- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 06 August 2019 15:56
- Hits: 3157
รู้ทันหุ้น: บล. เคจีไอ
ทิศทางประกาศวันนี้ (รักพงศ์ไชยศุภรากุลเลขทะเบียนฯ : 19838)
ลงมา แต่ใกล้เข้ามาซื้อหุ้นไทยแล้ว
เคจีไอประเมินดัชนีวันนี้ลง ... แรงขายจากต่างประเทศทำกำไรต่อเนื่องได้รับแรงกดดันจากการทำธุรกรรมการค้าและสงคราม ประกาศเก็บภาษีนำเข้า 10% กับสินค้าจีน 3 แสนล้านเหรียญจีนได้รับการสั่งซื้อสินค้าเกษตรในทันทีและยังได้รับการปล่อยตัว 11 ปีที่ 7.05 หยวน / ดอลล่าร์ฯ และครั้งที่ 2) ล่าสุดก. คลังของเงินประกันสุขภาพของจีนที่เป็นตัวเงิน (ตัวจัดการสกุลเงิน) จะออกมาตรการลงโทษจีนมากขึ้นอีกจิตวิทยาของตลาดการเงินโลกขณะที่ตัวเลข ISM ออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้คาดว่าจะมีการปรับตัวลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นคาดว่าดัชนี SET จะปรับตัวลงมาที่ระดับ 1,801 จุดและคาดว่าดัชนี PE จะอ่อนตัวลง 2563 ที่ 15 0 เท่าและเรามองว่าดัชนีหุ้นไทยที่ต่ำกว่า 1,650 มีความน่าสนใจสำหรับการกลับมาของการลงทุนทางการเงินในขณะนี้มีโอกาสสูงมากที่ธนาคารกลางทั่วโลกจะเร่งการผ่อนคลายทางการเงินเช่น i) เฟดน่าจะลดลง ดอกเบี้ยต่อในเดือน ก.ย. และ ii) ธ . กลางยุโรปมีแนวโน้มลดลง + ออกนโยบายเสริมสภาพคล่องในไตรมาส 4/2562
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไรที่แนวรับ MBK*, TFG, ADVANC*
MBK* (เป้าพื้นฐาน 30 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 22.2 บาท / แนวต้าน 23.2 บาท และถัดไป 24 บาท (Stop loss 21.8 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้น Laggard กลุ่มฯที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศที่จะได้รับอานิสงส์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐฯ (+กลุ่มห้างค้าปลีก, โรงแรม) รวมทั้งแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง (+ธุรกิจลีสซิ่ง) 3) Valuation ยัง Laggard กลุ่มฯ โดย PE ปี 2562 = 11 เท่า, Dividend yield 3.6% ... คาดกำไร 2Q62 โต +18% YoY, +37% QoQ และ 2H62 โต HoH
TFG (เป้าพื้นฐาน 4.88 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 4.24 บาท / แนวต้าน 4.6 - 4.74 บาท (Stop loss 4 บาท) 2) ราคาถั่วเหลืองและข้าวโพดในตลาดโลกปรับตัวลงแรง 2 วันร่วงลงทั้งคู่ (ผลจากสงครามการค้าสหรัฐฯ - จีน โดยจีนเตรียมหยุดสั่งซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะถั่วเหลือง) เป็นผลบวกต่อผู้ประกอบการฯอย่าง TFG แม้ว่าราคาเนื้อหมูในประเทศจะพักฐาน แต่ราคาเนื้อไก่ยังยืนสูง (ดีมานด์การส่งออก เพื่อทดแทนเนื้อหมูในต่างประเทศยังสูง) ขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์ก็ปรับตัวลงแรง (ส่งผลให้อัตรากำไรยังยืนสูงตามเดิม) 3) ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 2Q62 = 356 ล้านบาท (+60% YoY, +74% QoQ)
ADVANC* (เป้าพื้นฐาน 236 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 200 บาท / แนวต้าน 210 - 216 บาท (Stop loss 194 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯปรับคำแนะนำขึ้นจากเดิม "ถือ" เป็น "ซื้อ" และปรับประมาณการฯปี 2562 - 63 ขึ้น +9% และ +24% ตามลำดับ หลังรายงานกำไร 2Q62 ดีกว่าคาด +11% ... อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์วันนี้ 3) ประกาศปันผล 3.78 บาท/หุ้น Dividend yield +1.83% (XD วันที่ 16 ส.ค.)
หุ้นเชิงปริมาณ & พื้นฐาน "Quantamental"
ตลาด Sideway down พักแล้วอาจมีรีบาวด์ ตลาดหุ้นไทยแม้จะมีการพักฐานลงมาจากเดือนก่อนหน้าที่เราประเมินว่าเริ่มแพงแล้วก็ตาม แต่จากสถานการณ์ปัจจุบัน คาดว่ามีโอกาสที่ Consensus จะปรับลดประมาณการหุ้นลงอีกจากปัจจุบัน EPS ของ SET index อยู่ที่ 104.5 จุด (ลดลงจาก 105.5 จุด เดือนก่อน) ทำให้แม้ว่า Bond yield จะปรับลงก็ตาม แต่ Yield gap ยังทรงตัว และซ้ำเติมด้วยสถานการณ์ Inverted yield curve สหรัฐฯ ทำให้เราประเมินว่านักลงทุนจะต้องการส่วนชดเชยความเสี่ยงมากกว่าค่าเฉลี่ย ประเมินแนวรับ ±1650 จุด และถัดไป 1625 จุด แนะนำ รอย่อซื้อเก็งกำไรที่แนวรับ หุ้นเด่น MBK* (Stop loss 21.8 บาท), JMT (Stop loss 16 บาท), PREB (Stop loss 10.3 บาท)
กลยุทธ์ Pair trade เพื่อลดความเสี่ยงตลาดฯ (Beta) แนะนำ i) Long QH* + Short LH* (ขาดทุนรวม -0.2%) และ ii) คงสถานะ Long BGRIM* + Short EGCO* (กำไรรวม +2%)
หุ้นมีข่าว
(+/-) รมว.คมนาคมไฟเขียวให้ THAI* จัดหาเครื่องบินใหม่ 38 ลำในวงเงินที่ประมาณการไว้ 1.36 แสนล้านบาท แม้มีการคัดค้านจากสหภาพแรงงาน เนื่องจากเรื่องดังกล่าวมีความจำเป็นสำหรับบริษัทในการเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน (บางกอกโพสต์) เราเห็นด้วยในประเด็นที่ว่า การได้เครื่องบินใหม่สำหรับ THAI จะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในอนาคต แต่ก็จะมีผลให้อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น (จากระดับ 6.25 เท่า ณ สิ้นงวด 1Q62) ดังนั้นบริษัทจำเป็นต้องอธิบายถึงการสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้น หากได้รับการอนุมัติจาก ครม. ทั้งนี้ เรามีมุมมองทางลบต่อคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2562-63 ดังนั้น เรายังคงแนะนำ “ขาย” โดยมีราคาเป้าหมาย 8.50 บาท
(+) เร่งแพ็กเกจยักษ์กระตุ้นศก. (ไทยโพสต์) คลังเร่งทำแพ็กเกจใหญ่กระตุ้นเศรษฐกิจ ปูพรมช่วยคนทุกหย่อมหญ้า ชง ครม.เคาะ ส.ค.นี้ "อุตตม" เชื่อมาตรการนี้ดันจีดีพีโตเกิน 3% "สมคิด" สวนฝ่ายค้าน "บิ๊กตู่" เหมาะนั่งประธาน ครม.ศก. ปลื้มนักลงทุนญี่ปุ่นเชื่อมั่นไทย
(+) BCPG* ซุ่มเจรจาพาร์ตเนอร์ลุยฐานผลิตไฟฟ้าต่างแดน (ทันหุ้น) BCPG* แย้มเตรียมดีลพาร์ตเนอร์ใหม่ หวังร่วมทุนปั้นโรงไฟฟ้าจากพลังน้ำในแถบเพื่อนบ้าน คาดชัดเจนไม่เกิน Q4/2562 พร้อมย้ำเป้าปีนี้ EBITDA ตามเป้าโต 15-20% จากปีก่อน
(+) BGRIM* ลุยขายไฟปีนี้เต็ม 3000 MW ดีลซื้อ SPP เสริมทัพ (ทันหุ้น) BGRIM* เผยย้ายโรงไฟฟ้าไปอ่างทองตามแผน พร้อมเดินหน้าก่อสร้าง SPP Replacement 5 โครงการ คงแผน COD ปลายปี 2565 มั่นใจครึ่งหลัง COD โรงไฟฟ้าลมเพิ่ม คาดสิ้นปีมีกำลังผลิตไฟฟ้ากว่า 3000 เมกะวัตต์ จ้องซื้อโรงไฟฟ้า SPP เข้าพอร์ต เล็งลงทุนโครงการพลังงานในเวียดนาม มาเลเซีย เกาหลี คาดชัดเจนภายในปีนี้ ขานรับนโยบายรัฐหนุนพลังงานสะอาด
(+) PTT* ปัดบอร์ดเบรก PTTOR เข้าตลท. 'สนธิรัตน์’เรียกผู้บริหาร PTTOR แจงแผนเดือนนี้ (ข่าวหุ้น) PTT* ชี้แจง PTTOR ยังเดินหน้าเตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามแผน พร้อมปฏิเสธข่าวบอร์ดปตท.มีมติเบรก! ฟาก “สนธิรัตน์” ลั่นไม่ขวาง เตรียมเรียกผู้บริหาร PTTOR แจงแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในเดือนนี้ ชี้ต้องเป็นประโยชน์ต่อประเทศ พร้อมลุยแผนขับเคลื่อนนโยบาย 3 เดือนแรก
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
BCPG* (เป้าเฉลี่ย Consensus 19.4 บาท ... สูงสุด 23.5 บาท) ประเมินแนวรับ 19.5 บาท / แนวต้าน 19.8 - 20.4 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 19.3 บาท)
GUNKUL* (เป้าพื้นฐาน 4.90 บาท) ประเมินแนวรับ 3.0 บาท และ 2.98 บาท / แนวต้าน 3.12 บาท (Stop loss 2.9 บาท)
MAJOR* (เป้าพื้นฐาน 33.25 บาท) ประเมินแนวรับ 28.5 บาท / แนวต้าน 30.0 - 31.75 บาท (Stop loss 28 บาท)
TK (เป้าเฉลี่ย Consensus 9.8 บาท ... สูงสุด 12.2 บาท) ประเมินแนวรับ 10 บาท / แนวต้าน 10.3 บาท (Stop loss 9.8 บาท)
KBANK* (เป้าพื้นฐาน 213 บาท) สำหรับนักลงทุนระยะยาว แนะนำทยอย สะสมหุ้น โดยประเมินแนวรับ 170 บาท หากกรณีต่ำกว่า 170 บาท ประเมินแนวรับถัดไป 166 บาท
PYLON (เป้าพื้นฐาน 7.4 บาท) ประเมินแนวรับ 6.15 บาท / แนวต้าน 6.45 บาท (Stop loss 6.15 บาท)
WHAUP* (เป้าพื้นฐาน 9 บาท) ประเมินแนวรับ 6 บาท / แนวต้าน 6.4 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 5.9 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
ADVANC* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 236 บาท รายงานกำไรสุทธิ 2Q62 = 7.8 พันล้านบาท (+2% QoQ, -3% YoY) ดีกว่าคาด +11% และดีกว่า Consensus คาด +8% โดยหากตัดรายการพิเศษตั้งสำรองพนักงาน ตามกฎหมายแรงงานใหม่ กำไรปกติจะอยู่ที่ 8.3 พันล้านบาท (+9% QoQ, +3% YoY) โดยกำไรโตจาก ARPU ที่ดีขึ้น ฝ่ายวิจัยฯปรับเพิ่มประมาณการฯปี 2562 - 63 อีกราว +9% และ +24% ตามลำดับ และปรับคำแนะนำขึ้นเป็น "ซื้อ" (เดิม "ถือ")
COM7* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 28 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 2Q62 = 265 ล้านบาท (+6% QoQ, +22.6% YoY) และฝ่ายวิจัยฯ ปรับเพิ่มประมาณการฯปี 2562 - 63 ขึ้น +5.9% และ +13.9% ตามลำดับ
CK* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 33.75 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 2Q62 = 443 ล้านบาท (+24.7% QoQ, -18.1% YoY) โดยกำไรที่ลดลง YoY เพราะหลายโครงการอยู่ในช่วงสุดท้ายก่อนปิดโครงการ (เขื่อนไซยะบุรี, รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ฯลฯ) ส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ เป็นเพราะรายได้จากเงินปันผล ฝ่ายวิจัยฯปรับลดประมาณการกำไรปี 2562 ลง 12.2% แต่ปรับเพิ่มของปี 2563 ขึ้น 3.2%
กลุ่มโรงแรม น้ำหนักลงทุน "เท่ากับตลาดฯ" ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มกำไรของกลุ่มโรงแรมใน 2Q62 จะอ่อนแอจาก Low season และการชะลอตัวของภาคการท่องเที่ยว แม้ว่า Valuation ของกลุ่มจะถูกแต่ยังไม่เห็นการฟื้นตัวในระยะสั้น ฝ่ายวิจัยฯปรับลดประมาณการฯ CENTEL* และ ERW* ลง ขณะที่ยังคงประมาณการฯของ MINT* ... อ่านรายละเอียดการ Preview งบรายตัวในบทวิเคราะห์เพิ่มเติม
Strategic SET daily
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- นัยต้าน 1671 จุด
วันนี้หากดัชนี SET ดีขึ้นปิดเหนือแรง 1671 จุดได้รับรูปทรงที่เพิ่มขึ้นในกรอบ 1671-1685 จุด แต่เป็นวันนี้ดัชนีชุดลดลงหรือปิดต่ำกว่าแรง 1671 จุดที่อาจมีรูปร่างราคาลงในกรอบ 1671- 1653 จุด
แนวรับวันนี้: 1661/1655 แนวต้านวันนี้: 1671/1682
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลางคือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
1 อดิศักดิ์คำมูล
2 66.2658.8888 ต่อ 8843