- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 30 September 2014 19:05
- Hits: 1865
บล.เคเคเทรด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
SET พักฐาน
SET View
แนวโน้ม วันนี้คาด SET มีโอกาสรีบาวน์ในกรอบ 1580-1590 จุด ก่อนที่จะปรับลงต่อ (1) ตัวเลขส่งออกเดือนส.ค.ที่ลดลง 7.4% มากกว่าที่ตลาดคาด (-3.2%) ส่งสัญญาณเชิงลบต่อการฟื้นตัวของ GDP ในช่วงที่เหลือของปี บ่งบอกถึงความเสี่ยงต่อโอกาสปรับลดประมาณการ GDP รวมถึงกำไรบริษัทจดทะเบียนในระยะต่อไป (2) ทางเทคนิค SET ปรับต่ำกว่า 1590 จุด (Previous High) หากไม่สามารถกลับมาปิดเหนือบริเวณดังกล่าวจะเป็นสัญญาณการพักฐาน และมีแนวรับถัดไปบริเวณ 1550 จุด (3) เงินดอลลาร์สหรัฐที่ยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง จะกดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์รวมถึงตลาดหุ้นไทย ที่ผลประกอบการอิงกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์สูง (4) หุ้นติด Cash Balance สะสมกว่า 35 ตัว กดดันจิตวิทยาการลงทุน อย่างไรก็ตามอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีปรับลดลงมาที่ 2.48% เมื่อคืนนี้บ่งบอกสภาพคล่องส่วนเกินในตลาดการเงินสหรัฐยังแข็งแกร่ง ปัจจัยกดดันด้าน Fund Flow จะไม่มีนัย การปรับฐานน่ามีกรอบจำกัดแถว 1550 จุด +/-
กลยุทธ์การลงทุน ระยะ 1-2 วัน ถือครองเงินสด หรือรอซื้อบริเวณ 1550 จุด +/- หรือลงทุนเบาๆ เมื่อราคาหุ้นอ่อนตัวลงมา
(1)Top Daily Pick : SVI (ตัวเลขส่งออกอิเล็กทรอนิกส์เดือนส.ค.ยังเติบโตดีเป็นสัญญาณบวก ขณะที่ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในช่วง 3Q57-4Q57 จากปัจจัยฤดูกาล และ) PS (มี Upside จากมูลค่าเหมาะสม ราว 15% สูงสุดในกลุ่มสร้างบ้าน คาดเปิดโครงการใหม่ช่วง 2H57 กว่า 50 โครงการ รวม 4 หมื่นล้านบาทสูงสุดในกลุ่ม ขณะที่ผลประกอบการ 2H57 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง HoH จากงานในมือกว่า 77% ของคาดการณ์รายได้รวมทั้งปี)
(2)Technical Pick : SIRI IRPC GEL GUNKUL EVER
(3)Theme Play : กลุ่มอสังหาฯประเภทสร้างบ้านที่มีปัจจัยบวกรออยู่ช่วง 4Q57 จากยอดขายล่วงหน้าที่ยังเติบโตรวมถึงการเปิดโครงการใหม่ (PS SPALI QH LPN) กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้ประโยชน์จากปัจจัยฤดูกาลและเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลงเทียบสกุลดอลลาร์สหรัฐ (DELTA HANA KCE SVI)
รายงานวันนี้
Comment : GRAMMY (ซื้อ / มูลค่าเหมาะสม 20.30 บาท) ขึ้น XR เป็นจังหวะเข้าลงทุน
Comment : PS (เก็งกำไร / มูลค่าเหมาะสม 39 บาท) โรงงาน Precast ใหม่คืบหน้า ช่วยลดเวลาก่อสร้าง
Comment : AP (เก็งกำไร / มูลค่าเหมาะสม (ก่อน XD) 7.90 บาท) โครงการใหม่ Aspire สาธร-ท่าพระ ได้รับการตอบรับดี
Fundamental Talk
แม้ตัวเลขส่งออกเดือนส.ค.ลดลง กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ยังเติบโตดี
1.การประกาศตัวเลขดุลการค้าไทยเดือน ส.ค. พบว่าการส่งออกยังคงติดลบเป็นเดือนที่สองติดต่อกันที่ -7.4% มากกว่าที่ consensus คาดที่ -3.2% และติดลบ YoY สูงสุดในรอบ 32 เดือน โดยมีเพียง 3 รายการจากทั้งหมด 10 รายการ ที่เติบโต YoY คือข้าว (+30.6%) อิเล็กทรอนิกส์ (+7.4%) และวัสดุก่อสร้าง (+4.1%) โดยที่เหลืออีก 7 รายการยังหดตัว อีกทั้งยอดนำเข้าสินค้าทุน และวัตถุดิบ ยังติดลบ 21.2% YoY และลบ 10.2% YoY ตามลำดับ ซึ่งอาจะสะท้อนถึงการหดตัวภาคส่งออกอย่างต่อเนื่องในระยะ 1-3 เดือนข้างหน้า ทั้งๆที่ช่วงปลายปีมักเป็นฤดูกาลสูงของงธุรกิจส่งออกของไทย จึงเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจไทยที่อิงกับการส่งออกอย่างมากยังไม่มีแนวโน้มฟื้นตัวเร็วอย่างที่ตลาดคาดจึงอาจนำไปสู่การปรับลดคาดการณ์ GDP และ กำไรบริษัทจดทะเบียน และกระตุ้นให้เกิดความเสี่ยงที่ SET จะปรับฐานอย่างที่เราเคยคาดได้
2.ในระยะสั้นเชื่อว่าตลาดจะกลับมาให้ความสนใจกับหุ้นกลุ่มส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อีกครั้ง โดยเรามองว่ากลุ่มนี้มีแนวโน้มจะแข็งแกร่งกว่าตลาดเนื่องจากรายได้อิงกับตลาดต่างประเทศ ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจาก (1) ปัจจัยฤดูกาลและการเติบโตของอุตสาหกรรม โดยตัวเลขดุลการค้าเดือน ส.ค. สินค้าอิเล็กทรอนิกส์มีการส่งออกเติบโตถึง 7.4% YoY สวนทางกับสินค้าอื่นๆยืนยันถึงการเติบโตดังกล่าว (2) การฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจสหรัฐที่เป็นผู้บริโภครายใหญ่ของผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ แข็งแกร่งกว่าเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป (3) ได้ผลบวกจากแนวโน้มการอ่อนค่าของเงินบาท จากการที่เฟดจะยุติการทำ QE ในเดือนต.ค. และมีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในระยะถัดไป จะส่งผลให้ค่าเงินดอลล่าร์แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องเทียบเงินสกุลอื่น (4) อุตสาหกรรมอยู่ในช่วงของการเติบโต สังเกตจากอัตราส่วน SEMI book-to-bill ratio ทรงตัวอยู่ในระดับที่มากกว่า 1 เท่าตั้งแต่ต้นปี ซึ่งเป็นอัตราส่วนบอกรายการขายเทียบกับรายการสั่งซื้อทางฝั่งต้นน้ำในแต่ละงวดยังอยู่ในภาวะอุปสงค์ส่วนเกิน
3.SVI (ซื้อ/ 5.90 บาท) น่าสนใจที่สุดในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เพราะกำลังฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งหลังซ่อมและปรับปรุงโรงงาน SVI-2 ที่เสียหายจากน้ำท่วม ซึ่งจะทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มเข้ามากว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีและจะสามารถหันไปผลิตชิ้นส่วนกลุ่มยานยนต์ที่มี margin ดีขึ้นได้ อีกทั้งกำลังอยู่ระหว่างดีล M&A กับกิจการผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์การแพทย์ซึ่งจะหนุนการเติบโตแบบ inorganic growth คาดว่าผลประกอบการ 3Q57 - 4Q57 จะเติบโตต่อเนื่อง ผลจากปัจฤดูกาลและคำสั่งซื้อที่คงค้างมาจากช่วงไตรมาสก่อนหน้า
Smart Port Note
PS วานนี้ปรับบวก 2.26% นำระบบการก่อสร้าง REM (Real Estate Manufacturing) มาใช้ในงานก่อสร้าง รวมถึงการพัฒนาระบบ Precast และ Tunnel และระบบ Prefab ช่วยประสิทธิภาพในการก่อสร้างเพิ่มมากขึ้น ในการช่วยลดต้นทุนการก่อสร้าง และร่นระยะเวลาการก่อสร้างลดลงจากเดิม โดยโครงการแนวราบจากเดิมใช้เวลาก่อสร้าง 146 วันลดลงเหลือ 96 วัน ทำให้การโอนกรรมสิทธิ์และสร้างรายได้เร็วขึ้น
BTS ซื้อหุ้นคืนภายในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 6 พันล้านบาท และจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนประมาณ 5% ของหุ้นที่จำหน่ายแล้ว กำหนดระยะเวลาที่จะซื้อคืนตั้งแต่ วันที่ 25/08/57 – 24/02/58