Trading Range ลงแรง1595 -1620 

          

ตลาดหุ้นวันนี้

          ลงแรง: นอกเหนือจากประเด็นสงครามค่าเงินที่ปกคลุมตลาดอยู่ในช่วงนี้ ล่าสุดยังมีความกังวลเรื่องของเศรษฐกิจถดถอยเข้ามาซ้ำเติมตลาด หลังตลาดสหรัฐเกิดภาวะ Inverted Yield Curve จากการที่พันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีมีผลตอบแทนต่ำกว่าอายุ 2 ปี ซึ่งจากประเด็นดังกล่าวทำให้ดัชนีทั่วโลกปรับตัวลงแรงวานนี้ นำโดยดัชนีดาวโจนส์ที่ลงแรง 3.05% คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้จะปรับลงแรงเช่นกัน โดยอาจปรับตัวหลุด 1600 จุดในระหว่างวัน แต่ยังมีโอกาสกลับมายืนในเหนือ 1600 จุดได้ตอนปิดตลาด เนื่องจากบริเวณ 1600 จุดยังเป็นแนวรับสำคัญทางจิตวิทยา กรอบการเคลื่อนไหววันนี้คาดอยู่ระหว่าง 1595 -1620 จุด 

          กลุ่มธนาคารทยอยลดดอกเบี้ยเงินกู้: วานนี้กลุ่มธนาคารปรับตัวลงแรง หลังธนาคารพาณิชย์ 4 แห่ง ประกาศปรับลดดอกเบี้ย MRR MOR ลง 0.25% ซึ่งเป็นการปรับเพียงเงินกู้ขาเดียวส่งผลกระทบต่อ NIM ธนาคาร อาจทำให้ผลประกอบการ 2H62 ลดต่ำลงได้ คาดว่าธนาคารที่เหลือจะทยอยปรับลดตามในเร็วๆนี้ 

          กลยุทธ์การลงทุน: ยังมองเป็นโอกาสในการซื้อเพื่อเก็งกำไรเมื่อดัชนีหลุดระดับ 1600 จุด แต่ควรรอให้ดัชนียืนได้เหนือ 1600 จุดก่อน โดยแนะนำถือหุ้นกลุ่ม Defensive และกลุ่มที่จ่ายปันผลสูง

          

Theme เด่นน่าสนใจ

          - หุ้นจ่ายปันผลสูง: KKP, LH, TTW, TKS 

          - หุ้น Defensive: CPALL, TTW, BCH, ADVANC 

          - หุ้นลุ้นมาตรการภาครัฐบาล: STEC, CK, BBL, SCB, AOT, BJC , NER, GCAP 

          

Portfolio Model 

          ปรับพอร์ตวันนี้:

          ถือ TTW (เป้า 14.6 บาท) มอง Defensive และจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.30 บาท (Yield 2.1%)

          ถือ STEC (เป้า 27.75 บาท) บนมุมมองบวกต่อความต่อเนื่องของโครงการรัฐและ BJC (เป้า 54 บาท) ลุ้นรับปย.มาตรการภาครัฐ

          *สำหรับการลงทุนระยะเวลา 2 สัปดาห์ -1 เดือน

 

          Upside Momentum* : COL EASTW EPG 

 

          *สำหรับการลงทุนระยะเวลา 1 เดือน โดยใช้การวิเคราะห์เชิงปริมาณ (Quantitative Analysis เป็นเกณฑ์ในการคัดเลือกเท่านั้น) 

                    

          ทีมกลยุทธ์ 02 635 1700  ต่อ 487