- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 27 August 2019 16:45
- Hits: 1262
รู้ทันหุ้น : บล.เคจีไอ
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
รีบาวด์แต่ไม่ไกล... ติดตามข่าวสงครามการค้าต่อไป
KGI ประเมิน SET Index วันอังคารรีบาวด์ แต่น่าจะยังผันผวนสูง... หลังวานนี้หุ้นไทยร่วงตามหุ้นโลก นำโดยกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์และกลุ่มเชื่อมโยงเศรษฐกิจโลก (ตามคาด) หลังสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนรุนแรงขึ้น... อย่างไรก็ดีจิตวิทยาตลาดหุ้นโลกเปลี่ยนไปรวดเร็วตามคำพูดของ ปธน.ทรัมป์ และล่าสุดทรัมป์พลิกมาส่งสัญญาณบวกต่อตลาดตั้งแต่เมื่อวานบ่าย หลังเขากล่าวว่า 'ทางการจีนได้ติดต่อมาเพื่อขอเจรจาการค้าอย่างจริงจัง' ซึ่งแม้ว่าสื่อของทางการจีนรีบออกมาปฎิเสธข่าวในทันที แต่ข่าวดังกล่าวน่าจะส่งผลดีต่อจิตวิทยาหุ้นเอเชียและหุ้นไทยต่อในวันนี้ อย่างไรก็ดีระดับของการฟื้นตัวน่าจะไม่มาก หลังราคาน้ำมันดิบชะลอตัวตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา หลังจากทรัมป์กล่าวกับสื่อว่าพร้อมกลับมาเจรจากับผู้นำอิหร่านในประเด็นอาวุธนิวเคลียร์ใน 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า... ด้านปัจจัยภายในประเทศ ตลท. จัดงาน Thailand Focus 2019 ระหว่างวันที่ 28-30 ส.ค. น่าจะยกระดับความสนใจของนักลงทุนต่างประเทศต่อตลาดหุ้นไทยได้บ้าง ขณะที่ ณ ราคาปิดวันนี้ ทาง MSCI จะปรับน้ำหนักการลงทุนของตลาดหุ้นรายไตรมาส งวด ส.ค. 2562 ซึ่งจะมีการเพิ่มน้ำหนักตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นซาอุฯ เล็กน้อย ส่งผลให้น้ำหนักของหุ้นไทยลดลงเล็กน้อยในตระกร้าดัชนี MSCI EM แต่ประเด็นดังกล่าวน่าจะสะท้อนไปในการขายสุทธิสะสมของต่างชาติที่สูงถึง 5.0 หมื่นล้านบาทแล้ว นับจากต้นเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร TCAP*, BCPG*, WHAUP*
TCAP* (เป้าพื้นฐาน 61 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 50 บาท / แนวต้านแรก 52.25 บา หากผ่านได้ประเมินแนวต้านถัดไป 54 บาท (Stop loss 49.5 บาท) 2) ที่ประชุมบอร์ดมีมติ i) ซื้อหุ้นคืนจำนวนไม่เกิน 97 ล้านหุ้น วงเงินไม่เกิน 5 พันล้านบาท (หากซื้อหุ้นคืนเต็มจำนวน และตัดจำนวนหุ้นนี้ออก EPS จะเพิ่มขึ้น +8.3%) และ ii) จ่ายปันผลพิเศษ 4 บาท/หุ้น (Yield พิเศษ 8%) โดยคาดจะจ่ายหลังดีลควบรวม TMB*+TBANK เสร็จสิ้น
BCPG* (เป้า Consensus 19.9 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 17.8 บาท / แนวต้านแรก 18.6 บาท หากผ่านได้ประเมินแนวต้านถัดไป 19.1 - 19.7 บาท (Stop loss 17.8 บาท) 2) แนวโน้มดอกเบี้ยต่ำคาดทำให้หุ้นที่มีโครงสร้างกระแสเงินสดคล้ายพันธบัตรอย่างกลุ่มโรงไฟฟ้า Outperform ตลาดฯ + โอกาสในการ Re-finance ลดต้นทุนดอกเบี้ย ... ล่าสุด EA* ออกหุ้นกู้รีไฟแนนซ์แล้ว 3) BCPG* มี Valuation ที่ไม่แพง เทียบกับหุ้นตัวอื่นในกลุ่มโดยมี PE ปี 2562 - 63 เท่ากับ ±18.5 เท่าและ ±16 เท่า ตามลำดับ และปันผล ±3.5% ต่อปี สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ +2.5% ต่อปี
WHAUP* (เป้าพื้นฐาน 9.4 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 6.55 บาท / แนวต้าน 6.8 บาท หากผ่านได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 7.0 บาท (Stop loss 6.35 บาท) 2) ประเมินหุ้นเป็นหุ้นที่ได้อานิสงส์โครงการ EEC ที่ยังมี Upside (หุ้นกลุ่มนิคมฯ Upside เริ่มจำกัด) 3) คาดปันผลเฉลี่ย +3.8% ต่อปี สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ +2.5% ต่อปี
หุ้นเชิงปริมาณ & พื้นฐาน "Quantamental"
หุ้นเด่น JMT (Trailing stop ล๊อกกำไรถ้าต่ำกว่า 17.8 บาท)
กลยุทธ์ Pair trade i) แนะนำ Long STEC* + Short CK* และ ii) แนะนำ Long MTC* / Short SAWAD*
หุ้นมีข่าว
(+) คณะกรรมการบริหารของ TCAP* มีมติให้ TCAP ทำการซื้อคืนหุ้นจำนวนไม่เกิน 97 ล้านหุ้น และมีการจ่ายเงินปันผลพิเศษจำนวน 4 บาท ซึ่งการทำรายการเหล่านี้จะทำภายหลังจากที่การควบรวมกิจการระหว่าง Tbank และ TMB* แล้วเสร็จในเดือนธ.ค.2562 (ที่มา ข่าวตลาดหลักทรัพย์) ความเห็น : มติของกรรมการบริษัทดังกล่าวเป็นผลบวกต่อราคาหุ้น และช่วยลดความผันผวนของราคาหุ้นในช่วงราคาหุ้นธนาคารถูกเทขาย ซึ่งภายใต้ราคาตลาดของบริษัทในปัจจุบันการซื้อหุ้นคืนจะใช้เงินประมาณ 4.8 พันล้านบาท และทำให้จำนวนหุ้นลดลง 8.3% ส่วนเงินปันผลพิเศษที่ 4 บาท คิดเป็นเงินปันผลตอบแทนส่วนเพิ่มอีกประมาณ 8%
(0) เซ็นทรัลวิลเลจยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง (MGR Online): บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) (CPN.BK/CPN TB)* ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลปกครองคุ้มครองชั่วคราว โดยศาลให้นัดไต่สวนฉุกเฉินในวันที่ 28 ส.ค.2562 ทั้งนี้ CPN แจ้งว่าการกระทำของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT.BK/AOT TB)* ที่มีการตั้งสิ่งกีดขวางเข้าโครงการเซ็นทรัลวิลเลจนั้นตั้งอยู่บนความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องและอาจถือเป็นคดีอาญาได้ ความคิดเห็น: เรามองว่าข่าวนี้เป็นการตอบโต้ที่สมเหตุสมผลจากการที่บริษัทมีหลักฐานพิสูจน์ว่าทำตามกฏเกณฑ์ทั้งหมดที่เกี่ยวกับการก่อสร้างโครงการเซ็นทรัลวิลเลจ เรายังคงมุมมองว่าเซ็นทรัลวิลเลจจะสามารถเปิดบริการได้ใน 3Q62 เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาเป้าหมายเดิมที่ 78.00 บาท
(+) กมธ.จะนำเสนอ 3 แนวทางให้กับ รมว.คมนาคม สำหรับประเด็นการยืดอายุสัญญาสัมปทานทางด่วนในวันนี้ (ข่าวหุ้น) เราเชื่อว่า แนวทางที่เป็นไปได้มากที่สุดในการแก้ปัญหาการชดเชยค่าเสียหายที่ กทพ. มีกับ BEM* จะเป็นการต่ออายุสัญญาสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 1 ออกไป 30 ปี ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะเป็นบวกต่อมูลค่าหุ้น BEM อีกด้วย ทั้งนี้ รมว.คมนาคมจะเป็นผู้ตัดสินใจก่อนที่จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ในลำดับต่อไป เรายังคงแนะนำซื้อ BEM โดยมีราคาเป้าหมาย 11.10 (อ้างอิงการต่ออายุสัมปทานทางด่วนออกไป 20 ปีในขณะนี้)
(+) BTS* ลุ้นก.ย. มท.ต่อสัมปทาน ชี้ผลตอบแทนคุ้ม (กรุงเทพธุรกิจ) "บีทีเอส" ลุ้นมหาดไทยเคาะต่ออายุสัมปทาน 30 ปี คาดได้ข้อสรุป ก.ย.นี้ ยื่นข้อเสนอผลตอบแทนรัฐหลักแสนล้านบาท คาดต้องลงทุนเพิ่มตลอดสัญญาใหม่ ซื้อรถ ขยายสถานีแสนล้าน
(+) EA* เร่งรีไฟแนนซ์หนี้ ลดภาระดอกเบี้ย 100 ล. (กรุงเทพธุรกิจ) "พลังงานบริสุทธิ์" เตรียมออกหุ้นกู้อีก 3 พันล้าน รวมของเดิมเป็น 1 หมื่นล้าน ใช้รีไฟแนนซ์หนี้เดิม กดต้นทุนดอกเบี้ยลด 1% ช่วยลดภาระดอกเบี้ย ได้ถึงปีละ 100 ล้าน เหตุได้รับปรับเรทติ้ง เพิ่มเป็นระดับ A พร้อมมั่นใจรายได้ปีนี้ ไม่ต่ำกว่า 1.5 หมื่นล้าน
(+ กลุ่มรับเหมาฯ) หูกวางสกัดจีนชิงรับเหมาลั่น THAI FIRST-สปีดลงทุน (ทันหุ้น) รัฐมนตรีคมนาคม พร้อมสกัดจีน ชิงงานรับเหมาขนาดใหญ่ ลั่นนโยบาย THAI FIRST ล็อกเกณฑ์ผู้ถือหุ้นต้องสัญชาติไทยไม่ต่ำกว่า 51% ก่อน ยืนยันเร่งสปีดโครงการค้างท่อ เตรียมหารือใน ครม.เศรษฐกิจ พร้อมเสนอขยายกรอบวินัยการคลัง ซอยโปรเจ็กต์แก้ปัญหางบประมาณ เตรียมขยายกรอบ PPP เปิดโอกาสเอกชนมากขึ้น ย้ำรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบินจบกันยายนนี้
(+) WHA* ลุยเปิดนิคมใหม่ 3 แห่ง มีที่ดินรอปล่อยกว่า 1 หมื่นไร่ (ทันหุ้น) WHA* เล็งเปิดนิคมใหม่ 3 แห่ง รวมกว่า 10,000 ไร่ ภายในปี 2563-2565 ดันยอดขายที่ดินพุ่ง "จรีพร จารุกรสกุล" ส่งซิกไตรมาส 3/2562 มีลุ้นปิดดีลลูกค้าต่างชาติเพิ่ม ขณะที่ธุรกิจน้ำแนวโน้มโตดีคาดปริมาณขายเข้าเป้า 12 ล้านลูกบาศก์เมตร มั่นใจผลงานสิ้นปีโตเข้าเป้า 70% ตุน Backlog กว่า 1,100 ไร่ ทยอยโอนปีนี้ 600-700 ไร่
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
PLANB* (เป้าพื้นฐาน 9 บาท) ประเมินแนวรับ 8.8 บาท / แนวต้าน 9.1 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailign stop ล๊อกกำไร 8.6 บาท)
TFG (เป้าพื้นฐาน 5.35 บาท) ประเมินแนวรับ 5 บาท / แนวต้าน 5.2 บาท หากผ่านได้ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 5.45 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 4.8 บาท)
GLOBAL* (เป้าพื้นฐาน 19.6 บาท) ประเมินแนวรับ 15 บาท / แนวต้าน 15.6 - 16.0 บาท (Stop loss 14.9 บาท)
SAMTEL (เป้าพื้นฐาน 14.3 บาท) ประเมินแนวรับ 10 บาท / แนวต้าน 11.2 บาท (Stop loss 9.5 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
กลุ่มสื่อสาร น้ำหนักการลงทุน "มากกว่าตลาดฯ" ฝ่ายวิจัยฯประเมิน i) แนวโน้มกำไร 2H62 ของกลุ่มฯจะยังโต HoH และ YoY ii) ปันผลของ ADVANC* และ INTUCH* น่าสนใจเมื่อเทียบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ลดลง iii) ฝ่ายวิจัยฯปรับสมมติฐาน Risk free rate สำหรับการคำนวณ Valuation หุ้นไทยด้วยวิธี DCF ลงจาก 3.7% เป็น 3.1% สะท้อนสถานการณ์แนวโน้มดอกเบี้ยต่ำ หลังการปรับสมมติฐานแล้วยังคงเลือก ADVANC* และ INTUCH* เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มฯ
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- นัยรับ 1619 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1619 จุดนั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1619-1641 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1619 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1619-1607 จุด
แนวรับวันนี้: 1619/1608 แนวต้านวันนี้: 1629/1639
หมายเหตุ : (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
ดัชนี SET ต่อกำไรต่อหุ้นประเมินสิ้นปี 2562 (Price per Earnings Ratio – PER) 16.44 เท่า
ดัชนี SET ต่อมูลค่าบัญชีต่อหุ้นประเมินสิ้นปี 2562 (Price per Book Ratio - PBR) 1.55 เท่
หมายเหตุ : (1) แนวโน้มดัชนี SET เป็นการวิเคราะห์เฉพาะปัจจัยกราฟ (Charting) ราคาต่อกำไร (Price to Earnings Ratio-PER) ราคาต่อมูลค่าบัญชี (Price to Book Ratio-PBR) และจิตวิทยาตลาด (2) หุ้นแนะนำเทคนิคอิงตามหลักการเทคนิค (Charting) เพียงอย่างเดียว ซึ่งใช้เพื่อเก็งกำไรระยะสั้นไม่เกิน 5 วันเท่านั้น ผู้ลงทุนควรรับรู้กำไรหรือจำกัดขาดทุน ซึ่งเป็นคำแนะนำที่อาจต่างจากคำแนะนำปัจจัยพื้นฐานได้
1 อดิศักดิ์ คำมูล
2 66.2658.8888 ต่อ 8843