WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Mayบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน At The Open
 
กลยุทธ์การลงทุนรายวัน
 
Market Summary
          เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งในกรอบแคบ ช่วงเช้ามีแรงซื้อเด่นใน BEM , BTS ในช่วงบ่ายมีแรงขายเด่นในกลุ่มธนาคารหลัง BoT ประกาศลดดอกเบี้ย นำโดย KBANK, SCB, BBL อย่างไรก็ตามมีแรงเก็งกำไรใน กลุ่มการเงิน และอสังหาฯ อย่าง MTC, SAWAD, SPALI ณ. สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,669.4 จุด -2.0 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.4 หมื่นล้านบาท (จากวันก่อนที่ 7.0 หมื่นล้านบาท) 
          นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 3,604 ลบ. (สถาบันพลิกซื้อสุทธิ 4,582 ลบ.) และเปิดสถานะ Short SET50 index future สุทธิสูงกว่า 624 สัญญา
 
Stock Picks & Trading Idea
          BEM (ราคาเป้าหมาย 12.0บาท) : ในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับตัวลง 15% ภายหลังตลาดกังวลเรื่องการต่อสัมปทานทางด่วน อย่างไรก็ตามเราคงมุมมองเชิงบวกจากประเด็นนี้ โดยแนวทางการเจรจายังคงยึดกรอบการขยายสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 2 ออกไป 30ปี แลกกับข้อพิพาทคดีความทั้งหมด โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงเดือนก.ย.-ต.ค.  ในขณะที่ตลาดประเมินกำไรดำเนินงาน 2Q19 บริเวณ 800ลบ+/- ทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน (ประกาศงบ 9 ส.ค.)
 
Investment Theme
          ผิดคาด กนง. ลดดอกเบี้ย 25bps  / วันนี้จับตา  FETCO ประชุมก.คลังหารือภาษีกองทุน LTF : เมื่อวานที่ผ่านมาการประชุมกนง. มีมติ 5:2 ลดดอกเบี้ย 25bps ที่ 1.50% ผิดไปจากที่ตลาดประเมิน โดยธปท. เป็นห่วงภาพเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปัหลัง และมองว่า GDP มีโอกาสต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ เหตุผลหลักจากผลกระทบสงครามการค้าผ่านการส่งออกที่ลดลงประกอบกับกังวลเงินบาทที่แข็งค่า อีกทั้งเงินเฟ้อมีโอกาสต่ำกว่ากรอบเป้าหมาย (ติดตามบทวิเคราะห์เศรษฐกิจวันที่ 1 ส.ค. โดยเราปรับ GDP ประเทศไทยลงเหลือ 2.8% จาก 3.2%)  ลำดับถัดไปแนะติดตามธนาคารขนาดใหญ่อาจมีการปรับดอกเบี้ยเงินกู้ลง คาดประมาณ 0.125% ซึ่งหากนับเต็มปีอาจส่งผลต่อ NIM กลุ่มธนาคารที่คาดลดลงประมาณ 5bps+/- เป็น 3.0-3.05% ซึ่งถือว่ามีผลกระทบจำกัดต่อภาพรวมกลุ่ม อีกทั้งปัจจุบันหลายธนาคารเริ่มเน้นสินเชื่อ High yield  ในขณะเดียวกันภาพดังกล่าวเป็นบวกต่อกลุ่มอสังหาฯ, โรงไฟฟ้า และ กองทุน REIT/ IFF เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ SPALI, GPSC, DIF และอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ นั่นคือ วันนี้ติดตามสภาธุรกิจตลาดทุน (FETCO) หารือรมว.คลังประเด็น รายละเอียดการลดหย่อนภาษีของ LTF หลังแผนเดิมจะหมดอายุในธ.ค.นี้  เบื้องต้นตลาดประเมินปรับลดเพดานลงจาก 5.0 แสนบาท/คน เหลือ 2.5 แสนบาท/คน โดยเม็ดเงินส่วนหนึ่งจะถูกเอาไปลงทุนใน IFF 
          Investment Theme : สัปดาห์นี้เราคาด SET จะแกว่งผันผวนสูงมาก ประเมินกรอบการแกว่งตัว 1,670 จุด+/- อย่างไรก็ตาม ยังแนะหุ้นกลุ่ม Defensive และ Domestic play นำโดย ICT อย่าง ADVANC , TRUE
 
Big Issue
 
เมื่อคืนที่ผ่านมา :  
          - BoT ลดดอกเบี้ย 25bps
          - ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ลดดอกเบี้ย 0.5% ที่ 1.0% (ตลาดประเมิน 25bps)
          - ธนาคารกลางอินเดียลดดอกเบี้ย 0.35% ที่ 5.4% ต่ำสุดในรอบ 9 ปี พร้อมปรับลด GDP เหลือ 6.9% (จาก 7.0%)
          - Bond yield 10 ปี สหรัฐปรับตัวลงต่ำกว่า 1.6% 
 
Eyes on
 
ปัจจัยต่างประเทศ :
          -
 
ปัจจัยในประเทศ :
          - วันนี้ติดตามการหารือประเด็น LTF ใหม่ ระหว่าง FETCO กับ รมว.คลัง ในสัปดาห์นี้
          - การรายงานผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 2
 
Technical View
 
SET
          แนวรับ : 1630, 1650 
          แนวต้าน : 1680, 1695
 
          SET Index :  คาดอ่อนตัวลงพักฐาน ระยะสั้นไม่ควรหลุดแนวรับ 1650 ดัชนีเปิดทรงตัวในช่วงเช้าจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มสื่อสารและขนส่ง ก่อนจะปรับตัวขึ้นแรงในช่วงบ่ายจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเช่าซื้อ แต่มีแรงขายหนักหุ้นกลุ่มธนาคาร กดให้ดัชนีกลับมาปิดบริเวณเส้น EMA200Day อีกครั้ง ระยะสั้นคาดอ่อนตัวลงต่อ มองแนวรับระยะสั้นที่ไม่ควรหลุด คือ 1650 หากประคองตัวได้ คาดแกว่งพักฐานบริเวณดังกล่าวอีกสักพัก
 
กลยุทธ์การลงทุน
          มีหุ้น: ถือหุ้นต่อ แต่จังหวะ Rebound ยังเน้นขายที่แนวต้านที่ 1680 และ 1695 แต่หากหลุด 1650 แนะนำ Stop Loss
          ไม่มีหุ้น: รอดูจังหวะปรับตัวลงหากไม่หลุด 1650 อาจเสี่ยงซื้อเพื่อเล่น Rebound สั้นๆ
 
Tiger Picks : 
 
          GULF  : ซื้อ
          แนวรับ : 120.00-123.00
          แนวต้าน : 127.00/130.00
          ตัดขาดทุน : 118.00
 
          JMART : ซื้อ
          แนวรับ : 10.80-11.00
          แนวต้าน : 11.60/12.20
          ตัดขาดทุน : 10.60
 
ข่าว เด่น พร้อมคำแนะนำ 
 
SYNTEC
          เปิดช่องลงทุนโกยเงิน การันตีสิ้นปีรายได้แตะ 8 พันล. (ทันหุ้น)
          ความเห็น : แนวโน้มผลประกอบการ 2Q62 มีแนวโน้มจะน่าผิดหวังต่อเนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำ  แนวโน้มกำไรปีนี้จะทรุดลงหนัก  งานก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ซบเซาลงทำให้ภาวะแข่งขันสูง  ตั้งแต่ต้นปีถึงเดือน ส.ค. 2562 ได้งานใหม่แล้ว 4,163 ล้านบาท  เทียบกับเป้าหมายปีนี้จะได้งานใหม่ 8,200 ล้านบาท  ช่วงนี้แนะนำชะลอการลงทุนรอดูสถานการณ์ก่อน
 
SPALI
          ลั่นยอดโอนครึ่งปีหลังโต บุ๊ก 2 คอนโดใหญ่ แจ้งงบ Q2 วันที่ 13 ส.ค.นี้ (ข่าวหุ้น)
          ความเห็น : แม้คาดว่าทิศทางผลประกอบการ 2Q62 จะต่ำที่สุดในปีนี้ แต่ด้วย Backlog ที่มีในมือ และ Secured Revenue ที่ 76% ทำให้คาดว่าเป้ารายได้ที่ 28,270 ล้านบาท (+10.6% YoY) มีความเป็นไปได้ที่จะถึงเป้าและคาดกำไรสุทธิที่ 6,402 ล้านบาท (+11% YoY) โดย 4Q62 จะเป็นไตรมาสที่ดีสุด เราคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 12 เดือนเท่ากับ 28.00 บาท/หุ้น บนฐาน PER ที่ 9.1 เท่า
 
LPN
          ปันผลระหว่างกาล 20 สต. ครึ่งหลังลุยเปิดโครงการใหม่ 1.8 หมื่นล้าน (ข่าวหุ้น)
          ความเห็น : LPN ปรับเป้า Presales ลงจาก 16,500 ล้านเป็น 8,000 ล้าน (-51% YoY) ใกล้เคียงเราคาด ปรับลดการเปิดโครงการใหม่จาก 20,000 ล้านเป็น 13,200 ล้าน (-10% YoY) และ LPN เริ่มเห็นมุมลบจาก Demand ชาวจีนที่ทิ้งดาวน์โครงการมักกะสัน ประมาณ 30% ของยอดต่างชาติหรือ 12% ของโครงการทั้งหมด เรามองว่าแผนที่ถูกปรับลงจะจำกัดการเติบโตของ LPN และคำแนะนำ Take Profit ราคาเป้าหมาย 7.50 บาท/หุ้น
 
          นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ 
          Research Department Tel. 02-658-5000
 
 
 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!