CNS Daily Strategy : คาดตลาด “ฟื้นตัวต่อ” ต้าน 1649/1653จุด รับ 1631/1623จุด FOMC Minutes ชี้กรรมการ FED บางส่วนสนับสนุนการปรับลดดอกเบี้ย 0.5% เพิ่มความคาดหวังว่า FED จะปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม ซึ่ง Nomura คาดเดือนก.ย. ทำให้นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของประธาน FED 23 ส.ค.นี้อย่างใกล้ชิด ส่วนไทยได้แรงหนุนจากอัตราการส่งออก หลังกลุ่มอาหารและอิเลกทรอนิกส์ฟื้นตัว ประกอบกับยอดการส่งออกไปยังสหรัฐฯและจีนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัย ผลประโยชน์จาก Trade War เป็นจิตวิทยาบวกหนุนตลาดฟื้นตัวต่อได้ วันนี้แนะ Theme: “Selective Play” : TOP, BGRIM, GUNKUL

 

Nomura : Key Factors

• (+) US: FOMC Minutes ชี้กรรมการ FED บางส่วนสนับสนุนการปรับลดดอกเบี้ย 0.5%

• (*) US: ติดตามการประชุม Jackson Hole ซึ่งประธาน FED จะแถลง 23ส.ค.นี้

• (+) TH: อัตราส่งออกไทยปรับตัวดีขึ้น หลังกลุ่มอาหารและอิเลกทรอนิกส์ฟื้นตัว ประกอบกับยอดการส่งออกไปยังสหรัฐฯและจีนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัย ผลประโยชน์จาก Trade War

• (+) TH: ต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันแรกที่ 24 ล้านเหรียญ หลังขายสุทธิ 7 วันติดต่อกัน

• (*) Fund Flow: ซื้อหุ้น +753 ลบ, Short Future -10,231 สัญญา, ขาย Bond -7,473ลบ

 

Nomura Daily Top Picks : TOP, BGRIM, GUNKUL

 

Equity Daily Outlook : คาดตลาด “ฟื้นตัวต่อ” ต้าน 1649/1653จุด รับ 1631/1623จุด รายงาน FOMC Minutes สำหรับการประชุมประจำเดือนก.ค. เปิดเผยว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% นั้น มีเป้าหมายเพื่อป้องกันไม่ให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำเกินไป และป้องกันความเสี่ยงที่การลงทุนในภาคธุรกิจจะทรุดตัวลงมากขึ้น จากความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีของปธน. Trump นอกจากนี้ กรรมการบางส่วนเสนอให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากถึง 0.50% เพื่อกระตุ้นอัตราเงินเฟ้อให้ดีดตัวขึ้นสู่เป้าหมายของ FED ที่ 2% สะท้อนโอกาสที่ FED จะปรับลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งมีอยู่มาก ซึ่ง Nomura และ Consensus คาดจะเกิดขึ้นในเดือนก.ย. ดังนั้น นักลงทุนจึงจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธาน FED ในการประชุม Jackson Hole ในวันพรุ่งนี้ เพื่อจะเป็นตัวบ่งชี้ทิศทางดอกเบี้ยในช่วงถัดไป ส่วนปัจจัยในประเทศ อัตราการส่งออกไทยเดือนก.ค. ปรับตัวขึ้น +4.3% สวนคาด ซึ่งหากไม่รวมทองคำ -0.4%y-y ดีกว่าตลาดคาดการณ์ที่ -2.05%y-y และฟื้นตัวแรงจากมิ.ย. -8.7%y-y  แรงหนุนจากการส่งออกอาหารและชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกส์ที่ดีขึ้น ขณะที่หากดูจากประเทศปลายทางการส่งออก จะพบว่า อัตราการส่งออกไปยังสหรัฐฯเพิ่มขึ้นสู่ 9.8% สูงกว่า 2Q19 ที่ 3.3% และการส่งออกไปยังจีน เพิ่มขึ้นสู่ 6.2% ดีขึ้นจาก 2Q19 ที่ติดลบ -9.1% บ่งชี้อย่างเป็นนัยว่าไทยเริ่มได้ประโยชน์จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน (สหรัฐฯจะเรียกเก็บภาษีสินค้าจีน 1.31 แสนล้านเหรียญ วันที่ 1ก.ย. และอีก 1.65 แสนล้านเหรียญ วันที่ 15ธ.ค.) ผสานกับทิศทาง Fund Flows ที่เริ่มเป็นบวก หลังต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกที่ 24 ล้านเหรียญ หลังขายสุทธิ 7 วันติดต่อกัน เป็นจิตวิทยาบวกต่อตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวต่อได้

 

Daily Strategy :  ตลาดยังแกว่งใน Fundamental Zone ในการสะสมหุ้นกรอบ 1640-1580จุด ให้ ถือหุ้น 82.5% แนะนำ “Selective Play”

1. Property : ผ่อนปรน LTV หนุนกลุ่มตลาดกลาง-ล่าง PSH, SPALI, AP เด่น

2. มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1. บรรเทาช่วยเหลือเกษตรกรและชาวไร่ วงเงินรวม 2.10แสนล้านบาท และ 2.ดูแลปรับเพิ่มสวัสดิการสำหรับผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ และ 3.กระตุ้นการอุปโภคบริโภคและการลงทุนในประเทศ เช่น กระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรองใช้เงิน 15,000 ล้านบาท และยังเตรียมต่ออายุวีซ่าด่านตรวจคนเข้าเมือง Visa On arrival (VOA) และยกเว้นวีซ่านักท่องเที่ยวจีน อินเดีย บวกต่อกลุ่มการบริโภค(CPALL, BJC, GLOBAL, DOHOME, SABINA, KAMART) และกลุ่มท่องเที่ยว/โรงพยาบาล(AOT, MINT, ERW, BH)

3. กลุ่มที่ได้อานิสงค์บวกจากดอกเบี้ยขาลง ได้แก่ 1) Consumer Finance: SAWAD,  AMANAH, JMART 2) High Yield: ADVANC, INTUCH, KKP 3) Property: AP, SPALI 4) ส่งออกอาหาร : CPF, TU(cover short) 5) ท่องเที่ยว MINT, AOT, ERW 6) นิคม AMATA, WHA 7) โรงไฟฟ้า เน้นตัวที่ FTSE เพิ่มน้ำหนัก BGRIM 8) การบริโภค CPALL, KAMART, ICHI, ZEN

4. FTSE คาดประกาศเพิ่มน้ำหนัก BGRIM & KTC คืนวันศุกร์, INTUCH MSCI เพิ่ม 20ล้านเหรียญฯ

5. AUG 2019 Top Picks : SABINA, AMANAH, CPF, JMART, AMATA, TASCO, SCB

 

2019F Strategy : Wind of Change        

• 2H19 Best Picks :  ROBINS, CPF, CPALL, MINT, SCB, AMATA, WHA, STEC, PYLON, TASCO, KAMART

 

 

Fundamental & Tactical Daily Top Picks :

TOP (TP20F 80*): Support 64.25/63.75 Resistant 65.75/66.75        

• Theme : Event play

• Earning Outlook : แม้ภาพรวมกำไรทั้งปี ยังมีผลกระทบจากภาวะอุตสาหกรรมชะลอ (ขาดทุน Stock, ค่าการกลั่นและปิโตรเคมี) แต่ภาพกำไร 3Q19F คาดฟื้นตัว q-q ได้ จากค่าการกลั่นเพิ่มตามฤดูกาล และการปิดโรงกลั่นในอเมริกา

• Valuation :  ราคาปรับลงมาแรงสะท้อนแนวโน้มผลประกอบการที่อ่อนแอไปมาก และซื้อขายที่ FY19F P/B ที่ 1.04x ต่ำกว่า Mean ที่ 1.4x  สามารถเก็งกำไรได้

• Catalyst : ตลาดรวมอยู่ในกรอบซื้อเชิงพื้นฐาน 1580-1640 มอง TOP ซื้อเก็งกำไร และเป็นหุ้น High beta ที่น่าจะถูก Cover short แรง 

 

BGRIM (TP19F 37.2*): Support 36.0/35.5 Resistant 38.0/38.5        

• Theme: Earnings Play

• Earning outlook: คาดกำไร 2H19F เติบโตเด่นทั้ง y-y, h-h จากการรับรู้โครงการใหม่ใน 1H19 ราว 816 MW เต็มที่ + เชื่อมระบบขายไฟกับลูกค้า IU ระยองได้ 11 MW และมีโครงการใหม่รอ COD เพิ่ม 5 MW (Interchem) อีกทั้ง GPM ยังเพิ่มจากแรงหนุนโรงไฟฟ้า Solar ซึ่งมีมาร์จิ้นสูงกว่า SPP Gas กว่าเท่าตัว ภาพรวมคาดกำไร 19F โต 55.8% ที่ 2.9 พันล้านบาท

•  Valuation: แนวโน้มกำไรในช่วง 3 ปีข้างหน้า ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง +36%CAGR ทำให้ PE ratio ลดลงได้ในปีหลังๆ โดย PER2020F ลดลงเหลือ 22x อยู่ในระดับที่เหมาะสม

• Catalyst: ทิศทางกำไรปกติเติบโต q-q ต่อใน 3Q19F+ Upside risk จากวงจรดอกเบี้ยต่ำเป็นบวกต่อกลุ่มโรงไฟฟ้าจากการลดลงของต้นทุนทางการเงิน ขณะที่รายได้มีความสม่ำเสมอ ถือเป็นหุ้น Defensive ที่มี Growth สูง

 

GUNKUL (TP19F 3.75*): Support 3.0/2.94 Resistant 3.14/3.18        

• Theme: Earnings Play

• Earning outlook: คาดกำไร 2H19F เติบโตเด่นทั้ง y-y, h-h จากการรับรู้โครงการใหม่ใน 1H19 ราว 816 MW เต็มที่ + เชื่อมระบบขายไฟกับลูกค้า IU ระยองได้ 11 MW และมีโครงการใหม่รอ COD เพิ่ม 5 MW (Interchem) อีกทั้ง GPM ยังเพิ่มจากแรงหนุนโรงไฟฟ้า Solar ซึ่งมีมาร์จิ้นสูงกว่า SPP Gas กว่าเท่าตัว ภาพรวมคาดกำไร 19F โต 55.8% ที่ 2.9 พันล้านบาท

•  Valuation: แนวโน้มกำไรในช่วง 3 ปีข้างหน้า ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง +36%CAGR ทำให้ PE ratio ลดลงได้ในปีหลังๆ โดย PER2020F ลดลงเหลือ 22x อยู่ในระดับที่เหมาะสม

• Catalyst: ทิศทางกำไรปกติเติบโต q-q ต่อใน 3Q19F+ Upside risk จากวงจรดอกเบี้ยต่ำเป็นบวกต่อกลุ่มโรงไฟฟ้าจากการลดลงของต้นทุนทางการเงิน ขณะที่รายได้มีความสม่ำเสมอ ถือเป็นหุ้น Defensive ที่มี Growth สูง

 

Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)