะแสดงว่าตลาดกำลังจะดี ....... หุ้นในพอร์ตของเราวันนี้ ADVANC, EGATIF*, RATCH*, BDMS, OSP, JMT*, AMA* และเพิ่ม PTT, SCB เข้ามาในวันนี้
* เป็นหุ้นที่แนะนำโดย KTBST ยังไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
Strategy Stock Pick
PTT (ซื้อ, เป้าเชิงกลยุทธ์ 45 บาท) – ราคายังต่ำกว่าที่ควรจะเป็น
• แม้ราคาฟื้นตัววานนี้กว่า 5.49%จากจุดต่ำสุด แต่เชื่อว่ายังมีโมเมนตัมที่จะยังขึ้นได้อีก เพราะ ราคาหุ้นที่ปรับลงลึกกว่า 12% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา พร้อมเปิด Div. Yield 4% ต่อปี (คาดครึ่งปีแรกจ่าย 0.80 บาท/หุ้น) ราคาหุ้นปัจจุบันเทรดกันที่ระดับ PE 10 เท่า ในปี 2019 ต่ำกว่า 11 เท่าของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 7 ปี และราคาต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานที่ 45 บาท
• คาดกำไร 2H19 น่าจะดีขึ้น จาก ค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้น และ PTTEP มีปริมารณการผลิตเพิ่มขึ้นจากการรับรู้รายได้เแหล่งก๊าซฯ ใหม่ ที่เข้าซื้อกิจการช่วงต้นปีที่ผ่านมา นอกจากนี้โรงแยกก๊าซของปตท. สามารถเดินเครื่องได้สูงกว่า 1H19 แม้ Margin ธุรกิจปิโตรเคมียังอ่อนแอ และเป็นรายได้ส่วนน้อยของกลุ่ม
• PTT คาด PTTOR เข้าตลาดหุ้นได้ภายใน 1 ปีหลังนำเสนอข้อมูลต่อ รมว.พลังงาน ก.ย. นี้ ซึ่งก็ยังอยู่ตามบริษัทเคยคาดไว้ว่าจะ IPO ในช่วง 2Q20
SCB: (ซื้อ, เป้าเชิงกลยุทธ์ 126 บาท) – Theme หุ้นลงลึกเกินพื้นฐาน
• ราคาหุ้นปัจจุบันต่ำกว่าราคาพื้นฐาน 136.00 บาท อิง PBV ที่ 1.15x (-1.25SD below 5-yr average PBV)
• SCB มี upside เพิ่มเติมจากการนำเงินที่ได้จากการขาย SCB Life ไปต่อยอดในธุรกิจอื่นๆ
Technical :STEC, KTC
Key Events
• วันนี้: BoT (Bank of Thailand)
• 31 ส.ค. : ตัวเลข PMI ของจีน
News Comment
( + ) Finance, ( 0 ) Bank: ธปท. ยันยังไม่ใช้เกณฑ์ DSR ภายในปีนี้
( - ) GFPT: อุตสาหกรรมไก่ในบราซิลเริ่มฟื้นตัว หลังจากซบเซาในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
( 0 ) CPF: สั่งยกระดับควบคุมเข้ม สกัดอหิวาต์หมู ระบาดถึง ‘เมียนมา’ แล้ว
Company Report
( + ) RS (ซื้อ / 19.00 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 2H19E ขยายตัวต่อเนื่อง
( 0 ) GPSC (ถือ / 70.00 บาท) ยังไร้ปัจจัยใหม่และราคาสะท้อน synergy benefit ไปแล้ว
Economic Outlook
• ตลาดสหรัฐฯปิดแดนบวกอีกครั้งจากความหวังสงครามการค้า หลังจากกระทรวงพาณิชย์จีนแถลงว่าทั้งสองประเทศกำลังหารือเกี่ยวกับการเจรจาการค้าในเดือนกันยายน ปัจจัยนี้จะสนับสนุนให้กลุ่มเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมให้ปรับตัวขึ้นรับข่าวดี ในส่วนของสินทรัพย์ปลอดภัยมีแรงขายออกมาเล็กน้อยตามผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
• ตัวเลขประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯรอบที่สอง รายงานออกมาเท่ากับที่ตลาดคาดการณ์ 2.0% QoQ แต่ลดลงจากประมาณการครั้งที่ 1 รวมครึ่งปีแรกขยายตัวได้ 2.6% แม้ว่าภาคการบริโภคของภาคเอกชนยังขยายตัวได้ดี แต่การลงทุนในภาคธุรกิจและภาครัฐฯบาลส่งสัญญานชะลอตัว โดยประมาณการรอบนี้มีการปรับลดการใช้จ่ายภาครัฐบาล การส่งออก และสินค้าคงคลังลงจากประมาณการรอบแรก
What to Watch
ติดตามการรายงานอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจอินเดีย ไตรมาส 2 คาดว่าขยายตัวที่ 5.7% YoY ชะลอตัวจากก่อนหน้าเล็กน้อย นอกจากนั้นมีรายงานอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของยุโรปคาดว่าใกล้เคียงกับก่อนหน้า
SET Recap
SET ปิดที่ระดับ 1,639.14 จุด เพิ่มขึ้น 22.21 จุด (+1.37%) มูลค่าการซื้อขาย 59,622.53 ล้านบาท ปัจจัยต่างประเทศ รอการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน ความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจยุโรป การเมืองอิตาลีและอังกฤษื ราคาน้ำมันดิบ ปัจจัยภายในประเทศ รอดูมาตรการเศรษฐกิจใหม่ของรัฐบาล
News Comment
( + ) Finance, ( 0 ) Bank: ธปท. ยันยังไม่ใช้เกณฑ์ DSR ภายในปีนี้
"แบงก์ชาติ" ยอมถอยมาตรการคุมภาระหนี้ต่อรายได้ ลั่นยังไม่นำมาใช้ในปีนี้ แต่กำชับให้สถาบันการเงินยึดหลักการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ ด้าน "อุตตม" ชี้เป็นดุลพินิจของ ธปท. ยันคลังไม่มีเอี่ยว พร้อมยืนยันเศรษฐกิจไทยยังไกลวิกฤติ (ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ)
KTBST:เรามีมุมมองเป็นบวกต่อกลุ่ม Financeจากการที่ ธปท. จะเลื่อนการบังคับใช้เกณฑ์ DSR ออกไปจากปีนี้ และจะมีข้อตกลง และให้รายงานข้อมูลตามมาตรฐานกลางด้าน DSR ให้ ธปท. ภายใน 4Q19 นั้นจะส่งผลดีต่อกลุ่ม Finance จากการที่บริษัทจะยังสามารถขยายสินเชื่อเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่องจากแรงกดดันด้านการพิจารณาลูกหนี้ตาม DSR ลดลง รวมทั้งการขอความร่วมมือในการนำส่งข้อมูลให้ Credit Bureau นั้น เราเชื่อว่าจะกดดันให้กลุ่มลูกหนี้ขอสินเชื่อจากธนาคารยากขึ้นและก่อให้เกิดโอกาสที่ลูกหนี้จะมาขอสินเชื่อจากกลุ่ม Finance มากขึ้น และส่งผลดีต่อผู้ประกอบการอย่าง MTC (ซื้อ/68.00 บาท) และ SAWAD (ซื้อ/60.00 บาท) ในขณะที่ผู้ประกอบการสินเชื่อบัตรเครดิตอย่าง KTC (ถือ/39.00 บาท) และ AEONTS (Bloomberg Consensus/ 236.56 บาท)จะได้ผลรับบวกเล็กน้อย จากผลกระทบของการนำ DSR มาใช้ที่จำกัดมากกว่า เนื่องจากกระบวนการปล่อยสินเชื่อบัตรเครดิตจะมีการพิจารณาถึงเครดิตบูโร, สลิปเงินเดือน หรือใบประกอบกิจการ เราจึงยังคงน้ำหนักการลงทุนเป็น “มากกว่าตลาด” ส่วนกลุ่มแบงก์เรามีมุมมองเป็นกลาง เพราะส่วนใหญ่แบงก์มีการให้ DSR ที่ระดับไม่สูงมาก โดยค่าเฉลี่ย DSR อยู่ที่ราว 50% โดยขึ้นกับประเภทสินเชื่อและความสามารถในการชำระหนี้ ซึ่งเรามองว่าผลกระทบค่อนข้างจำกัด ประกอบกับแบงก์ใช้ข้อมูลจาก Credit Bureau ในการประกอบการตัดสินใจในการให้สินเชื่ออยู่แล้ว โดยกลุ่มธนาคารยังคงน้ำหนักการลงทุนเป็น “เท่ากับตลาด” เลือก KKP เป็น Top pick ราคาเป้าหมาย 80 บาท
( - ) GFPT: อุตสาหกรรมไก่ในบราซิลเริ่มฟื้นตัว หลังจากซบเซาในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
อุตสาหกรรมไก่ในบราซิลเริ่มฟื้นตัว หลังจากซบเซาในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จากปัญหาคุณภาพเนื้อสัตว์ส่งออก โดย 6M19 บราซิลส่งออกไก่ได้มากขึ้นโต 5.8% YoYในด้านปริมาณและ 10.8% YoY ในมูลค่าขาย (ที่มา: Globalmeatnews)
KTBST:เรามีมุมมองเป็นลบต่อข่าวดังกล่าว อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการไก่ของไทยมีระบบการเลี้ยงและมาตรฐานที่สูงกว่าบราซิล โดยผู้ประกอบการไทยสามารถเปิดตลาดใหม่อย่างจีนได้มากขึ้นและได้รับความน่าเชื่อถือแทนบราซิลในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาและผู้เลี้ยงบราซิลต้องใช้เวลาในการสร้างความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม เรามีมุมมองที่ระมัดระวังต่อธุรกิจไก่อยู่แล้ว โดยคงคำแนะนำเพียง “ถือ” GFPT ราคาเป้าหมาย 18.20 บาทอิง PER ปี 2020E ที่ 15 เท่า (+1SD above 5-yr average PER)
( 0 ) CPF: สั่งยกระดับควบคุมเข้ม สกัดอหิวาต์หมู ระบาดถึง ‘เมียนมา’ แล้ว
รมช.เกษตรฯผวาโรคอหิวาต์หมูระบาดจากเพื่อนบ้านเข้าไทย เตรียมขอนายกฯ ใช้งบฉุกเฉินสกัดโรคข้ามแดน ล่าสุดระบาดเข้าเมียนมาสั่งเพิ่มอัตรากำลังกว่า 1 พันคน ตรวจฟาร์มเลี้ยงและเคลื่อนย้ายสัตว์ 24 ด่าน ตลอดแนวชายแดน เร่งลงพื้นที่ท่าเรือเชียงแสน จ.เชียงราย ระดมอุดรอยรั่วจุดเสี่ยง (ที่มา: เว็บไซต์แนวหน้า)
KTBST:เรามีมุมมองเป็นกลางต่อข่าวดังกล่าว คาดว่าหากอหิวาห์หมูลามเข้าไทยจะทำให้เกิด panic และลดการบริโภคหมูในระยะสั้น โดยจะกระทบต่อผู้เลี้ยงขนาดเล็กที่เป็นฟาร์มเปิด แต่จะเป็นประโยชน์ระยะยาวต่อผู้ประกอบการปศุสัตว์ขนาดใหญ่ เช่น CPF เพราะเลี้ยงด้วยระบบที่มีความปลอดภัยกว่า และจะได้รับประโยชน์ในระยะยาวเพราะคู่แข่งจะลดลงไปมาก อย่างไรก็ตาม ไทยมีการเตรียมการรับมือที่ค่อนข้างเข็มงวดกว่าประเทศเพื่อนบ้าน อีกทั้งอหิวาห์หมูจะไม่ติดต่อสู่คน รวมถึงไทยยังสามารถป้องกันโรคระบาดได้ในขณะนี้ ทั้งนี้ เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” CPF ราคาเป้าหมาย 33.00 บาทอิง SOTP
Company Report
( + ) RS (ซื้อ / 19.00 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 2H19E ขยายตัวต่อเนื่อง
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” และคงราคาเป้าหมายปี 2020 ที่ 19.00 บาท อิง DCF เทียบเท่า 2020 PER 24.8x จากการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ (29 ส.ค. 2019) เรามีมุมมองเป็นบวกเล็กน้อยต่อ Outlook ของ RS ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ในปี 2022 ที่ 10,000 ล้านบาท และยังคงเน้น Horizontal expansion สำหรับแนวโน้มธุรกิจ MPC ใน 2H19E ยังคงขยายตัวต่อเนื่องทั้ง YoY, HoHหนุนโดยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และทำการตลาด Digital marketing ด้านธุรกิจ Media คาดเรตติ้งจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องใน 2H19E จากการปรับผังรายการ สำหรับ Synergy ระหว่าง BTS กับ RS จะอยู่ในรูปแบบดังนี้ 1) การแชร์ Database ร่วมกัน เพื่อขยายฐานลูกค้าทั้ง 2 ฝ่าย, 2) การใช้สื่อร่วมกันระหว่าง 2 platforms, 3)มีแผนที่จะออก product ใหม่เพื่อเจาะกลุ่ม Mass ให้เหมาะกับฐานลูกค้า BTS โดยจะเริ่มเปิดตัวใน 1Q20 โดยผู้บริหารมองว่า Synergy ระหว่างกัน จะหนุนให้ธุรกิจ MPC เติบโตก้าวกระโดด ทั้งนี้ เราประเมินว่าจะได้เห็นความชัดเจนของจะเห็น Synergy ที่ชัดเจนระหว่าง RS กับ BTS ในปี 2020E จากประเด็นข้างต้น เราเชื่อมั่นว่า แนวโน้มกำไรสุทธิ 2H19E และปี 2020E จะยังคงเป็นวัฏจักรขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย RS จะสามารถ deliver รายได้ตามที่เราคาด เราคงประมาณผลประกอบการปี 2019 -20E ที่ 584 ล้านบาท (+13%YoY) และ 777 ล้านบาท (+33%YoY) อย่างไรก็ตาม แม้ราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมา +8% ใน 3 เดือนที่ผ่านมา แต่เรามองว่า valuation ยังน่าสนใจเมื่อเทียบกับกลุ่ม Commerce ปัจจุบัน RS เทรดอยู่ PER 22.2x ทั้งนี้ เรายังไม่ได้รวมรายได้จาก synergy กับ BTS ในประมาณการ
( 0 ) GPSC (ถือ / 70.00 บาท) ยังไร้ปัจจัยใหม่และราคาสะท้อน synergy benefit ไปแล้ว
เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” และราคาเป้าหมายที่ 70.00 บาท (อิง DCF: WACC 5.5%, terminal growth 0%) เรามีมุมมองเป็นกลางจากการจัด opportunity day วานนี้ (29/8/19) โดยยังไม่มีประเด็นใหม่ๆเพิ่มเติม โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาซึ่งจะทยอย COD ในช่วง 2019-23 ยังคงเดินหน้าตามกรอบเวลาที่กำหนด ในขณะที่การเพิ่มทุน 7.4 หมื่นล้านบาทได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นเรียบร้อย มีอัตราใช้สิทธิ 1:0.8819 ที่ราคา 56.00 บาทต่อหุ้น ขึ้น XR 3/9/19 และหุ้นเพิ่มทุนจะเริ่มเข้าเทรดในวันที่ 15/10/19 โดยเราประเมินราคาหลัง dilute อยู่ที่ 64.50 บาท (อิงราคาตลาดที่ 72.00 บาท) พร้อมกันนี้บริษัทเตรียม delisted หุ้น GLOW ในช่วงปลายปี 2019 ราคาหุ้นที่ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นราว 14% ซึ่งเรามองตลาดตอบรับประเด็นบวกเรื่อง synergy benefit ที่จะเกิดขึ้นไปแล้ว ทำให้ upside จำกัดและการลงทุนโครงการใหม่ในระยะสั้นยังไม่เห็นความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมทำให้ขาด catalyst ใหม่ที่จะทำให้หุ้น outperform ได้ใน 2H19
Market
• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (29 ส.ค.) หลังจากรัฐบาลจีนยืนยันว่ากำลังหารือกับสหรัฐเกี่ยวกับการจัดประชุมเพื่อเจรจาการค้าในเดือนก.ย. พร้อมประกาศเจตนารมณ์ที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐอย่างสงบ โดยข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า และยังช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,362.25 จุด เพิ่มขึ้น 326.15 จุด หรือ +1.25% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,924.58 จุด เพิ่มขึ้น 36.64 จุด หรือ +1.27% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,973.39 จุด เพิ่มขึ้น 116.51 จุด หรือ +1.48%
• ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากความเห็นของรัฐบาลจีนเกี่ยวกับการเจรจาการค้ากับสหรัฐ และ ตลาดหุ้นอิตาลีที่ทะยานขึ้นได้ช่วยหนุนตลาดหุ้นยุโรปโดยรวมด้วย
• ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 1.04% ปิดที่ 376.74 จุด
• ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,449.97 จุด เพิ่มขึ้น 81.17 จุด หรือ +1.51%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,838.88 จุด เพิ่มขึ้น 137.86 จุด หรือ +1.18% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,184.32 จุด เพิ่มขึ้น 69.61 จุด หรือ +0.98%
• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (29 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงอย่างมากในสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ส่งสัญญาณคืบหน้า ยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดน้ำมัน
• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 93 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 56.71 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.
• สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 59 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 61.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 ส.ค.) หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐทะยานขึ้นกว่า 300 จุด ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่นหุ้น นอกจากนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ยังส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์ มีความน่าดึงดูดน้อยลง
• สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 12.20 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 1,536.90 ดอลลาร์/ออนซ์
Economic & Company
• 'ทุนธนชาต' จัดทัพธุรกิจแสนล. ชูจุดแข็ง 'โฮลดิ้งการเงิน' ครบวงจร 'ฝ่า' ยุคดิจิทัล
มั่นใจควบ "ทีแบงก์-ทีเอ็มบี" หนุนกำไรโตยั่งยืน
"ทุนธนชาต" ขึ้นแท่นโฮลดิ้งธุรกิจการเงินครบวงจร ชูจุดแข็ง "ความคล่องตัว" รับโลกธุรกิจยุคดิจิทัล ลั่นนำสินทรัพย์ "1.4 แสนล้าน" สร้างผลตอบแทนผู้ถือหุ้นเติบโตยั่งยืน เดินหน้าเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ "แบงก์ธนชาต-ทีเอ็มบี" คาดรับรู้เต็มที่ภายใน 2 ปี ขณะที่ธุรกิจอื่นๆ "ลิสซิ่ง-ประกันภัย" เติบโตต่อเนื่อง
• ศก.ไทยไม่ซ้ำรอยต้มยำกุ้ง 'อุตตม'โชว์ทุนสำรองสูงลิ่ว ต่างชาติให้เครดิตแข็งแกร่ง
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยในงานสัมมนา แผนรบสยบวิกฤติ หัวข้อ ไม่ทำก็ตาย ว่า ยืนยันไทยจะไม่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง ซ้ำรอยเหมือนปี 40 ซึ่งสมัยนั้นธุรกิจใหญ่ เล็ก รวมถึงบริษัทต่าง ๆ ล้มเป็นจำนวนมาก สถาบันการเงินได้รับความเสียหาย ซึ่งเศรษฐกิจไทยในปีนี้แตกต่างจากเดิม เพราะทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าเงินกู้ระยะสั้นถึง 3 เท่า เสถียรภาพทางการเงินการคลังก็เข้มแข็ง สถาบันการจัดอันดับต่าง ๆ มองว่าไทยมีความแข็งแกร่งมาก
• รถไฟ 3 สนามบินเซ็นแน่ SEAFCO รับเต็มเสาเข็ม
"ศักดิ์สยาม" กำงบกระทรวง 1.9 ล้านล้านบาท เดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน มั่นใจ รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เซ็นสัญญาเดือนหน้า นักวิเคราะห์ชี้มีงานเสาเข็มรอ 1.2 หมื่นล้านบาท เคาะ SEAFCO ได้ประโยชน์ เป้า 11.30 บาท
• AMATA ลูกค้าจีน-ญี่ปุ่นเจรจาซื้อที่ดิน 1,000 ไร่
AMATA เจรจาซื้อขายที่ดินลูกค้าจีน-ญี่ปุ่นกว่า 1 พันไร่ ดันทั้งปียังคงเป้ายอดขายที่ 950 ไร่ โดยครึ่งปีแรกโกยยอดขายแล้ว 300 ไร่ หวังผลงานครึ่งปีหลังดีขึ้น ตุน Backlog ที่ 3.75 พันล้านบาท ทยอยโอน 70% พร้อมปรับเพิ่มราคาที่ดินรักษาระดับมาร์จิ้น ทุ่มงบลงทุน 4-5 พันล้านบาท ซื้อที่ดินเพิ่ม
• ANAN ฐานะการเงินแข็งแกร่ง กำเงินสด 5.9 พันล้าน รองรับขยายธุรกิจ
ANAN โชว์ฐานะการเงินแข็งแกร่ง กอดเงินสดในมือกว่า 5.9 พันล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต พร้อมมุ่งขยายโครงการคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า ตามแผนขยายรถไฟฟ้าจาก 80 สถานีในปัจจุบัน สู่ 300 สถานีในอนาคต
• RATCH เร่งเซ็นขายไฟ ลูกค้านิคมฯนวนครเพิ่ม จ่อขยาย NNE 40-50MW
"RATCH" เร่งเซ็นสัญญาลูกค้านิคมฯนวนครเพิ่ม หวังเดินเครื่อง NNE เต็มกำลัง ล่าสุดอยู่ระหว่างเจรจาขายไฟให้ กฟผ.เพิ่ม รองรับแผนก่อสร้างส่วนขยายอีก 40-50 เมกะวัตต์
• SPA แย้มงบครึ่งหลังแจ่ม ชูแบรนด์ Let's Relax เตรียมเปิด 5 สาขาใหม่
SPA ส่งซิกผลงานครึ่งปีหลังแจ่ม! ชูเป็นช่วงไฮซีซั่น เตรียมเปิดสาขาใหม่ภายใต้แบรนด์ Let's Relax อีก 5 สาขา หนุนรายได้ปีนี้โตมากกว่า 20%
บริษัท หลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน)
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ 02 648 1111