- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 25 July 2019 16:38
- Hits: 3692
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
• วันนี้เราคาด SET Index เคลื่อนไหวในกรอบ1,720-1,740จุดโดยคาดเห็นแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากโครงการของภาครัฐฯ ซึ่งจะมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาวันนี้
• Market Factor
• (-) สัญญาน้ำมันดิบ WTI และ Brent วานนี้ปรับลง 1.6%DoDและ 1.0%DoD แม้ EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯลดลง 10.8 ล้านบาร์เรลมากกว่าที่ตลาดคาด 4.0 ล้านบาร์เรลแต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวหลัง IMF ปรับประมาณการณ์ GDP โลกลง 0.1% เหลือโต 3.2% ในปี 62 และโต 3.5% ในปี 63 ทำให้คาดความต้องการน้ำมันในตลาดโลกชะลอลง
• (-) สำนักงบประมาณเตรียมนำเสนอข้อมูลในการประชุม ครม. วันที่ 30 ก.ค. เกี่ยวกับแนวทางเบิกจ่ายงบเดือน ส.ค. –ก.ย., การใช้งบในช่วงที่งบปี 63 ยังไม่อนุมัติและการนำงบปี 62 ที่จะก่อหนี้ผูกพันไม่ทันและงบส่วนกลางรวม 4 แสน ลบ. เพื่อนำไปใช้ดำเนินโครงการกระตุ้นศก. เร่งด่วนได้ในช่วงปลายปี (ประชาชาติธุรกิจ)
• (Watch) จับตาการแถลงนโยบายของ ครม. รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาต่อรัฐสภาวันนี้
• (-) Consensus ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 115.14 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 104.77บาท หรือลดลง 9.01% Year To Date
• Update Flow เมื่อวานนี้ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 57.50ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD ต่างชาติซื้อสุทธิรวม 22,768.15 ลบ.
• Investment Strategy
• สัปดาห์นี้เราประเมินการเคลื่อนไหวของดัชนี SET Index มีโอกาส Sideway-Up ในกรอบ 1,720-1,750 จุด โดยมีแรงหนุนหลักจากแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบายภาครัฐฯ หลังช่วงวันหยุดที่ผ่านมามีการเปิดเผยคำแถลงต่อสภาของคณะรัฐมนตรีในวันที่ 25 ก.ค. ที่พูดถึงนโยบายเร่งด่วน 12 เรื่อง ซึ่งคาดจะมีรายละเอียดในการดำเนินนโยบายมากขึ้นในภายหลัง ขณะที่ทิศทางของ Fund Flow คาดกลับมาผันผวน หลัง 10Yr- Thai Bond Yield ปรับลงสู่ 1.910% ต่ำกว่า 10Yr US Bond Yield ที่ 2.053% กอปรกับปัจจุบันซื้อขายด้วย PER ที่สูงราว 18.7x ทำให้ตลาดไทยมีความน่าสนใจลดลง นอกจากนี้ยังคาดนักลงทุนส่วนใหญ่ยังอยู่ระหว่างติดตามทิศทางการประชุม Fed ในวันที่ 30-31 ก.ค. นี้ (Bloomberg Consensus คาดมีโอกาส 81.5% ที่จะลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือน ก.ค. และคาดปี 62 มีโอกาส 44.3% ที่จะลดดอกเบี้ยมากกว่า 2 ครั้ง) ดังนั้นเราจึงยังคงแนะนำลงทุนในหุ้นหลัก 2 กลุ่มดังนี้
• หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้นศก.ของรัฐฯ: จากภาวะศก.ที่ชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมาโดยเฉพาะภาคการบริโภคและการลงทุนของเอกชนทำให้เรามองว่าครม. ชุดใหม่ที่มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการวานนี้มีโอกาสสูงที่จะเร่งออกนโยบายกระตุ้น ศก. ในระยะสั้นเพื่อพยุง ศก. เราจึงแนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์จากประเด็นดังกล่าวที่ยังมี Upside น่าสนใจ ได้แก่ BJC (ช่วง 2H62 คาดเห็นการฟื้นตัว HoH จากการขยายสาขา BigC มากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขาและสาขาที่กัมพูชา 1 สาขา BigC Food Place 1 สาขา และ Mini BigC ราว 200 สาขา), SEAFCO (ช่วง 2Q62 คาดโต5.4%YoY ด้วยงานก่อสร้างที่รับรู้สูงกว่าปีก่อนเราปรับเพิ่มประมาณการหลังได้รับงานใหม่ขนาดใหญ่มูลค่ากว่า 900 ล้านบาท) DCC (คาดปี 62 โตYoYหนุนด้วยกำลังผลิต และต้นทุนกระเบื้องดีขึ้นจาก Economy of scale หลังเข้าบริหารและถือหุ้น RCI อีกทั้งตั้งเป้าขยายสาขาปีนี้เพิ่มอีก 5 สาขาพร้อมปรับ Business Model แบ่งพื้นที่สาขาให้ธรุกิจที่เกี่ยวเนื่องเช่าเพื่อเพิ่มช่องทางรับรู้ราย ได้แก่ บริษัท นอกจากนี้ยังซื้อขายที่ PER15.2X ถูกกว่าทั้ง GLOBAL และ HMPRO) และ ROBINS (แม้ช่วง 2Q62 คาดกำไรหดทั้ง QoQ และ YoY หลังเผชิญ SSSG ที่คาดติดลบราว 0.5-1% แต่คาดราคาหุ้นปรับลงมาเพื่อสะท้อนปัจจัยดังกล่าวแล้วและคาดกำไรในช่วงครึ่งปีหลังจะยังโตHoHและโต YoY หนุนด้วยช่วง 4Q62 เป็นช่วง High Season และมีการกลับมาเปิดของ 3 สาขาที่ปิดปรับปรุง)
• กลุ่ม Defensive Stock: ท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้นเราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (คาดผลดำเนินงานมีโตต่อเนื่องตั้งแต่ช่วง2Q62 หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถมินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.) และ LH (คาดได้รับผลกระทบจากมาตรการ LTV ที่จำกัด เนื่องจากมีสัดส่วนโครงการแนวราบมากกว่าคอนโดราว 2-3 เท่าบวกกับมีกำไรจากการลงทุนในHMPRO, QH และ LHFG ที่โตต่อเนื่อง หนุนคาดผลการดำเนินทั้งปีโต YoY และคาดมีการจ่าย ปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานช่วง 1H62 คิดเป็น 3.2-3.6% ต่อปี)
24-Jul-19 Change (pts.) 23-Jul-19
SET Index 1,725.44 0.57 1,724.87
SET50 Index 1,138.31 -1.25 1,139.56
SET100 Index 2,525.07 -2.12 2,527.19
High 1,730.71 Gainers 611
Low 1,720.60 Unchanged 506
Value (Bt m) 52,833.06 Losers 870
Volume (*000) 19,430,409
Market Valuation
SET Data 2018F 2019F Long Term
Fwd PER (x) 16.5 15.0 15.0
EPS Growth (%) 13.9 9.3 3.1
EV/EBITDA (x) 11.1 10.2 9.8
FWD PBV (x) 1.9 1.8 1.7
Dividend Yield (%) 3.0 3.3 3.5
ROE 11.2 11.4 11.3
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 24-Jul-19 WTD MTD YTD
Institution 36.11 (5,248.59) (25,224.56) (1,837.11)
Proprietary (455.03) (48.85) 1,445.07 19,123.00
Foreign 57.50 3,960.16 22,768.14 63,417.34
Individual 361.42 1,337.28 1,011.36 (80,703.23)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary