- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 14 August 2019 16:00
- Hits: 1215
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน At The Open
กลยุทธ์การลงทุนรายวัน
Market Summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET เผชิญกับแรงขายอย่างต่อเนื่อง โดยมีแรงขายกระจายในหุ้นใหญ่อย่าง CPALL, AOT, PTTGC, SCC และหุ้นการเงินอย่าง MTC, SAWAD ณ. สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,620.23 จุด (-30.4 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.4 หมื่นล้านบาท (จากวันก่อนที่ 5.9 หมื่นล้านบาท)
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 3,395 ลบ. (สถาบันขายสุทธิ 838 ลบ.) และกลับมาเปิดสถานะ Short SET50 index future สุทธิที่ 13,744 สัญญา
Stock Picks & Trading Idea
HANA ( Consensus target price @ 30.0) : สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง ในระยะสั้นเราแนะเก็งกำไร HANA โดยบริษัทรายงานกำไรดำเนินงาน 2Q19 ดีกว่าตลาดคาดเล็กน้อยที่ 464ล้านบาท (+45%QoQ, -9%YoY) ในเชิง Sentiment บริษัทอาจได้ประโยชน์ในประเด็น USTR ถอดถอนสินค้าบางประเภท นำโดย โทรศัพท์มือถือ และอื่นๆ ออกไปเป็นวันที่ 15 ธ.ค. (จากเดิม 1ก.ย.)
SABINA (@36.0) บริษัทรายงานกำไรดำเนินงาน 2Q สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 119ลบ (+23%YoY, +25%QoQ) ผลจากยอดขาย Seamless และยอดขาย Online ที่เติบโตเด่น 35%YoY ส่งผลให้ Margin เติบโตกว่า 200bps เป็น 52.6%
Investment Theme
USTR ชะลอการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าบางประเภทจากจีน : เมื่อคืนที่ผ่านมาสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ประกาศชะลอการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าบางประเภทจากจีนบางประเภทไปเป็นวันที่ 15 ธ.ค. (จากเดิม 1 ก.ย.) โดยส่วนมากเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคโดยตรง เช่น โทรศัพท์มือถือ, Laptop, เกมส์, และอื่นๆ รวมมูลค่า 1.6 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หากอิงจากประเภทสินค้าดังกล่าว เบื้องต้นเราประเมินว่า Trump ไม่อยากให้ผลกระทบตกที่ผู้คนสหรัฐในเทศกาล Christmas ในการบริโภคสินค้าที่แพงขึ้น ส่วนหนึ่งเพื่อไม่ให้กระทบฐานเสียงและอัตราเงินเฟ้อ ภาพดังกล่าวสามารถผ่อนคลายความตึงเครียดได้บางส่วน โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา DJ+1.4%, Brent +4%, Gold -2% อย่างไรก็ตามแนะนักลงทุนติดตามการเจรจาการค้าทางโทรศัพท์ระหว่าง 2 ผู้แทนการค้า Liu He และ Lighthizer ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนส.ค. เนื่องจากสินค้าบางประเภทยังจะถูกขึ้นภาษีในครั้งนี้ วงเงินประมาณ 1.1 แสนล้านเหรียญ และติดตามการตอบกลับของฝั่งจีนผ่านการกำหนดค่ากลางเงินหยวนในสัปดาห์นี้
Investment Theme : ภายหลัง SET หลุดแนวรับสำคัญที่เราประเมินบริเวณ 1,670 จุด เราแนะนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำชะลอการลงทุน เพื่อรอดูผลของการเจรจาสงครามการค้าและการประชุม FED ในช่วงเดือนก.ย. หรือรอดูการกำหนดค่าเงินหยวนว่าจะพลิกกลับมาต่ำกว่า 7.0 ซึ่งในเชิงสัญลักษณ์อาจหมายถึงจีนเริ่มกลับมาเปิดทางเจรจาการค้าอีกครั้ง พร้อมประเมินกรอบ SET ในสัปดาห์นี้ที่ 1,630-1,670 จุด
Big Issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา :
- มงคลกิตต์แถลงออกจากพรรคร่วมรัฐบาล
- Brent ปรับขึ้น 4.1% ที่ 61 เหรียญ
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ :
- จับตาความตึงเครียดระหว่างจีน-ฮ่องกง
ปัจจัยในประเทศ :
-
Technical View
SET
แนวรับ : 1585, 1600
แนวต้าน : 1630, 1645
SET Index : ปรับตัวลง 2 วันติดหลุด 1630 ระยะสั้นหาก Rebound เป็นโอกาสลดพอร์ต ดัชนีเปิด Gap ลงจากแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน ค้าปลีกและขนส่ง และแกว่งตัวลงตลอดทั้งวัน ทำให้ปิดสิ้นวันหลุดแนวรับเส้น Uptrend ระยะยาวที่ 1630 ส่งผลให้ดัชนีกลับเป็นขาลงรอบใหม่ แต่ระยะสั้นเนื่องจากราคาน้ำมัน Brent ปรับตัวขึ้นแรง +4.66% ทำให้อาจมีแรง Rebound สั้นๆ แต่ยังมองเป็นโอกาสขายเพื่อลดพอร์ตเนื่องจากแนวโน้มเป็นขาลง
กลยุทธ์การลงทุน
มีหุ้น: หลุด 1650 ต้อง Stop Loss ตามคำแนะนำก่อนหน้า แต่มีหุ้นใช้ 1600 ในการ Stop Loss จังหวะ Rebound ยังเป็นโอกาสขายเพื่อลดพอร์ตที่แนวต้าน
ไม่มีหุ้น: รอดูแนวโน้มจนกว่าดัชนีจะเริ่มหยุดลงหรือมีแรง Rebound ที่ชัดเจนกว่านี้
Tiger Picks :
PTG : ซื้อ
แนวรับ : 18.60-19.00
แนวต้าน : 19.60/20.50
ตัดขาดทุน : 18.40
NER : ซื้อ
แนวรับ : 2.50-2.54
แนวต้าน : 2.66/2.76
ตัดขาดทุน : 2.46
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ
Research Department Tel. 02-658-5000