- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 20 August 2019 16:05
- Hits: 3434
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
• วันนี้มอง SET Index ลุ้นฟื้นตัวต่อเนื่อง คาดตลาดจับตาประชุมครม.วันนี้เกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศวงเงินกว่า 3.16 แสนล้านบาท ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศนลท.ลดความกังวลประเด็น Inverted Yield Curve ลงบวกกับยังคงติดตามถ้อยแถลงจาก FED ช่วงกลางสัปดาห์ ประเมินกรอบเคลื่อนไหวที่ 1,630-1,650 จุด
• Market Factor
• (+) ดัชนี S&P500 และ DJIA วานนี้ปิดบวก 1.2%DoD และ 0.9%DoD หลังสหรัฐฯ ขยายเวลาอนุญาตให้บริษัทหัวเว่ยสามารถซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ ได้อีก 90 วัน
• (-) สภาพัฒน์ แถลง GDP 2Q62 โตเพียง 2.3% (จากปีก่อนโต 4.7%) จากตลาดคาด 2.1-2.5% ส่งผลให้1H62 เศรษฐกิจไทยขยายตัว 2.6% คาดตลอดปี2562 โต 2.7-3.2% (ข่าวสด)
• (watch) ติดตามประชุม ครม.วันนี้ ประเด็นอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่ ครม.เศรษฐกิจ เห็นชอบวงเงินรวม 3.16 แสนล้านบาท
• (-) คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เผย ยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุน 1H62 มีมูลค่าการลงทุนรวม 232,610 ลบ. ลดลง 17%YoY ขณะที่การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มีมูลค่าการลงทุนรวม 141,169 ลบ. เพิ่มขึ้น 109%YoY
• (-) Consensus ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 115.14 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 101.30 บาท หรือลดลง 12.02%YTD
• Update Flow เมื่อวานนี้ต่างชาติคงขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 4,112.96 ลบ. ส่งผลภาพรวม MTD ต่างชาติขายสุทธิเพิ่มเป็น 44,602.35 ลบ.
• Investment Strategy
• สัปดาห์นี้เราประเมินดัชนี SET Index สามารถปรับตัวขึ้นต่อเพื่อทดสอบแนวต้าน 1,670 จุด(แนวรับ 1,620 จุด) โดยมีปัจจัยหนุนหลักจากมาตรการที่กระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล ขณะที่ปัจจัยกดดันจากต่างประเทศเริ่มคลี่คลายลง อย่างไรก็ดีในช่วงสั้นเรายังแนะนำให้นักลงทุนทยอยเลือกหุ้นรายตัวในหุ้นหลัก 4 กลุ่ม ดังนี้
• หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้น ศก.ของรัฐฯ: เรามองว่า ครม. ชุดใหม่ที่มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจะเร่งออกนโยบายกระตุ้น ศก. ในระยะสั้นเพื่อพยุง ศก. เราจึงแนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ BJC (ช่วง 2H62 คาดเห็นการฟื้นตัว HoH จากการขยายสาขา BigC มากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขาและสาขาที่กัมพูชา 1 สาขา BigC Food Place 1 สาขาและ Mini BigC ราว 200 สาขา), SEAFCO (แม้คาดครึ่งปีหลังจะรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่ๆจากทั้งภาครัฐ/เอกชน), CPALL (ช่วง 3Q62 แม้เข้าสู่ Low Season แต่ด้วยการจัดโปรโมชั่น แสตมป์จัดหนักกระตุ้นยอดขาย และการได้ประโยชน์จากฐานที่ต่ำปีก่อนจะหนุนSSSG เติบโตต่อเนื่อง พร้อมยังคงเป้าขยายสาขาร้านสะดวกซื้อปีนี้ที่ 700 สาขา) และ ERW (แม้ช่วง 2Q62 กำไรปกติหดตัว แต่คาดฟื้นในช่วงครึ่งปีหลังจากปัจจัยฤดูกาล บวกกับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ตรม.)
• กลุ่ม Defensive Stock: เราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (ช่วง 2H62 คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มโตต่อ หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถ มินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก., GPI แม้กำไรช่วง 2Q62 ลดลงYoY และ QoQ จากการรับรู้ค่าเช่าของจำนวนวันการจัดงานมอเตอร์โชว์ลดลง YoY รวมถึง 3Q62 และ4Q62 ยังคงรับรู้ขาดทุนจากผลของฤดูกาล แต่คาดธุรกิจกลับมาฟื้นตัวได้ในปี 63 จากการรุกจัดงานมอเตอร์โชว์ที่เมียนมาร์ และการเพิ่มรูปแบบ Event ใหม่ GP eRacing หนุนธุรกิจหลัก และต่อยอดสู่ธุรกิจ Gaming ในอนาคต บวกกับGPI มีจุดเด่นที่ปันผลสูง จ่ายปันผล 0.10 บ. (คิดเป็น Div. Yield5%)
• กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoYและช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำSAWAD (คาดกำไรปี62 โต 30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20-30% พร้อมแผนเปิดสาขาใหม่อีก 300 สาขา, Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลังTender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (คาดปี 62 เห็นการTurnaround ของกำไรสุทธิหลังเริ่มรวมงบการเงินกับPMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นตามลำดับทั้งในด้านการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่อีกทั้งยังไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจมากเช่นปีก่อน), III (ช่วง 2Q62 กำไรโต 45.8%YoY หนุนด้วยธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ บวกกับมีส่วนแบ่งกำไรที่โต 364%YoY จากธุรกิจที่เข้าซื้อกิจการสิงคโปร์และฮ่องกงในปี 61-62 ตามลำดับ)และ ARROW(ช่วง 2Q62 กำไรโต YoYหลังมาร์จิ้นเริ่มฟื้นตัวจากต้นทุนเหล็กที่ลดลงและนโยบายการปรับราคาขายที่ดี จึงปรับเพิ่มประมาณการคาดปี 62 กำไรทั้งปีโต 10.3%YoY)
• หุ้นกลุ่มที่จะได้จากมาตรการผ่อนปรนLTV สำหรับผู้กู้ร่วม: จากข้อมูลสรุปผลการดำเนินงานของ ธพ.ช่วง 2Q62 พบว่าผลของมาตรการ LTV หลังบังคับใช้มา3 เดือนผู้กู้สัญญาที่2 ขึ้นไปการกู้ซื้อบ้านยังมีการขยายตัว3.3% แต่การกู้ซื้อคอนโดหดตัว 24.8% ทำให้เรามองว่าหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้คือหุ้นกลุ่มอสังหาฯที่มีพอร์ตคอนโดเป็นหลัก ได้แก่ ANAN (ช่วง 2H62 มีแผนเปิดตัวคอนโดอีก 6 โครงการ และ ORI (ช่วง 2H62 มีแผนเปิดโครงการใหม่ เช่น Theorigin, Park origin และ District rayongคิดเป็น 65% ของพอร์ตในปีนี้)
19-Aug-19 Change (pts.) 16-Aug-19
SET Index 1,637.26 5.86 1,631.40
SET50 Index 1,079.75 3.91 1,075.84
SET100 Index 2,387.99 8.91 2,379.08
High 1,643.65 Gainers 801
Low 1,633.79 Unchanged 427
Value (Bt m) 57,927.17 Losers 713
Volume (*000) 18,895,780
Market Valuation
SET Data 2018F 2019F Long Term
Fwd PER (x) 15.9 14.3 14.3
EPS Growth (%) 13.9 9.3 1.8
EV/EBITDA (x) 10.9 10.0 9.6
FWD PBV (x) 1.8 1.7 1.6
Dividend Yield (%) 3.1 3.5 3.7
ROE 11.0 11.2 11.2
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 19-Aug-19 WTD MTD YTD
Institution 5,677.88 5,677.88 25,201.51 22,024.32
Proprietary (593.19) (593.19) (8,016.55) 10,520.41
Foreign (4,112.96) (4,112.96) (44,602.35) 16,100.45
Individual (971.72) (971.72) 27,417.38 (48,645.17)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary