- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 21 August 2019 17:03
- Hits: 4232
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ภาพตลาดและแนวโน้ม
Market wrap & Outlook
เมื่อวาน SET โดนเท: ดัชนีฯโดนแรงขายหุ้น แบงก์ (สิ้นสุดการรีบาวด์ระยะสั้น), Global play อย่าง IVL PTTGC PTTEP กดดัน / ส่วนหุ้น Domestic & Defensive ถือว่าแข็งกว่าตลาด บวกสวนภาพรวม เช่น ADVANC CPF GULF CPALL
วันนี้คาด Sideways down : คาด SET ม้วนตัวลงตามตลาดหุ้นภูมิภาค มองกรอบวันนี้ 1615-1640 จุด กลยุทธ์ แนะเลือกลงทุนเป็นรายตัว สะสมธีม มาตรการกระตุ้นการลงทุน ที่ ครม.เศรษฐกิจ เตรียมออก นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมวันศุกร์นี้ โดยรอบนี้จะเน้นไปที่ การดึงเงินลงทุนโดยตรงเข้าประเทศ
What to watch
(*/+) รัฐบาล เตรียมปัดฝุน "แมตชิ่งฟันด์" : ดึงเงินท้องถิ่น (อปท.) ปลุกเศรษฐกิจชุมชน ยกตัวอย่าง อบต.แหลมฉบังมีเงินสะสมเป็นพันล้าน ชี้หน่วยงานท้องถิ่นอยากใช้เงิน แต่กลัว สตง.ตรวจเข้ม แนะ กระทรวงมหาดไทย ออกระเบียบ ใช้จ่ายเงินให้ชัดเจน ด้าน รมว.มหาดไทยเผย มีเงินสะสมแค่ 8 หมื่นลบ. (ที่มา ประชาชาติธุรกิจ)
(*) รอดู ถ้อยแถลง ประธาน เฟด ที่ Jackson Hole วันศุกร์นี้ : และ รายงานการประชุม เฟด เดือน กค. / คาดว่าจะสร้างความเชื่อมั่นต่อ นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ตอบสนองทันทีต่อความเสี่ยง ด้านเศรษฐกิจสหรัฐที่อาจจะถดถอย ในช่วงที่เหลือของปีนี้ และ จะหนุนให้ตลาดหุ้นโลกรีบาวด์ได้ หากมีการส่งสัญญาณ ช่วยผ่อนคลายความกังวลให้กับตลาด เช่น การลดดอกเบี้ยเพิ่ม และ ออก QE ใหม่ ให้เร็วขึ้น รวมถึง แนวทางนโยบายใหม่ๆ เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯถดถอย
(*) ทำเนียบขาว เล็งลดภาษีบุคคลฯ : รายงานข่าว รัฐบาลสหรัฐฯกำลัง หารือแนวทาง การลดภาษีเงินเดือน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ (ที่มา ASPEN)
หุ้นแนะนำวันนี้
ROJNA WHA ดักมาตรการกระตุ้นการลงทุนจาก ทีม ครม.เศรษฐกิจ สุดสัปดาห์นี้
CPALL BGC โอกาสเพิ่มยอดขาย หารัฐบาลขยายเวลาเปิด สถานบันเทิง
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
รายงานวันนี้
BPP ต้องเริ่มสะสม
ราคาหุ้น BPP ปรับตัวลงมาจากความกังวลความตึงเครียดทางการค้า อย่างไรก็ดีเรามองว่าชาวจีนอย่างไรก็ต้องใช้ไฟฟา คาดผลกระทบจำกัด นอกจากนี้การปรับลด VAT บนค่าไฟฟาที่รัฐบาลจีนได้ประกาศออกมานั้น ช่วยหนุนให้ค่าไฟฟาและอัตรากำไรอยู่ในช่วงขาขึ้น นอกจากนี้ BPP ยังเป็นหุ้นโรงไฟฟ้าที่ถูกที่สุดที่เรา cover โดยมี PE แค่ 11 เท่า และปันผลถึง 3.8% แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 27.50 บาท
Media เม็ดเงินโฆษณาลดลงเล็กน้อยในเดือนกรกฎาคม
เม็ดเงินโฆษณาโดยรวมยังคงปรับตัวลดลงเล็กน้อยในเดือน ก.ค. ซึ่งถือเป็นเดือนที่มีการปรับตัวลดลงน้อยที่สุดตั้งแต่ต้นปี สำหรับอุตสาหกรรมทีวีเราเห็น 3 ช่องได้ยุติการออกอากาศไปแล้ว ยังคงเหลืออีก 4 ช่องที่จะทยอยยุติการออกอาอากศในช่วงเดือน ก.ย. ซึ่งสัดส่วนผู้ชมของ 7 ช่องคิดเป็นประมาณ 9% ของผู้ชมโดยรวม เรามองว่ามีโอกาสที่ผู้ชมช่อง 3SD และ 3Family จะย้ายไปช่อง 3HD และ RS (กลุ่มผู้ชมคล้ายคลึงกัน และเลขช่องใกล้กัน) ในขณะที่ช่องอื่นๆ คาดจะมีการย้ายไปช่องข่าวอย่าง Nation TV และ Thairath TV แม้ว่าภาพรวมเม็ดเงินโฆษณาจะมีสัญญานที่ดีขึ้นในเดือน ก.ค. แต่เรายังคงรอการฟื้นตัวที่ชัดเจน เรายังคงชอบสื่อ OOH มากกว่าทั้ง PLANB และ VGI
TVO เริ่มฟื้นตัว
ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ - จีน และความกังวลต่อความต้องการอาหารสัตว์ที่อ่อนตัวลงเกิดการระบาดของไข้หวัดสุกรแอฟริกัน (ASF) ที่กำลังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจัยกดดันราคาถั่วเหลืองโลก (SB) อย่างไรก็ตามเรายังคงคำแนะนำถือ TVO จากแนวโน้มระยะสั้น รายได้และ GM คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น QoQ เล็กน้อยในไตรมาส 3/19 การนำเข้ากากถั่วเหลืองจีนที่สูงขึ้น (SBM) จะหนุนส่วนต่างกำไรถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ คงคำแนะนำ ถือ
ITEL ประเด็นสำคัญจากOpportunity Day
บริษัทได้ลูกค้าใหม่เข้ามาใช้บริการ Data service จำนวนมาก ส่งผลให้รายได้ใน 2Q19 โตขึ้นถึง 41% YoY และ 5% QoQ และลูกค้าใหม่กลุ่มนี้จะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตครึ่งปีหลังด้วย บริษัทมี Backlog รวมทุกหน่วยธุรกิจสูงถึง 5.3 พันล้านบาท ซึ่งรองรับการเติบโตในอนาคตส่วนใหญ่เอาไว้แล้ว สำหรับการประกาศ กสทช. ที่ให้นำค่าใช้จ่าย USO มาหักค่าเช่าท่อร้อยสายได้ ยังไม่เห็นประโยชน์ใน 2Q19 คาดจะเริ่มเห็นการหักค่าใช้จ่ายในช่วงครึ่งปีหลัง เรายืนยันมุมมองเชิงบวกของเราที่มีต่อ ITEL จะเห็นได้ว่าบริษัทมีกำไรที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกำไรที่เติบโตต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง และการลงทุนเศรษฐกิจดิจิตอล จะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้น แนะนำ "ซื้อ"
CHG ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
รายได้การแพทย์รวมของบริษัทคงเปาหมายเติบโตประมาณ 15% ในปี 2019 และแนวโน้มฤดูกาลที่ดีใน 3Q19 บริษัทคาดอัตรากำไรทรงตัวใกล้เคียงปี 2018 ที่ประมาณ 13.5% ซึ่งหมายถึงอัตรากำไร 2H19 จะดีกว่า 1H19 ที่ 12.5% สำหรับรพ. CHG 304 ดำเนินไปได้ดีมาก รายได้ขยายตัวต่อเนื่องกว่า 25% และรพ.รวมแพทย์ฉะเชิงเทราที่เพิ่งเปิดยังอยู่ในช่วงที่ต้อง ramp up utilization rate ซึ่งล่าสุดอยู่ราวๆ 40% และคาดจะเพิ่มขึ้นเป็นราวๆ 70% ใน ปี 2020 เรามั่นใจคำแนะนำ BUY ของเราสำหรับ CHG ที่คาดว่าราคาหุ้นรอบใหม่สามารถวิ่งทะลุราคาเป้าหมายปี 2019 ของเราที่ 2.60 บาทไปแล้วและคาดขึ้นไป 2.80 บาท ใน 6 เดือนข้างหน้า ทั้งนี้กำไรรายไตรมาสผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 2Q19 เตรียมพลิกฟืนอย่างรวดเร็วใน 3Q19
CK ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
ผู้บริหารให้ guidance ผลประกอบการฟืนตัว QoQ ใน 3Q19 โดยรายได้คาดทรงตัวได้ แต่ค่าใช้จ่าย SG&A ลดลงเพราะไม่มีรายการ one time และยังมีเงินปันผลจาก TTW เข้ามาหนุน คาดจะเห็นการเซ็นสัญญางานใหม่ใน 2H19 อีก 2 โครงการ คือ รพ.จุฬา และ ทางด่วน พระราม 3 มูลค่าราว 8 พันล้านบาท ส่วนโครงการ รพ.ศรีนครินทร์ น่าจะเซ็นได้ปีหน้า (4 พันล้านบาท) แนวโน้มงานประมูล นอกจากรถไฟไทย-จีน 4 สัญญาที่จะประมูลปลายเดือนนี้และอีก 2 สัญญาในช่วงสิ้นปี นอกจากนั้นยังคงล่าช้าอยู่ คาดต้องเลื่อนไปปีหน้า สำหรับการเซ็นสัญญารถไฟความเร็วสูง 3 สนามบินยังคงอยู่ระหว่างเจรจาเรื่องการส่งมอบที่ดิน คาดเซ็นสัญญาได้สิ้นปีนี้ (ดูรายงาน CK วันที่ 2 ส.ค. ของเรา) จากแนวโน้มงานประมูลที่ล่าช้ากว่าคาด ส่งผลให้ราคาหุ้นขาดปัจจัยหนุน เรายังมองว่าไม่ใช่จังหวะกลับเข้าไปซื้อ
BTS ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
เรามีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อแนวโน้มผลตอบแทนของโครงการ O&M มอเตอร์เวย์สองสายจาก synergy ที่อาจจะเกิดขึ้นจากทั้ง BTS, STEC (ดังที่กล่าวไปข้างต้น) และ GULF (การลดต้นทุนทางการเงินและค่าก่อสร้าง) โดยเราเชื่อว่าหากกลุ่ม BGSR ชนะการประมูลดังกล่าว ตลาดมีแนวโน้มที่จะปรับประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายของ BTS ขึ้น เราจึงยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมาย 13.50 บาท
หุ้นมีข่าว
โรงแรมท่องเที่ยว, อาหาร
+ ครม. มีมติอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 3.16 แสนล้านบาท ตามที่ได้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจ ไปแล้วในสัปดาห์ก่อน ได้แก่ มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว, การช่วยเหลือเกษตรกร, การดูแลค่าครองชีพ, การช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เป็นต้น ซึ่งในแต่ละมาตรการจะค่อยๆ ทยอยมีผลบังคับใช้ได้ตั้งแต่เดือน ก.ย.เป็นต้นไป
ส่วนเรื่อง วีซ่านักท่องเที่ยวต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศจะต่ออายุยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า (VoA) ที่จะหมดลงใน ก.ย. ให้ไปถึง เม.ย.63 ในกลุ่มประเทศเดิมที่เคยให้ไว้ (ที่มา อินโฟเควสท์)
TTCL
+ ขายหุ้น นวนครการไฟฟา ให้ RATCH 44.02% คิดเป็นเงินได้จากการขายสินทรัพย์ราว 838.47 ลบ. (ที่มา ตลท.)
CPALL BGC BJC
* ททท. รับแนวคิด รมว.ท่องเที่ยวมา ศึกษาแนวทาง การขยายเวลาในการเปิด ให้บริการสถานบันเทิง ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ที่เป็นที่นิยมของ ต่างชาติ ไปถึง ตี 4 จากเดิม ปิดตี 2 เริ่มลงพื้นที่แรก พัทยา 24 สค.นี้ (ที่มา อินโฟเควสท์)
SUPEREIF
* กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี เข้าซื้อขาย วันแรก (ราคาเสนอขายหน่วย 10 บาท) ที่มา ตลท.
Econ
+ กรมบัญชีกลาง พร้อมจ่ายเงินเข้ากระเป๋า e-Money ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐฯ เพิ่มเติม เป็นเวลา 2 เดือน ตาม มติ ครม. 1) มาตรการพยุงการบริโภค 500/ เดือน 2) ผู้สูงอายุที่ถือบัตรฯ 500 บาท/เดือน 3) เงินเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ผู้ถือบัตรฯ จะได้ 300 บาท/ เดือน (ที่มา ASPEN)
BTS
+ BTS 1) ได้เตรียมตัวเข้าร่วมประมูลโครงการรถไฟฟา สายสีส้มด้านตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-บางขุนนนท์ ระยะทาง 13.4 กม. มูลค่าประมาณ 1 แสนล้านบาท แบ่งเป็นเงินลงทุนค่างานโยธา 9.6 หมื่นล้านบาท ค่าระบบและรถไฟฟากว่า 3.5 หมื่นล้านบาท
2) โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต มูลค่าโครงการประมาณ 3.48 หมื่นล้านบาท
ซึ่งทั้งสองโครงการใกล้เปิดประมูลเร็วๆนี้ โดยขณะนี้รอภาครัฐประกาศเชิญชวน เพื่อศึกษาทีโออาร์ก่อน โดยยังไม่ทราบว่าจะจับกลุ่มกับบริษัทใดบ้าง (ที่มา BTS)
BTS RS
+ นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อาร์เอส เปิดเผยว่า ขณะนี้ บมจ.บีทีเอสกรุ๊ป โฮลดิ้งส์เข้ามาถือหุ้นบริษัท จำนวน 68 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 7% มูลค่าวงเงินกว่า 1,000 ล้านบาท ถือเป็นพันธมิตรรายใหม่เข้ามาร่วมมือทางธุรกิจ และรองรับการขยายธุรกิจพาณิชย์ได้หลายช่องทางโดยเชื่อว่าจุดแข็งของ 2 บริษัทที่เป็นผู้นำแต่ละอุตสาหกรรม จะช่วยให้ผู้บริโภคในการเข้าถึงสินค้าและบริการต่าง ๆ ได้มีประสิทธิภาพและผลักดันรายได้ ของอาร์เอส เติบโตสู่เปาหมาย 10,000 ล้านบาท ในปี 65 ตามแผนที่วางไว้ (ที่มา เดลินิวส์)
Trend Forecasting
SET Index ปิด 1,625.57 (-0.71%) มูลค่าการซื้อขาย 5.6 แสนล้านบาท
แนวโน้มระยะสั้นมอง
SET Index แนวรับ 1,620 แนวต้าน 1,630 / SET100 รับ 2,360 ต้าน 2,375 BSET100 รับ 10.40 ต้าน 10.50 / BMSCITH รับ 11.80 ต้าน 11.90
หัวข้อ: สแกนดัชนีสัปดาห์นี้ยังลุ้นขึ้นต่อได้หรือไม่...
กลยุทธ์เทคนิค:
SET Index อ่อนตัวลงไม่ผ่านจุดยอดสัปดาห์ที่แล้ว 1644 นอกจากนี้ยังเป็นตำแหน่งเดียวกับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 10-days EMA ขณะที่หุ้นถูกขายจัดอยู่ในกลุ่มฟืนตัวต่อเนื่อง 3 วัน เช่น หุ้นแบงค์ ไฟแนนซ์และปิโตรเคมี จับตาการปรับฐานรอบนี้ หากดัชนีสู้ไม่ทำ Low ต่ำกว่า 1590 จุด จะบ่งชี้โครงสร้างการกลับตัวหรือจุดต่ำสุดได้ผ่านพ้นไปแล้วนั่นเอง
มุมมองทางเทคนิค:
หากดัชนีจะฟืนตัวขึ้นไปแบบเป็นจริงเป็นจัง มักจะพบรูปแบบ "Hammer" (กราฟสัปดาห์เปิดต่ำปิดสูง) พร้อมกับ RSI ลงมาที่กรอบล่าง Oversold แล้วถ้ามาพร้อมกับภาพ Divergence ยิ่งแถมโอกาสกลับตัวมีสูง สัปดาห์ที่แล้วพบเจอรูปแบบคล้ายๆฆ้อน "Hammer" ดัชนีปิดที่ 1631 จุด ดังนั้นสัปดาห์ก็ต้องลุ้นให้ปิดสูงกว่าให้ได้
วิธีการเลือกหุ้น:
กลยุทธ์เลือกหุ้นเน้นโครงสร้างแข็งแกร่ง ราคายังไม่ได้ขึ้นมากนักพร้อมสัญญาณกลับตัวจากเครื่องมือทางเทคนิคและวางจุด Stop loss เพื่อปัองกันความเสี่ยง
*Bull Signal (หุ้นสัญญาณซื้อ): GULF, PLANB, NER
*Bear Signal (หุ้นสัญญาณขาย): TU, CPN, IVL
โมเดลพอร์ตทางเทคนิค:
สรุปผลตอบแทนการลงทุน Year to date +14.3% สูงกว่าตลาดที่ + 4.7%
*Addition(หุ้นเพิ่ม):GULF, PLANB, NER
*Deletion(หุ้นออก): NETBAY, MTC, TASCO, PRM หุ้นคงเหลือ:M,TFG, CHG, DOD, CPF, BGC, SABINA, AOT, BBL, BH, RS, PTT ,WORK
ธนรัตน์ อิศรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค
[email protected] +662-618-1334
Track with Technical
GULF (GULF01C1912A)
แนะนำ ซื้อ
รับ 122.00
ต้าน 135.00
เหตุผล MACD บ่งชี้สัญญาณกลับตัวระยะสั้น ขณะที่โครงสร้างระยะกลางพักตัวลักษณะหรือรูปแบบธงขาขึ้น "Flag"
PLANB
แนะนำ ซื้อ
รับ 8.55
ต้าน 9.30
เหตุผล PLANB ทะลุแนวต้าน 8.5 พร้อมกับ MACD บ่งชี้สัญญาณกลับตัว นอกจากนี้โครงสร้างระยะกลางพักตัวอยู่ในกรอบสามเหลี่ยมขาขึ้น Pennant
NER
แนะนำ ซื้อ
รับ 2.60
ต้าน 2.90
เหตุผล NER เครื่องมือทางเทคนิคบ่งชี้สัญญาณกลับตัวระยะสั้น กลาง และยาวหนุนด้วยวอลุ่มสะสม OBV เพิ่มขึ้น